Daily Market Outlook (13 ม.ค.60)

Daily Market Outlook (13 ม.ค.60)

นักลงทุนรอดูความชัดเจนของนโยบาย Trump

คาดหุ้นไทยปรับตัวลงวันนี้หลังจาก Trump ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในนโยบายกระตุ้นด้านการคลังในการแถลงข่าวครั้งแรกเมื่อวันพุธแต่กลับมีรายงานข่าวหลายกระแสว่าพรรครีพับลีกันและ Trump กำลังเตรียมมาตรการภาษีชายแดนสำหรับสินค้านำเข้าทุกกรณีเพื่อสร้างความได้เปรียบสินค้าที่ผลิตในประเทศ แถมมีข่าวเพิ่มว่า Trump ต้องการอัตราภาษีพิเศษสำหรับลงโทษสินค้านำเข้าบางกรณีเป็นการเฉพาะด้วย อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอีกน่าจะหนุนหุ้นพลังงานและช่วยลดการปรับตัวลงของตลาด ภายในประเทศม.หอการค้าไทยปรับเพิ่มการประเมินความเสียหายจากอุทกภัยในภาคใต้ขึ้นเป็น 2.2 หมื่นล้านบาท จากที่เคยประเมินไว้ 1-1.5 หมื่นล้านบาท รัฐบาลตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อเร่งให้โครงการ EEC สามารถเดินหน้าได้ทันที

หุ้นเด่นวันนี้: IRPC (ราคาปิด 5.30 บาท;NR; ราคาเป้าหมาย Bloomberg 5.70 บาท)

เรายังคงชื่นชอบบมจ. ไออาร์พีซี และเลือกเป็นหุ้นเด่นในวันนี้ จากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งในระยะยาวด้วยปัจจัยหนุนหลักจากโครงการ UHV (Upstream Project for Hygiene & Value Added Products) ที่จะช่วยปรับปรุงโรงกลั่นทั้งในส่วนของความสามารถในการกลั่น ค่าการกลั่น รวมไปถึง Utilization rate ให้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างฐานกำไรใหม่ให้กับ IRPC ในระยะยาว ด้วยเสถียรภาพของกำไรที่ดีขึ้นและ ROE ที่สูงขึ้น ซึ่งเราประเมินว่า IRPC จะรับรู้ประโยชน์อย่างเต็มที่ในปีนี้ นอกจากนี้ในระยะสั้นคาด IRPC ยังจะได้แรงหนุนจากการปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่นของค่าการกลั่นตลาดภูมิภาคในทุกๆ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปในฤดูหนาวช่วง 4Q59-1Q60 ที่นับว่าเป็น High season ประกอบกับจะรับรู้กำไรส่วนหนึ่งจากผลของสต็อกตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบโลกในช่วงที่ผ่านมา จากประมาณการกำไรของ Bloomberg consensus คาด EPS ปี 2559 เติบโต 9% YoYมาอยู่ที่ 0.50 บาท ก่อนจะขยายตัวลดลงเป็น 3% ในปีนี้เนื่องจากจะมีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่เป็นเวลา 30 วันในช่วง 1Q17 อย่างไรก็ตามการเติบโตของกำไรจะเกิดขึ้นเต็มที่ในปี 2561 ที่ระดับ 12% ภายใต้การผลิตอย่างเต็มกำลัง ราคาหุ้นปัจจุบันยังน่าสนใจโดยซื้อขายที่ PBV ปี 2560 ที่ 1.2 เท่า ซึ่งแม้จะเท่ากับค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีตทั้ง 5 ปีและ 10 ปี แต่เรามองว่า PBV สมควรที่จะถูก Re-rate ขึ้นไปจากในอดีตด้วยเสถียรภาพของกำไรที่สูงขึ้นและ ROE ที่ดีกว่า นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลยังน่าสนใจที่ราว 4.2-5.0% ต่อปี ในส่วนของ Price Pattern ของ IRPC มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ IRPC มีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 6.70 บาท ซึ่ง IRPC มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 5.05 บาท (แนวต้าน: 5.40, 5.50, 5.60; แนวรับ: 5.25, 5.15, 5.05)

