การปฏิวัติห้องส้วม! กลยุทธ์ดูดนักท่องเที่ยว

การปฏิวัติห้องส้วม!  กลยุทธ์ดูดนักท่องเที่ยว

ปี 2017 นี้ มีการคาดการณ์ว่าแวดวงการท่องเที่ยวน่าจะคึกคักเพราะแต่ละประเทศต่างงัดกลเม็ดเด็ดพรายมาเพื่อชักชวนนักท่องเที่ยวให้ไปเยือน

แม้แต่ไทยก็ยอมลดค่าวีซ่าเข้าประเทศลงเหลือ 1,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนทั้งๆ ที่เคยประกาศขึ้นไปเท่าตัวหรือ 2,000 บาท

สำหรับนักเดินทางหลายคน เมื่อจะไปที่ใด เงื่อนไขหลักประการหนึ่งคือ เรื่องสาธารณสุขโดยเฉพาะเรื่องห้องน้ำและห้องส้วม ประเทศแรกๆ ที่โดนตัดทิ้งคือ “จีน” ความมี “ชื่อเสีย” ของส้วมในจีนทำเอาหลายคนขยาดถึงแม้ว่า ระยะหลังๆ สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งจะพยายามปรับปรุงแล้วก็ตาม

 รัฐบาลกลางของจีนก็รู้ดีว่า เรื่องนี้ทำลายการท่องเที่ยวอย่างมากจึงได้ประกาศออกมาเป็นนโยบายแห่งชาติหรือเรียกว่า “การปฏิวัติห้องส้วม” (Toilet Revolution) เลยทีเดียวหลังจากมีข้อร้องเรียนมากมายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวจีนมีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศและได้เห็นการห้องน้ำห้องส้วมของต่างประเทศ

 ปีเตอร์ กู๊ดแมนเคยบรรยายห้องส้วมในจีนไว้ว่า “เมื่อเข้าส้วมในทุกๆ ที่ในจีน ว่าจะเป็นที่สนามบิน สถานีรถไฟหรือสวนสาธารณะ มันเหม็นมาก ผมต้องกลั้นหายใจทุกครั้ง กลิ่นยังตลบอบอวลไปถึงสถานที่ๆ อยู่ใกล้ๆ กันด้วย คุณต้องพยายามมองด้านบน ห้ามมองที่พื้นโดยเด็ดขาด ห้องส้วมส่วนใหญ่ไม่มีกระดาษชำระ น้ำไม่พอ คนก็ไม่ราดน้ำกัน แทบจะไม่มีส้วมชักโครกเลย”

 ทางการจีนจึงจัดสรรงบประมาณเพื่อการนี้โดยเป็นส่วนหนึ่งของงบ 2.9 แสนล้านเหรียญเพื่อปรับปรุงสภาพหรือสร้างห้องส้วมสาธารณะใหม่จำนวน 100,000 แห่งจนถึงปี 2020 คาดกันว่า ความพยายามนี้จะช่วยทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้นโดยคาดว่า จำนวนคนจีนที่ท่องเที่ยวภายในประเทศจะมากถึง 6.4 แสนล้านทริปในแต่ละปีภายในปี 2020 หรือมากขึ้นจาก 4 แสนล้านในปีที่แล้ว ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดว่าจะสูงถึง 150 ล้านคนโดยขึ้นจาก 134 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว

 นายหลี จินซาว หัวหน้าฝ่ายบริหารการท่องเที่ยวแห่งชาติของจีนยอมรับว่า มาตรฐานของสาธารณูปโภคส้วมในจีนไม่ดีพอและให้คำมั่นว่า ภายใน 3 ปีนี้จะปรับปรุงให้ดีขึ้นและสะอาดขึ้น

 เขากล่าวว่า จะมีการสร้างส้วมใหม่จำนวน 33,500 แห่งในอนาคตอันใกล้นี้และจะมีการปรับปรุงส้วมจำนวน 25,000 แห่ง เขาคาดว่า รัฐบาลท้องถิ่นจะสามารถทำให้ส้วมสะอาดและได้มาตรฐานระดับ “3 ดาว” ภายในปีนี้ทางการจีนวาดหวังว่า จะทำให้ห้องส้วมในประเทศมีมาตรฐานและมีกลิ่นหอมเท่าๆ กับญี่ปุ่นเลยทีเดียว

