หุ้นโยงน้ำท่วมใต้ กระทบ 'ระยะสั้น'

หุ้นโยงน้ำท่วมใต้ กระทบ 'ระยะสั้น'

นักวิเคราะห์ประเมินกลุ่มท่องเที่ยว เกษตร ยางพารา อาหารทะเลส่งออกรับผลกระทบจากเหตุการณ์ "น้ำท่วมภาคใต้"

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ของไทยมีความรุนแรงมากขึ้น และเริ่มมีผลกระทบกระจายวงกว้างในหลายๆ ธุรกิจ โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีโรงงานตั้งอยู่ในบริเวณจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้ และนักวิเคราะห์อยู่ระหว่างประเมินผลกระทบดังกล่าว

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า น้ำท่วมรุนแรงภาคใต้ของไทยจะกระทบหลายบริษัทและธุรกิจเกี่ยวกับท่องเที่ยวแต่น่าจะเป็นผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น โดยเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของหลายบริษัท รวมถึงกระทบต่อการขนส่งสินค้าด้วย

ทั้งนี้บริษัทที่มีธุรกิจอยู่ในภาคใต้ ได้แก่ บริษัท บางสะพานบาร์มิล จำกัด (มหาชน) BSBM, บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) SSI, บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) VNG, บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) PTG, บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) LST, บริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) UPOIC, บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) TRUBB, บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) STA เป็นต้น

นอกจากนั้นยังกระทบต่อการท่องเที่ยว (โรงแรม รีสอร์ท สปา และการบิน) ในภาคใต้ของไทยด้วย (ซึ่งเป็นจังหวะไม่ดี เพราะเกิดน้ำท่วมหนักในช่วง High season ของการท่องเที่ยว)

บล.เอเซียพลัส ระบุว่าจากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ตั้งแต่ 10 ธ.ค.2559 รวม 10 จังหวัดสำหรับอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบ คือเกษตร ยางพารา อาหารทะเลส่งออก รวมถึงกลุ่มการบิน โรงแรมและการท่องเที่ยว โดยผู้ประกอบการที่จัดทะเบียนในตลาดฯ คือ STA คาดว่ามีปัญหาในการจัดหาวัตถุดิบยางพารามาแปรรูป น้อยแต่การที่ราคายางอยู่ในภาวะขาขึ้นถือว่าดี ส่วนบริษัทในตลาดฯ อีกแห่งคือ TRUBB แต่มีขนาดการผลิตที่เล็กกว่า STA น่าจะได้ประโยชน์ในลักษณะเดียวกัน

ปาล์มน้ำมัน UPOIC ยังดำเนินการผลิตได้เป็นปกติ เนื่องจากอยู่ในที่สูง และโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มดิบขนาดเล็กอื่นหยุดดำเนินการผลิตชั่วคราวจากปัญหาน้ำท่วม แต่โดยรวมแล้วปริมาณผลปาล์มสดที่เข้าสู่โรงงานผลิตน้ำมันปาล์มดิบ

การเลี้ยงกุ้ง แม้ว่าพื้นที่ภาคใต้ส่วนใหญ่ที่เกิดน้ำท่วมจะมีการเลี้ยงกุ้ง เป็นหลัก แต่คาดว่าได้รับผลกระทบค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเป็นช่วงพักบ่อเลี้ยงกุ้งอยู่แล้วในช่วงฤดูหนาว ทำให้ผู้ประกอบการส่งออกกุ้งไทย (TU, CPF, CFRESH) ได้รับผลกระทบค่อนข้างจำกัด

ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ คาดว่าได้รับผลกระทบ รองลงมาคือ วัสดุก่อสร้าง คือ VNG มีฐานการผลิตหลักอยู่ที่สุราษฎร์ธานี ซึ่งใช้เป็นโรงงานเพื่อส่งออก น่าได้รับผลกระทบไม่มากนัก, SCC มีโรงงานปูนซีเมนต์ที่ทุ่งสง ขนาด 7 ล้านตัน/ปี คิดเป็น 30% ของกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจมากนัก เนื่องจากโรงงานที่ทุ่งสง จะเน้นสำหรับการส่งออกปูนเป็นส่วนใหญ่

 บริษัทเหล็กที่ได้รับผลกระทบคือ BSBM เพราะโรงงานอยู่ที่ อ.บางสะพาน จ. ประจวบฯ ปริมาณน้ำท่วมอยู่ในระดับ 50 ซม. ยังไม่เท่าจังหวัดอื่นเช่น ตรัง พัทลุง ที่สูงถึง 1.5-2 เมตร ยังสามารถผลิตได้ แต่มีปัญหาในการขนส่งสินค้า จึงต้องรอติดจนกว่าการขนส่งจะกลับมาปกติ