'พลังงาน'เตรียมรับมือกมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกะรทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้เตรียมแผนการณ์ไว้รองรับทุกกรณีว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปิโตรเลียม 2 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม(ฉบับที่) พ.ศ....และร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม(ฉบับที่) พ.ศ.... แล้วเสร็จเมื่อไหร่ หลังล่าสุดพล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ประธานกมธ. เตรียมเสนอที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ขยายระยะเวลาการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ปิโตรเลียมทั้ง 2 ฉบับ เป็นครั้งที่ 5 ออกไปอีก 30วัน เสร็จสิ้นในวันที่ 19 ก.พ.นี้ จากเดิมจะเสร็จสิ้นวันที่ 21 ม.ค.นี้

โดยได้สั่งการให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เร่งจัดทำรายละเอียดร่างกฎหมายลูก 5 ฉบับรองรับไว้ และเตรียมออกประกาศเชิญชวนให้เอกชนเข้าร่วมการประมูลแหล่งสัมปทาน 2 แหล่ง ที่จะหมดอายุลงในปี 2565-2566 คือ แหล่งเอราวัณ และแหล่งบงกช ไปพร้อมกับการรอคอยกฎหมายแม่ทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งจากการประเมินในเบื้องต้น หากการดำเนินการออกประกาศเปิดประมูลมีความล่าช้า อาจจะทำให้กรอบการคัดเลือกผู้ชนะการประมูลที่จะเสร็จสินในเดือนก.ย.นี้ ไม่เป็นไปตามแผนเดิม แต่คาดว่าจะเสร็จสิ้นได้ในปลายปีนี้ ดังนั้น กระทรวงพลังงาน จะรายงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)ในการประชุมวันที่ 17 ก.พ.นี้ ให้รับทราบถึงความล่าช้าดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ทางผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมทั้ง 2 แหล่งที่จะหมดอายุลง คือ เชฟรอน และ ปตท.สผ. ได้มีการสอบถามมายังกระทรวงพลังงาน เพื่อขอรับทราบกรอบระยะเวลาดำเนินการเปิดประมูลที่ชัดเจน และแจ้งว่าหากการประมูลล่าช้าออกไป ทางเอกชนอาจจะต้องปรับแผนลดวงเงินลงทุนในแหล่งสัมปทานดังกล่าว ซึ่งทางกระทรวงพลังงานได้แจ้งเหตุผลถึงความล่าช้าในกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายที่ต้องใช้ระยะเวลา และยืนยันว่าภาครัฐจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด

นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า กรมฯ ได้เร่งจัดทำกฎหมายลูก 5 ฉบับ ให้เสร็จภายในเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้ กฎหมายลูกบางฉบับได้ร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะหลักเกณฑ์ว่าจะคัดเลือกแปลงปิโตรเลียมใดให้เหมาะสมกับการเปิดประมูลในรูปแบบใด ทั้งรูปแบบการให้สัมปทาน ระบบแบ่งปันผลผลิต(พีเอสซี) และระบบรับจ้างผลิต(เอสซี) ซึ่งจะดูทั้งปริมาณสำรองและรูปแบบที่จะจูงใจให้เอกชนยื่นประมูลแข่งขัน ทั้งการเปิดประมูลสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 และแหล่งสัมปทานที่จะหมดอายุทั้ง 2 แหล่ง