 นอกจากนี้ ทางการจีนวางแผนที่จะปรับปรุงระเบียบของการใช้ห้องส้วมด้วยการลงโทษผู้ที่ทำผิดระเบียบด้วยการแบล็คลิสต์ผู้ที่ฝ่าฝืน

 นายหลี ซิหง รองหัวหน้าฝ่ายบริหารการท่องเที่ยวของจีนกล่าวว่า “คนจำนวนมากใช้เวลานานมากในการแต่งตัว แต่ไม่ยอมเสียเวลาวินาทีเดียวในการกดน้ำชักโครก เราคงยังต้องใช้เวลาอีกยาวนานสำหรับการปลูกฝังอารยธรรมการใช้ห้องน้ำห้องส้วมในจีน”

 การแบล็คสิสต์จะพุ่งเป้าไปที่พฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องในการใช้สาธารณูปโภคสาธารณะ ถึงแม้ว่าการดำเนินการเรื่องนี้จะยังไม่ชัดเจน แต่เว็บไซท์ของฝ่ายบริหารการท่องเที่ยวคาดว่า จะทำแบบเดียวกับที่จีนออกมาประกาศชื่อนักท่องเที่ยวจีนที่ไปทำตัวไม่เหมาะสมระหว่างเดินทางต่างประเทศให้สาธารณชนได้รู้ ตัวอย่างเช่น คนจีนที่ไปทะเลาะบนเครื่องบินหรือชกคนขายของในต่างประเทศ

 นอกจากจีนแล้ว ห้องส้วมของอินเดียก็มีชื่อเสียที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก ทางการอินเดียก็รู้ปัญหานี้และพยายามแก้ไขเพราะทราบดีว่าเรื่องนี้มีผลต่อการท่องเที่ยวและชื่อเสียงของประเทศ เมื่อกันยายนปีที่แล้ว อินเดียประกาศว่า จะร่วมเฉลิมฉลอง “วันส้วมโลก” ในเดือนพฤศจิกายน

 นายมาเฮช ชาร์มา รัฐมนตรีการท่องเที่ยวกล่าวว่า ทางการจะปรับปรุงเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยของส้วมในอินเดียเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยจะเน้นที่ความสะอาด “การท่องเที่ยวช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประเทศอย่างมาก อินเดียเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือน 24 ชั่วโมงต่อวันและ 365 วันต่อปี”

 ส่วนที่เมืองไฮเดอราบัดซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐอานธรประเทศทางตอนใต้ของอินเดียซึ่งได้รับสมญานามว่า “เมืองแห่งไข่มุก”วางแผนจะติดตั้ง “ส้วมอิเลคโทรนิค” หรือ e-toilets ในสถานที่ต่างๆ 17 แห่ง เจ้าหน้าที่ของเมืองกล่าวว่า งานเฟสแรกที่จะเสร็จสิ้นในวันที่ 25 มกราคมจะมีการติดตั้งส้วมไฮเทคนี้ที่แหล่งท่องเที่ยว ป้ายรถเมล์ และที่ๆ มีคนสัญจรผ่านไปมา

 โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารแห่งรัฐไฮเดอราบัดและบริษัทน้ำมัน ห้องส้วมนี้จะติดตั้งระบบชักโครกและทำความสะอาดอัตโนมัติ นอกจากนี้ ระบบนี้ยังไม่ต้องการคนเฝ้าแต่สามารถทำงานผ่านการบังคับทางไกลและผ่านเว็บ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวว่า ระบบนี้ใช้พลังงานน้อยและไม่เปลืองน้ำ ใครที่ต้องการใช้ต้องหยอดเหรียญที่ประตูและค่าเข้าสำหรับผู้หญิงและผู้ชายจะไม่เท่ากัน โดยผู้หญิงจะต้องจ่ายมากกว่า