Daily Market Outlook (10 ม.ค.60)

คาดหุ้นไทยวันนี้ทรงตัวจากนักลงทุนทั่วโลกอยู่ในช่วงขายสินทรัพย์เสี่ยงรับรู้กำไรเสียก่อนหลังจากปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องและก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 ม.ค.นี้ ราคาน้ำมันร่วง 4% จะกดดันหุ้นพลังงาน ในขณะที่ ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ค่อนไปทางบวก ผู้นำภาคธุรกิจมองการส่งออกดีขึ้นกว่าก่อนหน้าและคาดประมาณความเสียหายจากอุทกภัยในภาคใต้ว่าน่าจะจำกัดไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท รัฐบาลรายงานรายรับจากการท่องเที่ยวปีที่แล้วดีกว่าเป้าและมองว่าทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและรายรับปีนี้จะขยายตัวแรง

หุ้นเด่นวันนี้: GUNKUL (ราคาปิด 5.70 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS 6.41 บาท)

เรายังคงชื่นชอบ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง และเลือกเป็นหุ้นเด่นในวันนี้จากศักยภาพในการเติบโตที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ขณะที่มูลค่าหุ้นยังน่าสนใจ GUNKUL ถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนในฐานะที่เป็น EPC contractor แบบครบวงจรในการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน นอกจากนี้ยังเป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง เราเชื่อว่าแผนธุรกิจที่ท้าทายของบริษัทจะสามารถบรรลุเป้าเช่นที่เคยทำได้ในอดีตที่จะก่อสร้างและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าในมือรวม 250 เมกะวัตต์ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้วตลอดในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ที่จะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นสู่ระดับแข็งแกร่งที่ 500 เมกะวัตต์ ฐานะทางการเงินที่พร้อมประกอบกับกระแสเงินสดที่มั่นคงจากการขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าในปัจจุบันจะช่วยให้ GUNKUL บรรลุเป้าหมายการลงทุนดังกล่าวได้ โดยรวมเราจึงคาดว่ากำไรสุทธิจะสามารถทำระดับระดับสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่องนับจากนี้ โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการทยอยผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์จากโครงการโรงไฟฟ้าในมือที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนา ซึ่งจะให้อัตราการเติบโตของ EPS CAGR ระหว่างปี 2559-61 แข็งแกร่งในระดับที่ 48% ทั้งนี้ด้วยค่า PEG ที่ 0.8 เท่า เราเชื่อว่าราคาหุ้นปัจจุบันยังคงน่าสนใจ นอกจากนี้ ค่า PER ปี 2559 ที่ 40.5 เท่าจะทยอยลดลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือเพียง 15.9 เท่าในปี 2562 ขณะที่ยังมีโอกาสใหม่ ๆ ในการเติบโตในธุรกิจพลังงานทดแทนสำหรับบริษัทรออยู่ข้างหน้าหลังจากช่วงเวลาดังกล่าว ในส่วนของ Price Pattern ของ GUNKUL มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ GUNKUL มีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 5.90 บาท และหาก GUNKUL ยังมีความแข็งแกร่งที่มากพอ โดยสามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 5.90 บาทได้สำเร็จ นี่จะเป็นการบ่งบอกถึงการทำ New High ครั้งใหม่ โดยมีเป้าหมายแรกเพื่อทดสอบ High เดิมที่ 6.45 บาท และมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 7.10 บาท ทั้งนี้ GUNKUL มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 5.50 บาท (แนวต้าน: 5.75, 5.80, 5.85; แนวรับ: 5.65, 5.60, 5.55)

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• ภาคเอกชนคาดผลกระทบน้ำท่วมจำกัด คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เชื่อว่าอุทกภัยสร้างความเสียหายจำกัดไม่เกิน 1.5 หมื่น ลบ. ไม่ถึงกับทำให้การเติบโตเศรษฐกิจหยุดชะงักไปในปีนี้และกล่าวว่าน้ำท่วมไม่ได้กระทบภาคท่องเที่ยวโดยรวมในภาคใต้เพราะจุดหมายหลัก ได้แก่ ภูเก็ตและกระบี่ ไม่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมมากนัก ขณะเดียวกันสมาคมธนาคารไทยวางแผนที่จะให้การสนับสนุน ได้แก่ การยืดระยะเวลาการชำระเงิน และเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม (Bangkok Post/The Nation)

