ปี 60 ทองคำ‘ขาขึ้น’ หวัง ‘โกลด์ดี’ ชุบชีวิต

ปี 60 ทองคำ‘ขาขึ้น’ หวัง ‘โกลด์ดี’ ชุบชีวิต

กูรูทองคำประเมินราคาทองคำปีหน้า ให้ผลตอบแน "เป็นบวก"

ทองคำในปีที่ผ่านมามีความผันผวนที่สูงมากตามปัจจัยความไม่มั่นคงของต่างประเทศ โดยในวันศุกร์ที่ 23 ธ.ค. ราคาทองคำอยู่ที่ 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากต้นปีที่ 1,096.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นไปทำจุดสูงสุดระดับ 1,430 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเดือนส.ค. ซึ่งในปี 2560 ผู้ค้าทองยังมีมุมมองบวกกับทิศทางราคาทองคำ แต่ในอุตสาหกรรมซื้อขายทองคำล่วงหน้า ยังต้องรอความหวังจากผลิตภัณฑ์ทองคำใหม่ๆ 

จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ และประธาน ห้างขายทองจินฮั้วเฮง เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำในปี 2560 ยังเชื่อว่าจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกได้ แม้ในช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวลดลงมาก เหตุเพราะปัจจัยที่กดดันราคาทองนั้นได้ผ่านไปหมดแล้ว

“เราชื่อว่าราคาทองคำในปี 2560 จะให้ผลตอบแทนเป็นบวก เนื่องจากขณะนี้ ราคาทองคำอยู่ในระดับที่ต่ำมากแล้ว และไม่พบปัจจัยใหม่ๆ ที่จะกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลงไปอีก”

โดยกรอบราคาทองคำในปี 2560 มองว่าจะอยู่ในกรอบ 1,100-1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งระดับราคาดังกล่าวใกล้เคียงกับต้นทุนหน้าเหมืองทองคำที่อยู่ในระดับ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งปัจจัยที่จะมีผลกระทบกับราคาทองคำในปีหน้า จะมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศแถบยูโรโซน ที่ยังมีปัญหา

รวมถึงมีความเสี่ยงที่หลายประเทศอาจจะออกจากอียูเพิ่มเติม อีกทั้งยังต้องติดตามการแถลงนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ที่จะแถลงในวันที่ 20 ม.ค. 2560 ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ส่วนปัจจัยการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐนั้นนักลงทุนได้รับทราบกระแสข่าวดังกล่าวไปแล้ว และไม่น่าจะเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำอีก

สำหรับคำแนะนำนักลงทุนทองคำ มองว่าการปรับตัวลดลงของราคาทองคำในรอบนี้ แม้จะไม่คึกคักมากนัก แต่นักลงทุนสามารถเข้าลงทุนได้ ซึ่งการลงทุนยังเป็นลักษณะลงทุนระยะสั้นเท่านั้น ไม่แนะนำให้นักลงทุน เข้าลงทุนระยะยาว เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะต่ำมาแล้ว แต่ความผันผวนจะยังคงอยู่

อย่างไรก็ตาม ในมุมของผู้ค้าทองคำและผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจซื้อขายทองคำล่วงหน้านั้น ยอมรับว่า ปีที่ผ่านมามีผลการดำเนินงานไม่ดีและหลายบริษัทขาดทุน เนื่องจากราคาทองคำไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก ทำให้การลงทุนในตลาดดังกล่าวยังซบเซา

ซึ่งทางผู้ค้ามีความหวังว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทางทีเฟ็กซ์กำลังจะเปิดให้บริการอย่างการซื้อขาย Gold-d จะเข้ามาช่วยทางผู้ค้าให้อยู่รอดได้ ซึ่งที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์มีแผนจะขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่กลางปี 2559 และถูกเลื่อนการทำการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันยังไม่มีกำหนดเวลา จะสามารถออกผลิตภัณฑ์ให้บริการได้เมื่อใด

