เจาะกีฬา : ฟุตบอลโลก 48 ทีม

เจาะกีฬา : ฟุตบอลโลก 48 ทีม

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า

สร้างปรากฏการณ์ใหม่ของวงการฟุตบอล ที่ทั่วโลกกล่าวขวัญถึงและฮือฮาที่สุด นับตั้งแต่เขารับตำแหน่งประมุขลูกหนังโลกเมื่อปีที่แล้ว นั่นมติเอกฉันท์ให้ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายในปี 2026 จะมีทีมเข้าแข่ง 48 ทีม เพิ่มจากจำนวน 32 ทีมในปัจจุบัน

ผมติดตามความเห็นของหลายคนทั้งในและต่างประเทศ มีฝ่ายไม่เห็นด้วยมากกว่า เหตุผลสำคัญคือกลัวการแข่งขันบางนัดไม่น่าสนใจ ทีมอ่อนโดนยำใหญ่ในรอบแรก ฟุตบอลโลกจะไม่ขลัง ทีมเยอะจะเป็นฟุตบอลสี่โหล เข้ารอบง่ายไป ต่างๆนานา หลายท่านคงได้ยินเข้าหูมาบ้าง

แต่ผมกลับมองว่ามันดีสำหรับฟีฟ่าและวงการฟุตบอล ฟุตบอลโลกครั้งแรก ปี 1930 ที่อุรุกวัย มี 13 ทีมเข้าร่วม โลกยังไม่เจริญ หลายประเทศไม่รู้จักฟุตบอล แข่งกันแต่ในเมืองหลวง หลังสงครามโลกในปี 1950 บราซิลเป็นเจ้าภาพก็มี 13 ทีม แต่จำนวนแมทช์ทั้งหมดเพิ่ม ผู้ชมในสนาม รวมเป็นล้านคน ฟุตบอลโลกเป็นที่นิยมมากขึ้น

จากนั้นก็เพิ่มเป็น 16 ทีม ในปี 1954 และ 24 ทีมในปี 1982 และมีจำนวนแมทช์เตะกัน 52 นัด เป็นยุคเฟื่องฟูของฟุตบอลโลก ช่วงนี้ฟีฟ่าให้บริษัทต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการเพิ่มรายได้ของการแข่งขันมากขึ้น ฟุตบอลโลกกลายเป็นรายการกีฬาอันดับ 2 ของโลกต่อจากโอลิมปิก จากนั้นในปี 1998 ที่ฝรั่งเศส ฟีฟ่าสยายปีก เพิ่มเป็น 32 ทีม มีแข่งกัน 64 นัด เราดูกันตาแฉะ อดหลับอดนอนแต่ก็ดู เพราะอะไร เพราะนี่คือฟุตบอลโลก

ถ้ามองไปปี 2026 ต้องไม่ลืมนะครับว่า ฟีฟ่า เพิ่มทีมเข้ารอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี ผมว่าสมเหตุสมผล อีก 9 ปีข้างหน้า เราจะเดินทางสะดวกขึ้น การสื่อสารดีขึ้น ผมยังไม่รู้เลยว่าตอนนั้น ฟีฟ่า จะถ่ายทอดสดให้พวกเราชมทางช่องทางไหนเป็นหลัก โทรทัศน์ หรือ สมาร์ทโฟน หรืออะไร

เหตุผลแรกที่เพิ่มทีมกันได้ง่าย ก็เพราะสหพันธ์ที่เป็นสมาชิกของฟีฟ่าตามทวีปต่างๆ 5 หรือ 6 สหพันธ์ ต่างอยากได้ทีมของตนเข้าร่วมมากขึ้น มติเลยออกมาแบบไม่มีการคัดค้าน ส่วนฟีฟ่าจะได้อะไร ได้คนดูมากขึ้น ได้เงินมากมายมหาศาล (เพิ่มขึ้น 3 หมื่นล้านบาท) จากจำนวนแมทช์ 64 เป็น 80 นัด แต่ก็แข่งกัน 32 วันเหมือนเดิม

อินฟานติโน บอกเงินไม่ใช่เหตุผลสำคัญที่สุด แต่อยากให้ทั่วโลกมีส่วนร่วมในฟุตบอลโลกมากขึ้น ซึ่งการเพิ่มทีมช่วยได้จริง สมมติสหรัฐกับรัสเซียไม่ได้เข้ารอบ คนในประเทศดูฟุตบอลโลกน้อยลงมากแน่ แล้วถ้าจีนหรืออินเดียได้ไปรอบสุดท้ายละ ผู้ชมเพิ่มเป็นพันล้านคนเลย

อีกอย่างที่คนห่วงคือมาตรฐานทีมไม่เท่ากัน บางนัดจะไม่สนุก ผมว่าไม่หรอกครับ

ทีมอย่างเซเนกัล แคเมอรูน ดังจากรายการนี้ได้อย่างไร เพราะพวกเขาล้มยักษ์มา ส่วนญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ ชนะได้ทุกทีมแล้ว ฟุตบอลยุคนี้ทันกัน พัฒนาการสำหรับหลายประเทศที่เรียนรู้ศาสตร์ลูกหนังทีหลังพัฒนาขึ้นมามาก จนใกล้เคียงกัน ผลการแข่งขัน 5:0, 6:0 ยังมีให้เห็นในลีกใหญ่ของยุโรปเลย ฟุตบอลโลกมีก็ไม่แปลก กีฬาลูกกลมๆ มันแล้วแต่วัน

แฟนฟุตบอลชาวไทยหลายท่านมีความหวังกับการที่ไทยจะมีโอกาสมากขึ้นกับฟุตบอลโลก ตอนนี้เรายังไม่ทราบโควตาทวีปเอเซีย แต่ความหวังที่พวกท่านมีกับทีมชาตินี่แหละครับ คือสิ่งที่ฟีฟ่าอยากให้เกิดทั่วโลก กีฬาชนิดอื่นอิจฉาฟุตบอลทั้งนั้นแหละครับ ได้รับความสนใจ คนดูเยอะที่สุด กีฬาชิงแชมป์โลกอื่นๆ เอามา 16 ทีมก็มีความแตกต่างในฝีมือแล้ว พลิกล็อคยาก พวกชอบเสี่ยงโชคทายผลไม่ค่อยมี ก็จะมีแต่ฟุตบอล ที่ทำให้ชาวโลกได้ฮือฮากันทุก 4 ปี

ฟุตบอลยุคนี้ต่างจาก 40 ปีที่แล้วมากมาย ทั้งโลก จำนวนนักฟุตบอลอาชีพ จำนวนผู้ชมการถ่ายทอดสด ประชากรโลก เพิ่มขึ้นทั้งนั้น ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเพิ่มทีมขึ้นอีกเท่าตัว ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย