ออมสินเปิดแผนปีนี้เดินหน้า 6 ภาระกิจสำคัญ

ออมสินเปิดแผนปีนี้เดินหน้า 6 ภาระกิจสำคัญ

ออมสินเผยแผนปี 2560 เดินหน้า 6 ทิศทาง“เศรษฐกิจพอเพียง-ส่งเสริมการออม-แก้หนี้นอกระบบ-ธนาคารผู้สูงวัย-SMEs Start up-Digi-Thai Banking”

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2560 ว่า จะดำเนินงานภายใต้ทิศทางที่ธนาคารกำหนดไว้ 6 ด้าน ได้แก่ 1.การบริหารแบบเศรษฐกิจพอเพียง 2.ส่งเสริมการออม และสร้างวินัยทางการเงิน 3.แก้ไขหนี้นอกระบบ 4.ธนาคารผู้สูงวัย 5.SMEs Start up และ 6. Digi-Thai Banking ดำเนินภายใต้กลยุทธ์ตามกลุ่มลูกค้า 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มลูกค้าฐานราก 2.กลุ่มลูกค้าบุคคล และ 3.กลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐ

สำหรับในปี 2559 ที่ผ่านมา ภารกิจหลัก 4 ด้านสำคัญ ที่ธนาคารดำเนินมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ได้แก่ 1.เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อาทิ การจัดทำกระปุกออมสินเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 (แจกในวันออมแห่งชาติ), จัดนิทรรศการและจัดทำสารคดีชุด “ตามรอยเสด็จฯ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์” รวบรวมพระบรมฉายาลักษณ์และภาพบรรยากาศที่หาชมได้ยากของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ และเจริญพระชนม์ ซึ่งปี 2560 ธนาคารยังคงดำเนินภารกิจสำคัญนี้อย่างต่อเนื่อง

2. สร้าง GSB New Generation เพราะธนาคารออมสินมีภารกิจสำคัญ คือ ปลูกฝังการออม ซึ่งต้องเริ่มจากวัยเด็ก ทำให้ธนาคามีส่วนสำคัญในการหล่อหลอมเด็กให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี โดยเฉพาะในมิติการออม ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการดำเนินชีวิต โดยเริ่มจากงานสำคัญต้นปี 2560 วันเด็กแห่งชาติ ซึ่งธนาคารออมสินจัดกิจกรรมเป็นประจำทุกปี เพราะเด็ก คือ บุคคลสำคัญของชาติในอนาคต โดยปีนี้จัดขึ้นในแนวคิด “เด็กไทยก้าวตามรอยพ่อหลวง” พร้อมทั้งจัดกิจกรรมอื่นๆ อาทิ GSB Virtual School Bank, เว็บไซต์ GSBGen.com 

3.ธนาคารเพื่อสังคม ซึ่งอยู่ในแผนงาน “ออมสินสร้างโลกสีชมพู” ที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งทุกโครงการเป็นการนำร่องและจุดประกายการทำธุรกิจหรือประกอบอาชีพต่างๆ ต่อไป และ 4. การดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งธนาคารเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของรัฐในการผลักดันมาตรการต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศนับได้มากกว่า 10 โครงการในรอบปีที่ผ่านมา เช่น 1.สินเชื่อประชารัฐเพื่อประชาชน 2.สินเชื่อแก้ไขปัญหาหนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษา 3.บ้านประชารัฐ 

4.การอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาอาชีพ และสร้างความรู้ทางการเงินแก่ผู้ประกอบการรายย่อยฯ 5.National e-Payment 6.มาตรการประชารัฐเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชน (พักชำระหนี้) 7.มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ในระดับหมู่บ้าน เป็นต้น โดยต้นเดือนก.พ.2560 จะมีโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่รัฐบาล จะเปิดตัวเพื่อเดินหน้าแก้ไขปัญหานี้อย่างบูรณาการและเบ็ดเสร็จ

