'คุณพระเศวตอดุลยเดชพาหน' ช้างเผือกในรัชกาลที่9

'คุณพระเศวตอดุลยเดชพาหน' ช้างเผือกในรัชกาลที่9

"..คุณพระก็อาละวาดอย่างหนัก ไม่ยอมออกเดิน เอางวงยึดต้นไม้จนต้นไม้ล้ม จนแทบจะหมดปัญญา.."

"พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ" ช้างเผือกเชือกแรก ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นช้างสำคัญในตระกูลพรหมพงศ์ จำพวกอัฏฐทิศ ชื่อ กมุท สีกายเปรียบดังดอกกมุท หรือ บัวสายแดง โดยแสดงถึงพระบารมีของรัชกาลที่ 9

พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ เติบโตขึ้นโดยการดูแลขององค์การสวนสัตว์ ที่สวนสัตว์ดุสิต มีอาการดุร้ายมาก จนควาญช้างควบคุมไม่ได้ จึงต้องจับยืนมัดขาทั้งสี่ไว้กับเสา จนกระทั่ง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชเสาวนีย์ โปรดเกล้าฯให้นำพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ เข้าไปยืนในโรงช้างต้น ภายในพระราชวังสวนจิตรลดา เมื่อ พ.ศ. 2519

การนำพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ไปยังโรงในโรงช้างต้น พระราชวังสวนจิตรลดา ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้บันทึกไว้ในคอลัมน์ ข้าวไกลนา เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2519 ไว้ว่า

"...ในขณะที่นำคุณพระจากสวนสัตว์ดุสิตไปยังสวนจิตรลดา ซึ่งเพียงแต่มีถนนคั่นอยู่สายเดียวนั้น คุณพระก็อาละวาดอย่างหนัก ไม่ยอมออกเดิน เอางวงยึดต้นไม้จนต้นไม้ล้ม จนแทบจะหมดปัญญา เจ้าหน้าที่กว่าจะนำคุณพระจากเขาดินไปถึงประตูสวนจิตรลดา ซึ่งมองเห็นกันแค่นั้น ก็กินเวลาหลายชั่วโมง ต้องใช้คนเป็นจำนวนมากถือปลายเชือกที่ผูกไว้กับขาคุณพระทั้งสี่ขา คอยลากคอยดึง และดูเหมือนจะต้องใช้รถแทรกเตอร์เข้าช่วยขนาบข้าง เสี่ยงอันตรายกันมากอยู่ แต่ในที่สุดก็นำคุณพระไปยังประตูพระราชวังได้”

“พอได้ก้าวเท้าเข้าไปในบริเวณพระราชวัง คุณพระก็เปลี่ยนไปทันที จากความดุร้ายก็กลายเป็นความสงบเสงี่ยม เดินอย่างเรียบร้อยไปสู่โรงช้างต้น และเข้าอยู่อย่างสงบเรื่อยมา.."

พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ย้ายไปยืนโรง ณ โรงช้างต้น พระราชวังไกลกังวล หัวหิน โดยเคลื่อนย้ายคุณพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ เมื่อวันที่ 17-18 มีนาคม 2547

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพระราชพิธีสมโภชโรงช้างต้น เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2547

พระเศวตอดุลยเดชพาหน ได้ล้มลงเมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2553 ณ โรงช้างต้น วังไกลกังวล หัวหิน โดยมีชื่อพระราชทานนามเต็มว่า

“พระเศวตอดุลยเดชพาหน ภูมิพลนวนาถบารมี ทุติยเศวตกรีกมุทพรรโณภาส บรมกมลาสนวิสุทธวงศ์ สรรพมงคล ลักษณคเชนทรชาติ สยามราษฎรสวัสดิ์ประสิทธิ์ รัตนกุญชรนิมิต บุญญาธิการ
ปรมินทรพิตรสารศักดิ์เลิศฟ้า”