กทค.ให้ค่ายมือถือจัดแพ็คใหม่ แบ่งโทรนาที-วินาทีอย่างละ 50%

กทค.ให้ค่ายมือถือจัดแพ็คใหม่ แบ่งโทรนาที-วินาทีอย่างละ 50%

กทค.มีมติทบทวนวิธีคิดค่าบริการโทรมือถือ ยอมให้โอเปอเรเตอร์จัดแพ็คเกจคำนวณค่าตามจริงเป็นนาที-วินาทีอย่างละ 50% ของแพ็คเกจในตลาด

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า วานนี้ (11 ม.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ได้เห็นชอบ 4 เรื่องได้แก่ 1. มีมติทบทวนวิธีคิดอัตราการคิดค่าบริการโทรศัพท์ จากที่เคยมีมติคณะกรรมการ (บอร์ด) ครั้งที่ 10/2559

โดยให้เพิ่มเติมการคิดค่าบริการโทรศัพท์มือถือเป็นนาทีเข้าไปในมติเดิมที่ให้คิดอัตราค่าบริการทุกโปรโมชั่นเป็นวินาทีเท่านั้น โดยจะมีคำสั่งทางปกครองไปถึงผู้ให้บริการทุกรายต่อไป ซึ่งการพิจารณาไม่ได้อิงกับการอุทธรณ์ของผู้ประกอบการอย่างเดียว แต่คิดถึงผู้ใช้งานด้วย
ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือต้องกำหนดแพ็คเกจโปรโมชั่นที่คิดค่าโทรตามจริงเป็นวินาทีไม่น้อยกว่า 50% และมีโปรโมชั่นคิดค่าโทรตามจริงเป็นนาที 50% ของโปรโมชั่นทั้งหมดที่มีอยู่ในตลาด เพราะหลังจากสำนักงาน กสทช. ลงพื้นที่ พบผู้ประกอบการออกโปรโมชั่นแบบวินาทีเพียง 5% ของโปรโมชั่นที่มีอยู่ เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน

การกำหนดแพ็คเกจตามมติให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์ดำเนินการทันทีเมื่อมีคำสั่งทางปกครอง จึงจะกำหนดเวลาประเมินผลการใช้แนวทางดังกล่าวประมาณ 6 เดือนโดยจะพิจารณาว่าหลังจากปรับแพ็คเกจตามมติที่เพิ่มเติมแล้ว ประชาชนใช้งานอย่างไร เพื่อนำความเห็นมาปรับปรุงการคิดอัตราค่าบริการในอนาคต

“การออกโปรโมชั่นที่ผ่านมาสำหรับบังคับใช้ผู้ได้รับอนุญาตคลื่นความถี่ 800 และ 900 เมกะเฮิรตซ์ ได้พิจารณาคิดค่าโทรตามจริงเป็นวินาทีเท่านั้น แต่มีความสับสนวุ่นวานมาก เกี่ยวกับประเด็นนี้ ดังนั้นบอร์ด กทค. ขอเรียนชี้แจงว่าการคิดค่าโทรเคยทบทวนมติที่ประชุม ซึ่งมีประชาชนการยื่นข้อร้องเรียนทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางคนที่โทรสั้นชอบการคิดค่าโทรเป็นวินาทีตามจริง แต่คนที่โทรยาวก็ชอบการคิดค่าแบบเป็นนาที แบบเหมาจ่าย การที่ กทค. กำหนดให้คิดเป็นวินาทีอย่างเดียว อาจแพงขึ้นหากผู้บริโภคใช้งานแบบโทรยาว จึงเป็นที่มาในการทบทวนมติครั้งนี้ ให้คิดโปรแบบทั้งเป็นวินาทีและนาทีอย่างละ 50%”

ทั้งนี้ กสทช. ได้กำหนดการคิดอัตราค่าโทรขั้นสูงไว้ต้องไม่เกิน 0.68 บาทต่อนาที ซึ่งสำรวจพบว่าโปรโมชั่นปัจจุบันเฉลี่ย 0.40 นาที อย่างไรก็ดี สำนักงาน กสทช. จะปล่อยให้กลไกตลาดเป็นตัวกำหนด และพิจารณาความเหมาะสม ว่าสุดท้ายแล้วประชาชนชื่นชอบแบบใด

“เราไม่ได้คำนึงถึงคำอุทธรณ์ของค่ายเอกชน แต่คำนงถึงประชาชนที่ต้องใช้ถูกลง จึงเป็นที่มาให้ทบทวนให้คิดทั้งนาทีและวินาที หลังจากนั้นจะออกคำสั่งทางปกครองไปยังค่ายมือถือ ประชาชนได้ประโยชน์ ซึ่งที่ประชุมบอร์ดกทค.ได้พิจารณาอย่างหนักและลงคะแนนเสียงโหวต 3 ต่อ 1 เสียง”

นอกจากนี้ ที่ประชุมบอร์ด กทค. มีแผนการเปิดประมูลเลขหมายอีก 200 เลขหมาย ในวันที่ 18-19 มี.ค. นี้ ที่สำนักงานกสทช. โดยเริ่ม 7 ตัวเหมือน มี 50 เลขหมาย เริ่มต้น 3 ล้านบาท 6 เดือนเหมือน มี 150 เลขหมาย เริ่มต้น 5 แสนบาท

พร้อมกันนี้ ได้สอบถามความคืบหน้าการพิจารณาเก็บเงินบริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) ที่อยู่ในมาตรการเยียวยาการใช้คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ โดยยอมรับว่าการคำนวณเงินของคณะกรรมการพิจาณาและบอร์ดกทค.มีตัวเลขที่ต่างกันในแง่เงินรายได้ และการแบ่งเงินให้ บมจ.กสท โทรคมนาคม

ดังนั้น ที่ประชุมมีมติส่งเรื่องไปยังสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกระทรวงการคลังให้ลงความเห็น หากมีรายละเอียดข้อสังเกตุให้ส่งเรื่องถึงคณะทำงานภายใน 30 วัน หากยังไม่เสร็จ บอร์ดกทค. จะฟันธงคิดอัตราค่ารายได้เอง

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมบอร์ด กทค.มีมติให้เรียกเก็บเงินจากบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) เรื่องการนำเงินส่งเป็นรายได้แผ่นดินในการใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ในช่วงมาตรการเยียวยา จำนวน 7,221 ล้านบาท ซึ่งรวมค่าเช่าโครงข่ายของบมจ.ทีโอที และจะพิจารณาแบ่งให้ทีโอทีตามผลการพิจารณา กำหนดส่งคำสั่งทางปกครองไปแจ้งเอไอเอสอย่างเป็นทางการภายใน 1-2 วันนี้