ปัจจัยสำคัญ 

ประเด็นในประเทศ:

• ม.หอการค้าคาดเสียหายน้ำท่วม 2.2 หมื่น ลบ. ม.หอการค้าคาดการณ์ว่าความเสียหายน้ำท่วมเฉียบพลันใน 12 จังหวัดภาคใต้ระหว่าง 1-10 ม.ค. น่าจะอยู่ที่ราว 22.36 หมื่น ลบ. สูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 1 หมื่น ลบ. แม้การเติบโตเศรษฐกิจของภาคใต้จะลดลงสู่ 2% จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 3.2% การเติบโต GDP ของประเทศยังคาดว่าจะลดลงเพียงแค่ 0.1% และการเติบโตทั้งปียังน่าจะอยู่ราว 3.5-4% (The Nation/Bangkok Post)

• รัฐบาลตั้งเป้างบขาดดุลเพิ่มขึ้นในปี 61 รองนายกฯ สมคิดกล่าวว่ารัฐบาลตกลงที่จะตั้งเป้างบประมาณขาดดุลมากขึ้นหรือเท่ากับ 4.5 แสน ลบ. ในปีงบประมาณ สูงสุดนับแต่รัฐบาลทหารเข้ามามีอำนาจ เทียบกับงบประมาณขาดดุลปีงบประมาณ 60 ที่คาดว่าจะเท่ากับ 3.9 แสน ลบ. เพื่อเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจไทยท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
ในปัจจุบัน (Bangkok Post)ความเห็น: เราเชื่อว่ารัฐบาลจะใช้งบประมาณขาดดุลอย่างราบรื่นด้วยระดับหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่อยู่ในระดับต่ำที่ 42.7% ณ ต.ค. 59 ซึ่งน่าจะเพิ่มเป็น 45% ในปีงบประมาณ 61

• คณะกรรมการ EEC เตรียมเร่งโครงการให้เร็วขึ้นรมว.อุตสาหกรรมกล่าวว่ารัฐฐาลเตรียมเร่งโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกโดยตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจและผู้ร่างกรอบเขตเศรษฐกิจ ที่อยู่อาศัยและอุตสาหกรรมเพื่อให้โครงการเดินหน้าและเริ่มแผนได้ทันทีหลังผ่านร่างกฎหมาย (Bangkok Post)

• SIRI (ราคาปิด 1.81 บาท) วางแผนเปิดตัวโครงการในปี 2560 ทั้งสิ้น 19 โครงการ มูลค่ารวม 41,200 ล้านบาท (ลดลง11%YoY) แยกเป็น คอนโดมีเนียม 8 โครงการ มูลค่า 21,900 ล้านบาท (53%) บ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่า 18,500 ล้านบาท (45%) และทาวเฮ้าส์ 2 โครงการ มูลค่า 800 ล้านบาท (2%) ตั้งเป้า Presales ไว้ที่ 36,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20%YoY และตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 34,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 4%YoY ในขณะที่ Backlog คงเหลืออยู่ที่ 39,000 ล้านบาท (ที่มา: SIRI’s analyst meeting)  ความเห็น: แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2560 ที่ 2.24 บาท อิงค่า PER เฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 10 เท่า คาดเงินปันผลตอบแทนรายปีอยู่ที่ 6.6%

ต่างประเทศ:

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันพฤหัส จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของทรัมป์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลงก่อนการประมูลพันธบัตรอายุ 30 ปีในวงเงิน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการประมูลครั้งสุดท้ายของการประมูลพันธบัตรในวงเงิน 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีปรับตัวลง 4 bps ที่ระดับ 2.921% หลังจากแตะที่ระดับ 2.902% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้น 2/32 อัตราผลตอบแทนลดลงอยู่ที่ระดับ 2.361% (Reuters)

• ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์เทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันพฤหัสเนื่องจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นเกี่ยวกับนโยบายเพิ่มอัตราการหมุนเวียนของเงินในสหรัฐฯ หลังงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนครั้งแรกของทรัมป์ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 1.4% เทียบกับเงินเยน สู่ที่ระดับ 113.76 เยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ส่วนเงินยูโรแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์เทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0684 ดอลลาร์สหรัฐ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ล่าสุดปรับตัวลง 0.4% อยู่ที่ 101.38 (Reuters)

