รายละเอียด ใช้ม.44สั่ง'รฟม.'จ้างเอกชนลุยเชื่อมเตาปูน-บางซื่อ

รายละเอียด ใช้ม.44สั่ง'รฟม.'จ้างเอกชนลุยเชื่อมเตาปูน-บางซื่อ

ประกาศราชกิจจาฯ "ประยุทธ์" ใช้ม.44 สั่ง "รฟม." จ้างเอกชน ลุยเชื่อมสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลําโพง-บางซื่อ และสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ

ราชกิจจานุเบกษา หน้า ๕๐ เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๓๑๐ ง ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๙ คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗๘/๒๕๕๙ เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ําเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล) ช่วงหัวลําโพง - บางซื่อ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ

โดยที่สภาพปัญหาการจราจร การคมนาคม และการขนส่ง ในปัจจุบันถือเป็นปัญหาสําคัญและเร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องเร่งดําเนินการแก้ไข เนื่องจากปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่
การประกอบอาชีพ และสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมทั้งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม

จึงจําเป็นที่จะต้องจัดให้มีระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ ประหยัด และคุ้มค่าต่อการลงทุน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและสังคมให้ดีขึ้น สําหรับความพยายามในการแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครนั้น ที่ผ่านมาแม้จะได้มีคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๔๒/๒๕๕๙ เรื่อง การดําเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ําเงิน ลงวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เพื่อแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อและร่วมใช้ระบบรถไฟฟ้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ําเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล) ช่วงหัวลําโพง - บางซื่อ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ําเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลําโพง - บางแค และบางซื่อ - ท่าพระ ไปแล้วนั้น แต่โดยที่ยังมีความจําเป็นต้องใช้เวลาดําเนินการอีกระยะหนึ่งจึงจะแล้วเสร็จ ประกอบกับขณะนี้ มีความจําเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดําเนินการเพื่อให้มีการติดตั้งระบบรถไฟฟ้าและบริหารการเดินรถไฟฟ้า สายสีน้ําเงิน ช่วงเตาปูน - บางซื่อ อันเป็นระยะทางสั้นประมาณหนึ่งกิโลเมตรที่เชื่อมต่อระหว่างโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาการจราจรและบรรเทาความเดือดร้อนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้ใช้บริการ ตลอดจนเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจของประเทศ

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)
พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยดําเนินการจ้างผู้ประกอบการเอกชน
เพื่อติดตั้งระบบรถไฟฟ้า จัดการเดินรถไฟฟ้า และบริหารการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ําเงิน ช่วงเตาปูน - บางซื่อ อันเป็นระยะทางสั้นประมาณหนึ่งกิโลเมตรให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อแก้ปัญหาการจราจรและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยคํานึงถึงการให้ประชาชนได้ใช้บริการรถไฟฟ้าโดยเร็ว สะดวก และประหยัดค่าโดยสาร และเป็นประโยชน์ต่อการเดินรถเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ําเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล)ช่วงหัวลําโพง - บางซื่อ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ การจ้างตามวรรคหนึ่งไม่ถือเป็นการร่วมลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ


การกําหนดค่าจ้างและเงื่อนไขอื่นในการทําสัญญาจ้างตามวรรคหนึ่ง ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน
แห่งประเทศไทยดําเนินการโดยใช้ผลการเจรจาต่อรองของคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเอกชนร่วมงานหรือดําเนินการ (งานสัญญาที่ ๕) โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - บางซื่อ กับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จํากัด (มหาชน) รวมทั้งมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เป็นกรอบในการพิจารณา โดยคํานึงถึงประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้บริการและประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการดําเนินกิจการและการใช้ทรัพยากรของรัฐ ทั้งนี้ ให้นําหลักเกณฑ์ วิธีการ และแนวทางในการใช้ระบบข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๘ มาใช้กับการดําเนินการด้วย
เมื่อจัดทําร่างสัญญาเสร็จแล้ว ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดําเนินการส่งข้อตกลงการจ้างและ
ร่างสัญญาให้รัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัดพิจารณาเห็นชอบก่อนส่งให้สํานักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณา โดยให้สํานักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณาร่างสัญญาให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับร่างสัญญาดังกล่าว และเมื่อสํานักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณาร่างสัญญาเสร็จแล้วให้กระทรวงเจ้าสังกัดนําเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีไม่เห็นชอบ ให้ส่งเรื่องคืนไปยังรัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัดเพื่อพิจารณาทบทวนและเสนอความเห็นประกอบเรื่องทั้งหมดต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ ในกรณีที่ต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมร่างสัญญา ให้ส่งร่างสัญญาให้สํานักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณาก่อนนําเสนอคณะรัฐมนตรีด้วยโดยให้นําความในวรรคห้ามาใช้บังคับโดยอนุโลม เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบตามวรรคสี่หรือวรรคห้า แล้วแต่กรณี ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดําเนินการลงนามในสัญญาต่อไป

ข้อ ๒ การปฏิบัติตามคําสั่งนี้ซึ่งได้กระทําไปตามอํานาจหน้าที่โดยสุจริตและไม่เกินสมควรแก่เหตุ
ย่อมได้รับความคุ้มครองและไม่ต้องรับผิดทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางวินัย แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ได้รับความเสียหายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายจากทางราชการตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่

ข้อ ๓ ในกรณีเห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้

ข้อ ๔ คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ ๒๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