'กอบศักดิ์'มั่นใจส่งออกทั้งปีไม่ติดลบดันจีดีพีโต

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงตัวเลขการส่งออกในเดือนพฤศจิกายน 2559 ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ขยายตัวได้ 10.2% ว่า รัฐบาลดีใจกับตัวเลขการส่งออกในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีที่สุดในรอบ 9 เดือน แม้ว่าจะหักน้ำมันและทองคำออก ตัวเลขการส่งออกยังขยายตัวเป็นบวกถือว่าเป็นสัญญาที่ดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสินค้าเกษตรที่ขยายตัวดี ทั้งจากข้าวที่ขยายตัวได้ 26% ยาง 16% และมันสำปะหลังที่ขยายตัวได้ถึง 18%

“ในช่วงที่ผ่านมาการส่งออกติดลบ และหลายคนกังวลใจกับภาพรวมของการส่งออก แต่ล่าสุดพฤศจิกายนการส่งออกไทยขยายตัวได้ถึง 10.2% เมื่อหักทองคำยังขยายตัวได้ 9% และหักน้ำมันยังขยายตัวได้ถึง 4% ส่งผลให้กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าทั้งปี 2559 การส่งออกจะขยายตัวได้ 0.2% และมีโอกาสที่จะขยายตัวได้มากกว่านี้ หากในเดือนธันวาคม 2559 การส่งออกยังขยายตัวได้เท่าเดือนพฤศจิกายน  ที่ผ่าน”นายกอบศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นอกจากภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรมของไทยยังขยายตัวได้ดี ซึ่งถือเป็นการกระจายตัวไปทุกภาคส่วน ซึ่งสอดคล้องกับประเทศอื่นๆทั่วโลกที่การส่งออกปรับตัวดีขึ้น เช่น ไต้หวัน เวียดนาม สิงค์โปร์ ที่การส่งออกขยายตัวใกล้เคียงกับประเทศไทย สะท้อนว่า ภาพรวมการส่งออกของโลกกำลังปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันมีแนวโน้มฟื้นตัว จาก 29 ดอลลาร์ต่อบาเรล มาอยู่ที่ระดับปัจจุบันที่ 52 ดอลลาร์ต่อบาเรล ซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งออกที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมัน

สำหรับภาพรวมการส่งออกในปี 2560 คาดว่าจะขยายตัวได้ 2-3% สอดคล้องกับตัวเลขของสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช.ที่คาดการส่งออกปี 2560 ที่ 2.4% และกระทรวงพาณิชย์ประเมินไว้ที่ 2.5-3% ซึ่งการส่งออกที่มีแนวโน้มฟื้นตัว จะส่งผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ในปี 2559-2560 โดยมองว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม หากการส่งออกขยายตัวได้ในระดับ 10% จะส่งผลให้จีดีพีในไตรมาส 4/2559 ขยายตัวได้ 3-3.5% และทั้งปี 2559 ขยายตัวได้ 3-3.5% แน่นอน

“ถือเป็นข่าวดี ที่ไทยจะมีแรงขับเคลื่อนอีกแรงหนึ่ง นอกเหนือจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ หากตัวเลขการส่งออกของไทยเพียงประเทศเดียว เราคงไม่ดีใจเท่านี้ แต่ตอนนี้ ประเทศอื่นๆในภูมิภาคก็ขยายตัวเช่นเดียวกัน ตลาดส่งออกโลกอยู่ในช่วงปรับตัวดรขึ้น ตลาดส่งออกหลัก ซึ่งทำให้ปี 2560 มองว่า จีดีพี จะขยายตัวได้ 3.5-4%”นายกอบศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้ ภาคการส่งออกของไทยน่าจะขยายตัวดีต่อเนื่องไปถึงปี 2560 จากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในช่วง 13-14 ธันวาคมที่ผ่านมา แม้ว่าค่าเงินบาทของไทยจะยังแข็งค่าว่าคู่ค้าคู่แข่ง แต่เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน นอกจากนี้ นโยบายกีดกันทางการค้าของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยด้วย

“ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า จะช่วยให้ผู้ส่งออกรับรู้กำไรในรูปเงินบาทได้มากขึ้น ก็จะมีกำลังในในเรื่องของการส่งออก ส่วนเงินบาทที่ยังแข็งกว่าเพื่อนบ้านนั้น อาจทำให้เราต้องลดราคาบ้าง แต่เชื่อว่าผลดีจะมีมากกว่าผลเสียอย่างแน่นอน”นายกอบศักดิ์ กล่าว