สหรัฐ:

• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากนักลงทุนไม่แสดงท่าทีใด ๆ ต่อความไม่แน่นอนของนโยบายทรัมป์หลังจากที่ทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับลดภาษีและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เคยหาเสียงไว้ในงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนครั้งแรกของเขาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนยังคงรอการประกาศผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ในไตรมาส 4/59 (Reuters)

ยุโรป:

• ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวลดลงโดยราคาหุ้น Fiat Chrysler ปรับตัวลดลงราว 1 ใน 6 ในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ ออกมากล่าวหาในเรื่องของการปล่อยมลพิษส่วนเกินออกมา ซึ่งอาจนำไปสู่ค่าปรับจำนวนมหาศาล (Reuters)

เอเชีย:

• นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายชินโซอะเบะ เดินทางมาถึงประเทศฟิลิปปินส์ในวันพฤหัสบดีผ่านมา:เป็นการมาเยือน 2 วัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำคนใหม่และส่งเสริมการตั้งฐานทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในฟิลิปปินส์ เพื่อเพิ่มขีดการแข่งขันกับประเทศจีน การเมาเยือนของอาเบะมาพร้อมกับเงินช่วยเหลือ 1 ล้านล้านเยน (8.77 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เป็นครั้งแรกที่ให้กับประเทศฟิลิปปินส์ภายใต้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตเต้และมาท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ไปอย่างมาก และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในนโยบายต่างประเทศของฟิลิปปินส์(Reuters)

• ภาษีชายแดนของโดนัลด์ทรัมป์และพรรครีพับลิกันกำลังถูกพิจารณานำมากระตุ้นเงินทุนจากประเทศจีน รีพับลิกันมีแผนสำรองสำหรับการปรับภาษีชายแดนซึ่งหารือกันที่20% เป็นภาษีนำเข้า ขณะที่จะมีการให้ส่วนลดการส่งออก ในขณะที่พรรครีพับลิกัน และทรัมป์ วางแผนเรียกใช้ภาษีชายแดนในทุกการนำเข้าเพื่อสนับสนุนการผลิตในประเทศทรัมป์ยังขู่ว่าจะเรียกเก็บโดยตรงในการนำเข้าของบริษัทซึ่งย้ายการผลิตจากสหรัฐฯ ไปต่างประเทศ (Reuters)

• ธนาคารของจีนขยายวงเงินให้สินเชื่อในปี 2559 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 12.56 ล้านล้านหยวน (1.82 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่รัฐบาลได้รับการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อตอบสนองเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของการแตกในตราสารหนี้ ผู้บริหารระดับสูงของจีนกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่าจะเกิดการเจริญเติบโตของฟองสบู่สินทรัพย์ในปี 2560 และจะให้ความสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• น้ำมันดิบบวกเกือบ 2% วันพฤหัส จากข่าวดีว่าผู้ส่งออกน้ำมันหลัก ได้แก่ ซาอุและรัสเซียกำลังลดกำลังการผลิตตามสัญญาเพื่อลดภาวะน้ำมันล้นเกินและการคาดการณ์ว่าอุปสงค์ความต้องการจากจีนจะทำสถิติ น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าแตะ 56.43 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลก่อนจะแผ่วลงเล็กน้อย ปิดบวก 95 เซนต์หรือ +3.3% ปิด 56.05ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าบวก 78 เซนต์ปิด 53.03 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)

• ราคาทองคำวิ่งแตะ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์จุดสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ในวันพฤหัส เพราะดอลลาร์อ่อนค่าหลังการแถลงข่าวโดย Donald Trump ที่ออกมาแถลงเป็นอย่างเป็นทางการที่รอคอยกันมานานกลับให้รายละเอียดแค่นิดเดียวเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ ราคาทองคำตลาดจรปิดบวก 0.5% ที่ 1,197.64 ดอลลาร์สหรัฐ หลังแตะจุดสูงสุดนับแต่ 23 พ.ย. ที่ 1,206.98 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำล่วงหน้าปิดบวก 0.3% ที่ 1,199.80 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)