Daily Market Outlook (27 ธ.ค.59)

คาดหุ้นไทยเดินหน้าต่อวันนี้จากตัวเลขส่งออกเดือน พ.ย. ที่พุ่งสูงขึ้นผิดคาด และแนวโน้มข้างหน้าที่จะดีอีก อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายหุ้นน่าจะเบาบางโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนักลงทุนต่างชาติด้วยหลายตลาดในยุโรปและเอเชียยังปิดทำการในวันนี้ ปัจจัยชี้นำทิศทางตลาดจากต่างประเทศก็มีจำกัดเพราะตลาดการเงินโลกส่วนใหญ่ปิดทำการในวันจันทร์ วันนี้ ครม. จะพิจารณาโครงการเชื่อมเส้นทางรถไฟระหว่างสถานีบางซื่อกับเตาปูน จากการที่นายกฯ ประยุทธให้ความสำคัญอย่างมากกับโครงการดังกล่าว เราคิดว่า ครม. จะผ่านโครงการดังกล่าวและให้เริ่มได้ทันที BEM ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการสายสีน้ำเงินอยู่แล้ว และบริษัทแม่ CK ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างจะได้ประโยชน์

หุ้นเด่นวันนี้: MC (ราคาปิด 15.20 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 17.30 บาท)

บมจ. แม็คกรุ๊ป ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายและไลฟ์สไตล์ ภายใต้เครื่องหมายการค้าของกลุ่มบริษัทโดยเป็นผู้นำในตลาดยีนส์ ในระยะสั้นบริษัทน่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการบริโภคครัวเรือนซึ่งจะหนุนโดยรายได้ภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นหลังจากสิ้นสุดภาวะภัยแล้งยาวนานกว่าสองปี การแจกเงินของรัฐบาลให้แก่ผู้มีรายได้น้อยและการลดหย่อนภาษีเพื่อดึงดูดการใช้จ่าย ในระยะยาวแล้วจะมีการลงทุนจากรัฐบาลที่รอคอยมานานซึ่งน่าจะช่วยหนุนเศรษฐกิจโดยรวมด้วยผลทวีคูณอย่างมากแก่ภาคส่วนต่างๆ ของเศรษฐกิจในช่วงหลายปีต่อจากนี้ MC มีช่องทางการขายที่หลากหลาย โดยเน้นร้านค้าปลีกของตนเองเพราะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าและยืดหยุ่นกว่า นอกจากนั้นยังสนับสนุนช่องทางออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและมีต้นทุนต่ำลงได้อีก MC มีสาขาต่างประเทศ 25 สาขาเพื่อเข้าถึงตลาดเพื่อนบ้านที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ซึ่งจะมีการพัฒนาเป็นเมืองในไม่ช้าตามแบบอย่างไทย เราคาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทจะเติบโตราว 12% ต่อปีระหว่างปี 2559-2561 ราคาเป้าหมายของเราปี 2560 เท่ากับ 17.30 บาท อิงจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด ซึ่งให้อัพไซด์ 14% จากราคาปัจจุบัน เราคาดว่าหุ้น MC จะให้อัตราเงินปันผลตอบแทนน่าดึงดูดใจที่ 6-7% ในระหว่างปี 59-61 Price Pattern ของ MC ยังคงมีแนวโน้มหลักที่อยูในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Weekly & Monthly Buy Signal หาก Price Pattern ของ MC สามารถปิดตลาดได้ที่ 15.30 บาทเป็นอย่างน้อย ก็จะทำให้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ ซึ่งจะเป็นการยืนยันว่าการปรับฐานระยะสั้นที่ผ่านมาได้จบลงแล้ว ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ MC มีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 15.80 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 16.90 บาท ตามลำดับ (แนวต้าน: 15.30, 15.40, 15.50; แนวรับ: 15.10, 15.00, 14.90)

