'สมคิด'ตั้งงบปี61ขาดทุน4.5แสนล.-รายจ่าย2.9ล้านลบ.

'สมคิด'ตั้งงบปี61ขาดทุน4.5แสนล.-รายจ่าย2.9ล้านลบ.

"สมคิด" เผยปีงบ 61 ตั้งงบประมาณขาดดุล 4.5 แสนลบ. จากรายได้ 2.45 ล้านลบ. รายจ่ายที่ 2.9 ล้านลบ. ตั้งเป้าเบิกจ่ายงบไม่ต่ำกว่า 88%

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมพิจารณากำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2561 ว่า ที่ประชุมโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค.ได้รายงานถึงการ จัดทำงบประมาณประจำปี 2561 (ต.ค.60-ก.ย.61) ภายใต้สมมติฐานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ขยายตัวที่ 3.8% เงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 2% ด้านนำเข้าอยู่ที่ 7% ราคาน้ำมันดิบดูไบที่ 55 ดอลลาร์ต่อบาเรล ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนมองไว้ที่ 36 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับการประชุมทั้ง 4 หน่วยงาน คาดว่าในปีงบประมาณ 2561 จะมีรายได้ 2.45 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% หรือที่ 2.343 ล้านล้านบาทจากปีงบประมาณ 2560 ขณะเดียวกันคาดว่าในปีงบประมาณ 2561 จะตั้งงบประมาณขาดดุลงบประมาณทั้งสิ้น 4.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2560 ที่ตั้งเป้าขาดดุลงบประมาณ 3.9 แสนล้านบาท

"ในปีงบประมาณ 2561 ที่เราตั้งเป้าหมายขาดดุลเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 4.5 แสนล้านบาท ถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามผลักดันการลงทุนภาครัฐให้มากขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจจะมีเครื่องยนต์อยู่หลายตัว แต่หากรัฐบาลหยุดการลงทุนก่อน เครื่องยนต์อื่นๆก็อาจจะไม่ติดก็ได้ ดังนั้นเพื่อให้ทุกตัวไปได้เต็มที่ ก็คิดว่า ควรจะขาดดุลเพิ่ม ซึ่งงบลงทุนก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของประเทศ โดยเราอยากให้ในปีงบประมาณ 2561 งบลงทุนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 23% จากปีงบ 2560 ที่อยู่ที่ 21-22%" นายสมคิด กล่าว

สำหรับกรอบการเบิกจ่ายงบประมาณการลงทุนนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีรายละเอียดออกมาของแต่ละโครงการแต่ในเบื้องต้นได้ตั้งเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายของปี 2561 จะไม่ต่ำกว่า 88% จากปีงบประมาณ 2560 ที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 87% โดยในปีงบประมาณ 2561 จัดตั้งงบประมาณรายจ่ายไว้ที่ 2.45 ล้านล้านบาท และคาดว่าภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 หน่วยราชการจะส่งคำของบประมาณรายจ่ายกรอบจริงที่ 3.41 ล้านล้านบาท โดยสำนักงบประมาณจะต้องไปพิจารณางบประมาณต่างๆ เพื่อให้อยู่ในกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 2561 ที่ 2.9 ล้านล้านบาท

"แม้ว่าเศรษฐกิจจะเริ่มดี แต่ไม่ใช่ว่าจะมาลดทอนรายจ่าย แต่ต้องเพิ่มรายจ่าย เพื่อสร้างรากฐานในอนาคต ด้วยความตั้งใจว่าจะให้ปี 2560 เป็นปีที่เศรษฐกิจติดและเติบโตได้ต่อเนื่อง มีการลงทุนที่เพียงพอ โดยมีหลายโครงการที่จะสอดรับกับการลงทุนในปีงบประมาณ 2560-2561 เพราะต้องการให้ประเทศมีการลงทุนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต โดยเฉพาะการเพิ่มงบลงทุนในกลุ่มจังหวัด" นายสมคิด กล่าว

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ 2561 ตั้งเป้าเบิกจ่ายงบประมาณไว้ที่ 88% เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2560 ที่ตั้งไว้ที่ 87% โดยตั้งเป้าหมายขาดดุลงบประมาณ 4.5 แสนล้านบาท โดยยังคำนึงถึงกรอบหนี้สาธารณะที่ 45% ของจีดีพี ซึ่งยังถือเป็นตัวเลขที่อยู่ในระดับต่ำ และไม่เป็นความเสี่ยงต่อประเทศ รวมทั้งยังเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้สามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง การลงทุนขยายตัวดี โดยเฉพาะในโครงการเมกะโปรเจกต์