• รัฐบาลมองภาคท่องเที่ยวโตต่อเนื่องโดยตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวปีนี้เติบโต 8% YoYมาอยู่ที่ 2.71 ล้านล้านบาท จากโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่ดีขึ้น ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้รายได้ท่องเที่ยวปีที่แล้วสูงขึ้น 10.9% YoYมาอยู่ที่ 2.51 ล้านล้านบาท มากกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 2.4 ล้านล้านบาท (Bangkok Post) ความเห็น: เรายังคงมองภาคการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในตัวแปรขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญปีนี้ มองผลกระทบจากกวาดล้างทัวร์ศูนย์เหรียญฯ เป็นเพียงระยะสั้น ระยะยาวจะดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพดีเข้ามาเที่ยวมากขึ้น

• ไก่ส่งออก: นายแพทย์อนันต์ ศิริมงคลเกษม นายกสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ประเทศสิงคโปร์ประกาศรับรองอนุญาตให้โรงงานผลิตเนื้อไก่สดแช่แข็งของไทยส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์ได้อีก 20 โรงงาน เพิ่มเติมจากเดิมที่รับรองเพียง 2 โรงงานนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ของไก่ของไทยที่มีมาตรฐานระดับโลกผู้ประกอบการมองอุตสาหกรรมไก่ส่งออกปี 2560 สดใสหลังจากประเทศผู้นำเข้าหลักทั้งสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น เพิ่มคำสั่งซื้อเนื้อไก่สดและผลิตภัณฑ์จากไทยมากขึ้น และปลายปีที่ผ่านมา เกาหลีใต้เปิดรับเนื้อไก่สดจากไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ไทยจะส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นรวม 750,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 96,000 ล้านบาท (ไทยรัฐออนไลน์)  ความเห็น: เรายังมองการเกิดไข้หวัดนกในหลายภูมิภาคทั่วโลกเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อพฤติกรรมการบริโภคเมื่อพ้นระยะการขาดแคลนไก่ในประเทศผู้นำเข้า นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังการเทรดหุ้นซอฟท์คอมมอดิตี้ประเภทเนื้อสัตว์เนื่องจาก cycle สั้น โดยเนื้อสัตว์ประเภทไก่ หมู เริ่มขาขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 2558 แล้ว ต้องรอดูไตรมาส 2/60 ที่ High Season การส่งออกครั้งใหม่เริ่มขึ้น ปัจจุบันราคาหมูลงมาอยู่ที่ 60 บาทต่อ กก. ลดลงจากช่วงพีคในเดือน มิ.ย. 59 ที่ 76 บาทต่อ กก. ราคาไก่ปัจจุบัน 34 บาท ต่อ กก. ลดลงต่อเนื่องจากช่วงพีค 40 บาท ต่อ กก.ในเดือน ส.ค.59 แนะนำเทรดดิ้งหุ้นในกลุ่มนี้ CPF, GFPT และ TFG อย่างระมัดระวัง

ต่างประเทศ:

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันจันทร์ จากความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินหยวนและการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) ก่อให้เกิดความต้องการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลซึ่งมีความเสี่ยงต่ำเพิ่มขึ้นก่อนการประมูลพันธบัตรมูลค่า 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลง 3 bps อยู่ที่ระดับ 2.385% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีลดลง 3 bps สู่ระดับ 2.975% (Reuters)

• ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเทียบกับเงินเยนในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนมีความต้องการลงทุนในดอลลาร์สหรัฐซึ่งมีความเสี่ยงลดน้อยลง ในขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์จากการที่อังกฤษจะปรับเปลี่ยนรูปแบบความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหภาพยุโรปหลังถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป ดอลลาร์สหรัฐล่าสุดปรับตัวลง 0.4% สู่ระดับ 116.43 เยน และอ่อนค่าลงไม่มากเทียบกับเงินยูโร ทำให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลง 0.08% สู่ระดับ 102.150 (Reuters)

สหรัฐ:

• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดแบบผสมเมื่อวันจันทร์ โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นกลุ่มการเงินซึ่งปรับตัวลงได้กดดันดัชนี S&P500 และยับยั้งดัชนีดาวโจนส์ในการขยับเข้าใกล้ 20,000 จุดก่อนฤดูประกาศผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ และการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaqปิดแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ปรับตัวขึ้นต่อจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มบริการด้านสุขภาพ (Reuters)

ยุโรป:

• ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันจันทร์ปรับตัวลดลงฉุดโดยหุ้นกลุ่มธนาคารหลักจากโบรกเกอร์เริ่มให้มุมมองเชิงบวกที่น้อยลง ซึ่งมากกว่าการปรับตัวสูงขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ทั้งนี้ดัชนี FTSE 100 พุ่งสูงขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ หนุนจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ (Reuters)

• นายกฯ อังกฤษยืนกรานเดินหน้ากระบวนการ Brexitนาง Theresa May นายกฯ อังกฤษเตรียมประกาศแผนยุทธศาสตร์ Brexitแม้ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมแต่เธอได้กล่าวอย่างชัดเจนว่าจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกต่อการที่รัฐบาลอังกฤษยังคงมีอำนาจควบคุมการเข้าเมืองของชาวต่างชาติ มากกว่าการให้ความสำคัญต่อการที่อังกฤษสามารถเข้าสู่ตลาดร่วมยุโรป ส่งผลให้ตลาดกังวลว่ากระบวนการ Brexitจะเป็นไปอย่างรุนแรง (hard Brexit)(Reuters)


เอเชีย:

• BOJ กำลังพิจารณาคาดการณ์เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในการประชุมนโยบายครั้งต่อไป 30-31 ม.ค. หลังมีการลดลงอย่างรวดเร็วในค่าเงินเยนผลักดันให้สินค้านำเข้าพุ่งสูงขึ้น ขณะนี้ BOJ คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคหรือเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 1.5% ในปีงบประมาณ 2560 และ 1.7% ในปีงบประมาณ 2561 ตามการคาดการณ์ในเดือนพ.ย. (Reuters)

• หุ้นจีนเริ่มต้นสัปดาห์ได้ดี นำโดยหุ้นเกี่ยวกับอาวุธ รัฐวิสาหกิจขนาดกลาง จากแผนการที่จะผลักดันการปฏิรูปรวมถึงการป้องกันทางการบินน้ำมันและโทรคมนาคม ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าประเทศจีนคาดการเติบโตทางเศรษฐกิจ 6.7% ในปี 2559ยังอยู่ในเป้าหมายที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ (Reuters)

• ทางการจีนได้รายงานการติดเชื้อในมนุษย์7 รายใหม่ของโรคไข้หวัดนก H7N9 ในช่วงสุดสัปดาห์รวมทั้งสิ้นตั้งแต่เดือนธันวาคมมากถึง40 รายแล้ว จีนได้กำจัดสัตว์ปีกมากกว่า 170,000 ตัวในสี่จังหวัดตั้งแต่เดือนตุลาคมและปิดตลาดสัตว์ปีกสดบางแห่งหลังจากที่ผู้คนและไก่มีการติดเชื้อโดยสายพันธุ์ ของโรคไข้หวัดนก ประเทศจีนเป็นผู้ผลิตไก่เนื้อรายใหญ่อันดับ3 ในโลก และเป็นผู้บริโภคเนื้อสัตว์ปีกสองที่ใหญ่ที่สุด(Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• น้ำมันดิบลบ 4% วันจันทร์ จากความกังวลว่าการส่งออกน้ำมันของอิรักที่ทำสถิติใหม่และการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอาจบั่นทอนความพยายามของ OPEC ที่จะลดปริมาณน้ำมันที่ล้นเกินได้ น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าลบ 2.16 ดอลลาร์สหรัฐ ปิด 54.94 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าลบ 2.03 ดอลลาร์สหรัฐ ปิด 51.96 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)

• ราคาทองคำยืนได้ในวันจันทร์ เพราะตลาดประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐใหม่หลัง Donald Trump เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนนี้ ค่าเงินดอลลาร์คงที่หลังจากวันก่อนได้ดีดขึ้นไป ราคาทองคำตลาดจรปิดบวก 0.5% ที่ 1,178.21 ดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองคำล่วงหน้าสหรัฐบวก 5.10 ดอลลาร์สหรัฐปิดที่ 1,178.50 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)