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• ยอดส่งออกในเดือนพ.ย. แตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน เมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่ามูลค่าการส่งออกในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 10.2% YoYอยู่ที่ 1.89 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนหลังจากที่ลดลง 4.2% ในเดือนต.ค. นอกจากนี้ มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 3% YoYอยู่ที่ 1.74 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 1.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นเกิดจากความต้องการที่สูงขึ้นจากตลาดส่งออกที่สำคัญ ๆ ของประเทศ ทั้งนี้ในช่วง 11 เดือนแรก มูลค่าการส่งออกเท่ากับ 1.97 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเล็กน้อย 0.05% ส่วนมูลค่าการนำเข้าหดตัว 5.1% อยู่ที่ 1.77 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 1.97 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (Bangkok Post)ความเห็น: การปรับตัวที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญบ่งบอกถึงสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและสภาวะการณ์ที่เอื้ออำนวยมากขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ประมาณการยอดส่งออกในปี 59 ว่าจะเติบโต -0.1 ถึง +0.2% ในขณะที่รัฐบาลคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในปีหน้าประมาณ 2-3% โดยมีแรงหนุนจากการดีดตัวของราคาน้ำมันและเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ซึ่งตรงกับความเห็นของเรา

• การเชื่อมสถานีสายสีน้ำเงิน-ม่วง จะนำเข้า ครม.วันนี้ ตามที่ รมต.คมนาคม แจ้งว่าจะทำการอนุมัติส่วนที่ขาดหายไปหนึ่งสถานีระหว่าง สถานีเตาปูนของสายสีม่วงกับสถานีบางซื่อของสายสีน้ำเงิน โดยอาศัย ม.44 ในการแก้ปัญหาให้อนุมัติดำเนินการโดยเร่งด่วน (ข่าวหุ้น) ความเห็น: สถานีที่ขาดหายไปนี้เป็นส่วนหนึ่งของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย (บางซื่อ – ท่าพระ) ซึ่งรัฐบาลพยายามเร่งรัดให้มีการดำเนินการสร้างให้สามารถเชื่อมต่อได้ก่อน ซึ่งจะสนับส่วนเงินลงทุนราว 740 ล้านบาท กรณีนี้จะเป็นประโยชน์ต่อ BEM (ราคาปิด 7.25บาท ซื้อ ราคาเป้าหมาย 10.10 บาท) และ CK (ราคาปิด 30.50 บาท ซื้อ ราคาเป้าหมาย 39.50บาท)

• TOT จะเริ่มโครงการติดตั้งอินเตอร์เนตหมู่บ้านมูลค่าโครงการ 1.5 หมื่นลบ. วันนี้โดยในระยะแรกจะครอบคลุม 100 หมู่บ้านใน 5 จังหวัด คาดว่าจะเสร็จสิ้นในกลางเดือนม.ค. ปีหน้า และตั้งเป้าที่ 4,000 หมู่บ้าน ภายในกลางปีหน้า และครอบคลุมแล้วเสร็จทั้งหมด 24,700 หมู่บ้านภายในสิ้นปี (Bangkok Post/ The Nation)

ต่างประเทศ:

• ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเทียบกับเงินเยนเมื่อวันอังคาร ส่วนเงินยูโรยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเนื่องจากตลาดจะค่อนข้างเงียบไปจนถึงการซื้อขายในวันสุดท้ายของปี เงินยูโรทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1.0453 ดอลลาร์สหรัฐหลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% เมื่อคืนนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.1% สู่ระดับ 117.230 เยน หลังจากแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ ๆ ระหว่าง 117.005-117.390 เยนในวันก่อน เนื่องจากตลาดการเงินที่สำคัญหลายแห่งปิดทำการเนื่องในวันหยุดคริสต์มาส ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอยู่ที่ 102.970 ลดลงจาก 2-3 วันก่อนและต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีที่ระดับ 103.650 ในสัปดาห์ก่อน (Reuters)

สหรัฐ:

• ตลาดหุ้นและตลาดเงินสหรัฐปิดทำการเมื่อวันจันทร์ เนื่องในเทศกาลคริสต์มาสแต่จะเปิดทำการในวันนี้ (Reuters)

ยุโรป:

• ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันจันทร์ปิดทำการซื้อขายเนื่องในวัน Boxing Day และเทศกาลวันคริสต์มาส (Reuters)

เอเชีย:

