'8หุ้นใหญ่' เทรดต่ำมูลค่าพื้นฐาน

'8หุ้นใหญ่' เทรดต่ำมูลค่าพื้นฐาน

สำรวจอัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี (P/BV) กลุ่ม "SET100" พบ 8 หุ้นใหญ่เทรดต่ำบุ้ค

การลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงส่งท้ายปี 2559 พบว่า บรรยากาศการลงทุนไม่คึกคัก โดยเฉพาะการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ มีการรายงานขายต่อเนื่อง ดังนั้นจึงส่งผลกระทบไปถึงบรรดาหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการลงทุนของต่างชาติ โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

จากการสำรวจสถิติอัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี (P/BV) ของหุ้นที่อยู่ในกลุ่ม SET100 พบว่าราคาหุ้นของ 8 บริษัท ในกลุ่มนี้ (ณ วันที่ 28 ธ.ค.) ยังคงต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ได้แก่ บางกอกแลนด์ (BLAND) มีราคาปิดต่อมูลค่าทางบัญชี 0.67 เท่า โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) 0.79 เท่า ธนาคารกรุงเทพ (BBL) 0.81 เท่า แสนสิริ (SIRI) 0.89 เท่า ธนาคารกรุงไทย (KTB) 0.90 เท่า ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) 0.91 เท่า ทุนธนชาต (TCAP) 0.92 เท่า และ ปตท.สผ. (PTTEP) 0.95 เท่า

หุ้นทั้ง 8 ตัวนี้ ต่างมีราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นตั้งแต่ปี 2558 แต่ในปีนี้พบว่าราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้สามารถปรับตัวขึ้นมาได้ทั้งหมด เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 19.87% จากราคาปิดปีก่อน โดย ปตท.สผ. (PTTEP) ปรับตัวขึ้นมากที่ 65.5% มาอยู่ที่ 91 บาท หลังราคาร่วงอย่างรุนแรงไปอยู่ที่ 57.25 บาท คิดเป็น P/BV เพียง 0.56 เท่า

ทุนธนชาต บางกอกแลนด์ และทีพีไอ โพลีน ถือเป็นกลุ่มหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้อย่างโดดเด่นเช่นกัน โดยราคาหุ้นของทั้ง 3 ตัว เพิ่มขึ้นได้ราว 20% จากปีก่อน ส่วนโทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ 16.77% ขณะที่แสนสิริ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.21% ทางด้าน 2 แบงก์ใหญ่ อย่าง กรุงไทย และ กรุงเทพ ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เพียงเล็กน้อย 4.19% และ 3.61% ตามลำดับ

เผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บล.กสิกรไทย มองว่า การพิจารณาที่ค่า P/BV เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่ง แม้จะเป็นตัวบอกว่าหุ้นถูก และหุ้นอาจจะไม่ได้ปรับตัวลดลงไปมากกว่านี้ หลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาต่อเนื่องจนต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี แต่หากทิศทางของกำไรยังไม่ปรับเพิ่มขึ้น ราคาหุ้นก็อาจจะไม่ได้ปรับตัวขึ้นเช่นกัน

“ราคาหุ้นต่ำบุ๊คก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่สำคัญคือต้องดูแนวโน้มกำไรในอนาคตว่าจะเติบโตได้มากน้อยขนาดไหน เพราะหากกำไรยังมีแนวโน้มลดลง ความเสี่ยงขาลงก็ยังคงมีอยู่ แม้ราคาจะต่ำกว่าบุ๊คแล้ว กลับกันหากเป็นหุ้นที่ซื้อขายสูงกว่าบุ๊คหลายเท่า แต่กำไรยังเติบโตได้ หุ้นก็ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ”

อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้นสูงกว่าบุ๊คมาก หากกำไรหยุดโต ราคาหุ้นก็มีโอกาสปรับตัวลงแรงกว่าหุ้นที่ซื้อขายต่ำกว่าบุ๊ค แต่สำหรับหุ้นต่ำบุ๊ค หากแนวโน้มธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดแล้ว กำไรเริ่มกลับมาเติบโต ราคาหุ้นก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้เร็วเช่นกัน อย่างกลุ่มพลังงานต้นน้ำที่ผ่านมา กำไรฟื้นตัวกลับมา ราคาหุ้นในกลุ่มก็วิ่งขึ้นมาได้

“ส่วนตัวมองว่ากลุ่มพลังงานยังคงน่าสนใจ เพราะโดยรวมราคาหุ้นยังซื้อขายใกล้ๆ กับมูลค่าทางบัญชี และกำไรมีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นต่อได้ ขณะที่กลุ่มแบงก์ซึ่งราคาหุ้นต่ำบุ๊คเช่นกัน แต่นักลงทุนยังกังวลว่าการเติบโตยังต่ำ ราคาหุ้นอาจจะไม่ลงไปมากกว่านี้ แต่การขึ้นก็คงยังไม่ใช่ คงต้องรอให้เห็นการขึ้นดอกเบี้ยอย่างชัดเจนในประเทศ ซึ่งในปี 2560 มองว่าดอกเบี้ยในไทยจะยังทรงตัว บนฐานที่สหรัฐขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง และน้ำมันไม่ปรับขึ้นแรงมาก แต่หากมากกว่านั้นดอกเบี้ยในไทยก็อาจจะปรับตัวขึ้นได้ กลุ่มแบงก์จะเริ่มน่าสนใจ”