ทั้งนี้ ทางผู้ค้าทองคำมีความคาดหวังกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของทีเฟ็กซ์อย่างมาก ที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมการซื้อขายทองคำล่วงหน้ากลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งผู้ค้ามองว่า ทีเฟ็กซ์ควรจะเร่งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้แล้วเสร็จในครึ่งปีแรกของปี 2560 ไม่เช่นนั้นผู้ค้าทองคำอย่างไม่สามารถอยู่รอดได้ในทางธุรกิจ

พิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ห้างขายทองเลี่ยงเซ่งเฮง เปิดเผยว่า ราคาทองคำในปี 2560 นั้นมองว่าการคาดการณ์จะทำได้ยากขึ้นเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจนั้นและเหตุการณ์ต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่ในระยะสั้นในไตรมาสที่ 1 ของปี 2560 มองว่าราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบแคบ​

“ในไตรมาสที่ 1 มองว่าราคาทองคำจะแกว่งตัวค่อนข้างแคบ เหตุเพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน ซึ่งเราประเมินกรอบราคาทองคำที่ระดับ 1,100-1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเชื่อว่าผลตอบแทนในไตรมาสที่ 1 จะยังเป็นบวก”

ปัจจัยที่เข้ามามีผลกระทบกับราคาทองคำนั้น ประเมินว่า จะมาจากความไม่แน่นอนในกลุ่มประเทศยุโรปเป็นหลัก ทั้งความเสี่ยงที่ออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มยูโรโซนเพิ่มเติม และปัญหาการเมืองในประเทศอิตาลี รวมถึง การที่ธนาคารในประเทศยูเครนเริ่มมีปัญหา

อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า ในไตรมาส 1 จะมีปัจจัยบวกจากความต้องการทองคำที่จะเพิ่มขึ้น ผลจากการเข้าสู่เทศกาลตรุษจีนที่มีความต้องการบริโภคทองรูปพรรณเพิ่มขึ้น รวมไปถึงกองทุนเก็งกำไรในทองคำ เริ่มเข้ามาเก็บทองคำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ที่หนุนราคาทองคำอยู่ 

โดยคำแนะนำในการลงทุนทองคำนั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าสะสม หากราคาทองคำในประเทศต่ำกว่า 1.9 หมื่นบาทต่อบาททองคำ ให้ทยอยสะสม

สำหรับ Gold-d นั้น ส่วนตัวมีความคาดหวังอย่างมากว่าทางผู้ที่เกี่ยวข้องจะสามารถขับเคลื่อนการซื้อขายดังกล่าวออกมา เพราะที่ผ่านมาตลาดการซื้อขายทองคำไม่คึกคัก โดยเฉพาะในตลาดฟิวเจอร์ส หลังจากที่นักลงทุนขาดทุนอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา จากราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวร่วงแรง ซึ่ง Gold-d เป็นความหวังครั้งใหม่ของกลุ่มผู้ค้าที่จะทำให้ตลาดทองคำฟื้นตัวได้อีกครั้ง

สอดคล้องกับ กมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำในปี 2560 ยังเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าราคาทองคำในครึ่งปีหลังจะมีทิศทางลดลง โดยมองว่าความเสี่ยงในปีหน้าของเศรษฐกิจโลกยังมี และจะสามารถผลักดันราคาทองคำให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้

ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะกระทบกับราคาทองคำ คือ เงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุนของสหรัฐที่จะกดดันราคาทองคำให้เพิ่มขึ้น  รวมถึงการใช้นโยบายการเงินที่สุดโต่งในหลายชาติ ส่งผลต่อเงินดอลลาร์จะแข็งค่า ส่วนปัจจัยการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐเป็นสิ่งที่นักลงทุนรับรู้ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ประเมินกรอบราคาทองคำในปี 2560 จะอยู่ที่ 1,050-1350 ดอลลาร์ต่อออนซ์