• เงินเฟ้อพื้นฐานของประเทศญี่ปุ่นลดลงเก้าเดือนติดต่อกันในเดือนพฤศจิกายนโดยเศรษฐกิจยังขาดโมเมนตั้มแรงพอที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อไปถึงเป้าหมาย 2% ดัชนีราคาผู้บริโภคหลักซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์น้ำมันแต่ไม่รวมราคาอาหารสดลดลง 0.4% YoYในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบกับตลาดคาดการณ์เฉลี่ยที่คาดว่าลดลง 0.3% เป็นการลดลงต่อเนื่องจากเดือนตุลาคม (Reuters)

• การใช้จ่ายในครัวเรือนของญี่ปุ่นในเดือน พ.ย. ลดลงขณะที่ตำแหน่งงานที่มีอยู่แตะระดับสูงสุดในรอบ25 ปี ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เปราะบาง อัตราส่วนงานต่อการสมัครงานเพิ่มขึ้นเป็น 1.41 จาก 1.40 ในเดือน พ.ย. ที่ตรงกับการคาดการณ์ของตลาดและถึงระดับสูงสุดนับตั้งแต่กรกฎาคมปี 2534แต่การใช้จ่ายในครัวเรือนลดลง 1.5% YoYในเดือน พ.ย. ลดลงเป็นเดือนที่เก้าติดต่อกัน บ่งบอกการเติบโตของค่าจ้างช้าส่งผลต่อการกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภค (Reuters)

• อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นถึง 3.1% ในขณะที่จำนวนงานเพิ่มขึ้นข้อมูลจากกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารแสดงให้เห็นว่าในวันอังคารที่ผ่านมาว่า อัตราการว่างงานที่ปรับฤดูกาลเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของตลาดเฉลี่ยอยู่ที่3.0% เท่ากับอัตรา 3.0% ในเดือนตุลาคม(Reuters)

• จีนคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายการเติบโต 6.5% ถึง7% ในปีนี้สำนักข่าวซินหัวของรัฐบาลจีนกล่าวในวันจันทร์ว่า ซินหัวอ้างการลดลงของค่าเงินหยวนและกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก อย่างไรก็ตาม จีนไม่เหมือนประเทศอื่น จีนมีความยืดหยุ่นในการสกัดการตกต่ำของเศรษฐกิจ เพราะการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่มีผลต่อการบริโภคและการบริการ โดยจีนอาจกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจประมาณ 6.5% ในปีหน้าซินหัวกล่าวไว้ (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• น้ำมันดิบสหรัฐบวกต่อในวันอังคาร ช่วงหลังคริสต์มาสเพราะผู้ผลิต OPEC และ non-OPEC จะลดกำลังการผลิต 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันตั้งแต่ 1 ม.ค. เพื่อหนุนราคาน้ำมัน น้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบ ก.พ. ปิดบวก 16 เซนต์ต่อบาร์เรล ที่ 53.18 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากปิดสูงกว่าระดับสูงสุดรอบ 17 เดือนเมื่อวันศุกร์อยู่ 7 เซนต์ น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าส่งมอบ ก.พ. บวก 11 เซนต์หรือปิด 55.16 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ตลาดน้ำมันปิดในวันจันทร์หลังวันคริสต์มาส อย่างไรก็ดี กระทรวงพลังงานสหรัฐคาดว่าจะเริ่มขายน้ำมันดิบซัลเฟอร์ต่ำ (ประเภท sweet) ราว 8 ล้านบาร์เรลออกจากสำรองน้ำมันฉุกเฉินของประเทศในช่วงนี้จนถึงกลาง ม.ค. (Reuters

• ตลาดโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ปิดหรือเปิดเพียงครึ่งวันในวันนี้ ตลาดโภคภัณฑ์การเกษตรและตลาดออปชั่นปิดในวันจันทร์เนื่องในวันคริสต์มาส และจะเปิดเป็นช่วงสั้นในวันอังคารที่ 27 ธ.ค. 59 ขณะเดียวกัน LME ปิดวันหยุดทั้งวันจันทร์และอังคาร (Reuters)