พริตตี้สาว เปิดใจหวิดถูกรุ่นพี่ข่มขืน งงตร.ไม่รับแจ้งความ

จากกรณี น.ส.ทิฟฟี่ (ขอสงวนชื่อจริงและนามสกุล) อายุ 22 ปี พริตตี้สาวได้เปิดใจกลางรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง โดยเล่าถึงประสบการณ์เลวร้ายที่เกือบโดนรุ่นพี่ที่ไว้ใจข่มขืน แต่พยายามต่อสู้พร้อมกระโดดหนีลงมาจากชั้น 2 ของบ้านทาวน์เฮ้าส์จึงรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ว่า เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากสอบเสร็จวันสุดท้าย ก็มีรุ่นพี่ในคณะมหาวิทยาลัย ซึ่งรู้จักกันเพราะเคยจีบตนมาก่อน มาชวนตนเองพร้อมกับเพื่อนอีกคนหนึ่งไปกินข้าวด้วยกัน

โดยรุ่นพี่คนดังกล่าวดื่มเหล้าไปด้วย แต่ตนกับเพื่อนไม่ได้ดื่ม และรู้สึกไม่ค่อยชอบพฤติกรรมของรุ่นพี่ที่ดื่มเหล้าแล้วค่อนข้างนักเลง ทำให้จะขอตัวกลับก่อน จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. รุ่นพี่คนดังกล่าวก็อาสาขี่รถจยย.บิ๊กไบค์ไปส่งตนที่บ้าน เพราะเป็นทางผ่านบ้านของตน แต่เมื่อถึงปากซอยกลับขี่เลยไปไม่ยอมจอด ตนจึงพยายามโวยวาย แต่รุ่นพี่คนดังกล่าวกลับเร่งความเร็วเพื่อไม่ให้ตนกระโดดลงจากรถ ก่อนจะขี่พาตนไปที่บ้านพักของตนเอง ซึ่งเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ย่านลาดพร้าว-วังหิน

น.ส.ทิฟฟี่ กล่าวอีกว่า เมื่อไปถึงบ้านรุ่นพี่คนดังกล่าว ก็รีบปิดประตูบ้าน จากนั้นก็เริ่มมีปากเสียงกัน ตนพยายามวอนขอบอกว่า พ่อตนรออยู่ที่บ้าน แต่รุ่นพี่รายนี้ ก็ไม่สนใจกลับอุ้มตนขึ้นบันไดไปชั้น 2 แต่ตนพยายามต่อสู้ ทำให้ร่วงตกลงมาทั้งคู่ พอลุกขึ้นได้ตนก็รีบวิ่งหนี แต่ก็ถูกกระชากกลับเข้าไปในบ้าน และรุ่นพี่คนดังกล่าวก็ชี้หน้าด่า บอกว่าอย่าให้โมโหไปมากกว่านี้

จากนั้นก็ใช้มีดจี้ให้ขึ้นไปบนห้องนอนชั้น 2 พร้อมทั้งพยายามข่มขืน แต่ตนไม่ยอมจึงถูกบีบคอจนตนดิ้นตกเตียงหัวฟากกระจกแตก อีกทั้งยังใช้มือ ตบ ต่อย ใช้เศษกระจกมาขู่ให้ตนกลับขึ้นเตียง จากนั้นตนก็อาศัยจังหวะทีเผลอ วิ่งหนีลงมาจากห้องไปที่หน้าบ้าน แต่ก็ถูกลากกลับเข้าบ้านอีกรอบ ก่อนจะถูกจับหัวโขกตู้ไม้ ขอบบันได แถมบีบคอจนแทบจะขาดใจตาย ตนไหวร้องขอชีวิตอย่างไรก็ไม่ปล่อย จนต้องยอมกลับขึ้นไปบนห้องอีกรอบ พอขึ้นมาตนก็รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายวิ่งหนีมากระโดดระเบียงหนีออกมา เพราะคิดว่ายอมตายดีกว่าถูกข่มขืน

น.ส.ทิฟฟี่ กล่าวด้วยว่า เมื่อกระโดดลงมาตกที่หลังคาลานจอดรถ ตนก็วิ่งบนหลังคาข้ามไปบ้านหลังอื่นๆอีก 3 บ้าน แล้วกระโดลงใส่รถจนหลังคาบุบ แต่ก็ถูกรุ่นพี่คนดังกล่าววิ่งตามมาต่อยตน แล้วจะลากกลับบ้าน โชคดีที่มีป้าคนหนึ่งออกมาบอกให้ใจเย็นๆ แต่รุ่นพี่บอกไปว่าเรื่องของผัวเมีย ตนก็บอกว่าให้ช่วยเรียกตำรวจให้ที ตนไม่ได้เป็นอะไรกัน จนกระทั่งมีผู้ชาย 2 คนเดินมาเห็นตนถูกต่อยอยู่จึงเข้ามาห้าม จึงหนีออกมาได้ ต้องขอบคุณทั้ง 3 คนด้วยที่เข้ามาช่วยเหลือ

จากนั้นตนก็พาร่างสะบักสะบอมไปแจ้งความที่ สน.แห่งหนึ่ง แต่ตำรวจบอกว่าคดีเยอะแล้ว ให้กลับไปรักษาตัวก่อนแล้วกลับมาใหม่ ทำให้ช่วง 10.00 น. ตนถึงกลับเข้าไปแจ้งความอีกเป็นครั้งที่สองถึงจะรับแจ้งความให้ ตนก็งงว่าทำไมถูกทำร้ายปางตายขนาดนี้ถึงให้ไปรักษาตัวให้ดีก่อน