“ยุทธศาสตร์ที่มุ่งให้บริการลูกค้าและประชาชนอย่างเต็มกำลังนั้น มีบริการสำคัญที่ธนาคารออมสินเดินหน้า คือ e-payment ตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการให้ประชาชนใช้ระบบชำระเงินที่ไม่ต้องถือเงินสด และยังดำเนินการโอนให้แก่ผู้มีรายได้น้อยเพื่อใช้ตามความจำเป็นเหมาะสมอีก 2.1 ล้านราย โดยบริการนี้ได้ออกแบบให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนผู้มีรายได้น้อย ในชื่อ People Card ซึ่งเป็นบัตรกดเงินสดสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อย รวมถึงการให้สินเชื่อวงเงินฉุกเฉินผ่าน Mobile Banking : MyMo ซึ่งสินเชื่อเหล่านี้จะอยู่ในกรอบความคิดตามนโยบายรัฐ คือ ความพอเพียง มีวินัยทางการเงิน เพื่อให้เศรษฐกิจได้รับการพัฒนาสู่ความยั่งยืนต่อไป”นายชาติชาย กล่าว

ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2559 นั้น ธนาคารมีกำไรสุทธิหลังหักสำรองหนี้สงสัยจะสูญกว่า 25,000 ล้านบาท ส่วนสำคัญมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ กว่า 60,000 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน มาจากการบริหารพอร์ตสินทรัพย์ และหนี้สินให้สอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดและสภาพคล่อง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและเงินรางวัลต่ำกว่าปีก่อน และรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น แม้ปีนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการนำส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 0.18% (3,446 ล้านบาท) และนำเงินส่งกระทรวงการคลังและนำส่งระหว่างกาลกว่า 13,000 ล้านบาท ทำให้มีอัตรารายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์สุทธิเฉลี่ย (NIM) 2.51% และสัดส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อรายได้รวมสุทธิ 88.25%

ขณะที่ มีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 5,368 ล้านบาทสูงกว่าปีก่อน โดยมาจากธุรกิจบัตร บริการอิเล็กทรอนิกส์ ค่านายหน้า และรับชำระค่าเบี้ยประกันภัย ซึ่งเป็นผลจากการปรับปรุงผลิตภัณฑ์-บริการ และทำกลยุทธ์ทางการตลาดที่จูงใจลูกค้า โดยสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิต่อรายได้รวมสุทธิคิดเป็น 7% โดย ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2559 ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 2,509,579 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2558 จำนวน 109,111 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.55% มีการบริหารเป็นไปตามกรอบทิศทางที่กำหนดไว้

ส่วนการส่งเสริมการออม ปรากฏว่า มียอดเงินฝากรวม 2,160,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2558 จำนวน 77,601 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.73% โดยปี 2559 ธนาคารออกผลิตภัณฑ์เงินฝากหลากหลายที่ตอบสนองตรงตามความต้องการของผู้ออมเงิน ทั้งเงินฝากและสลากออมสินพิเศษ 3 ปี และสลากออมสินพิเศษ 5 ปีสำหรับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธ.ค.2559 อยู่ที่ 1,901,851 ล้านบาท มียอดลดลงจากสิ้นปี 2558 จำนวน 17,808 ล้านบาท ซึ่งลดลงร้อยละ 0.93 โดยเฉพาะจากการรับชำระคืนก่อนกำหนดของสินเชื่อภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ กว่า 100,000 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่รวมยอดชำระคืนดังกล่าว เงินให้สินเชื่อแก่ลูกค้ารายย่อยและ SMEs ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

“ในปี 2559 มีปริมาณความต้องการสินเชื่อของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธนาคารออมสินสามารถเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้เงื่อนไขที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งดำเนินโครงการตามนโยบายของรัฐบาลได้อย่างรวดเร็ว คล่องตัว และหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโครงการตามมาตรการประชารัฐต่างๆ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาอาชีพและสร้างความรู้ทางการเงินแก่ผู้ประกอบอาชีพรายย่อยในชุมชนเมือง จำนวน 150,000 ราย และมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ”นายชาติชาย กล่าว

นอกจากนี้ ธนาคารออมสินมุ่งให้ความสำคัญกับการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างรัดกุมและผ่อนปรนตามความเหมาะสม และเน้นประสิทธิภาพในทุกกระบวนการตามมาตรการแก้ไขหนี้ มีการแก้ไขตามลำดับความสำคัญและอายุหนี้ การเจรจาไกล่เกลี่ย และการปรับโครงสร้างหนี้ ส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์อยู่ในระดับดี โดย ณ วันที่ 31 ธ.ค.2559 มีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) 38,720 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.04% ของสินเชื่อรวม เป็นไปตามเป้าหมายและต่ำสุดในระบบสถาบันการเงิน