เซ็นทรัลขยายธุรกิจเพย์เมนท์เปิตตัว"เซ็นเพย์"

เซ็นทรัลขยายธุรกิจเพย์เมนท์เปิตตัว"เซ็นเพย์"

กลุ่มเซ็นทรัล รุกตลาดเพย์เมนท์ เปิดตัว“เซ็นเพย์” รับจ่ายบิล-เติมเงิน กว่า 200 บริการ  ประเดิมธุรกิจในเครือกว่า 6,000 เคาน์เตอร์  ชูค่าธรรมเน

นายพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทได้เริ่มพัฒนาธุรกิจ Payment Service ภายใต้บริการ “เซ็นเพย์” (CenPay) ในช่วงปลายปี 2557  ปัจจุบันใช้งบลงทุนรวมกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นบริการรับชำระบิลต่างๆและบริการเติมเงินกว่า 200 รายการ อาทิ ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์  ประกัน อินเทอร์เน็ต บัตรเครดิต ตั๋วเครื่องบิน ฯลฯ

 ปัจจุบันมีจุดบริการเคาน์เตอร์ แคชเชียร์ เซ็นเพย์ที่อยู่ภายใต้บริษัทในเครือกลุ่มเซ็นทรัลทั่วประเทศกว่า 1,659 สาขา ได้แก่ แฟมิลี่มาร์ท 1,117 สาขา, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และท็อปส์ รวม 199 สาขา, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล 22 สาขา, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 44 สาขา, บีทูเอส 96 สาขา, ออฟฟิศเมท 48 สาขา, ไทวัสดุ โฮมเวิร์ค และบ้านแอนด์บียอนด์ รวม 48 สาขา และเพาเวอร์บายอีกกว่า 85 สาขา รวมกว่า 6,000 เคาน์เตอร์ คิดเป็นสัดส่วน 70% ของธุรกิจในเครือเซ็นทรัล

หลังให้บริการเซ็นเพย์มาราว 2 ปี  พบว่ามียอดการจ่ายบิลผ่านเคาน์เตอร์เฉลี่ย 3 แสนรายการต่อเดือน มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง  ปี2559 มียอดการใช้บริการชำระบิลเพิ่มขึ้นจากปี 2558 อยู่ที่ 140% และการใช้บริการเติมเงินสูงขึ้น 200%  โดยเฉลี่ยมีผู้ใช้บริการประมาณ 100 ธุรกรรมต่อวันต่อเคาน์เตอร์

“ช่วง 2 ปีนี้ได้วางระบบเครือข่ายเซ็นเพย์ในธุรกิจกลุ่มเซ็นทรัลแล้วกว่า 70%  วันนี้จึงเปิดตัวบริการอย่างเป็นทางการ  พร้อมรุกทำตลาดตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป วางเป้าหมายผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเท่าตัวปีหน้าหรือกว่า 6 แสนราย และ 3-5 ปี เป็นผู้นำท็อปทรีบริการเพย์เมนท์”

นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่านโยบาย“ช้อปช่วยชาติ”ปีนี้ ระยะเวลา 18 วัน จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายในช่วงโค้งสุดท้ายเพิ่มขึ้น ซึ่งจะได้ผลดีกว่าปีก่อน เพรามีระยะเวลามากกว่า โดยธุรกิจในเครือเซ็นทรัลทุกหน่วยธุรกิจได้ร่วมจัดแคมเปญเพิ่มขึ้นทั้งการให้ส่วนลดและคูปองคืนเงิน  

นายมนตรี สิทธิญาวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างเซ็นทรัลดีพาทเมนท์สโตร์ จำกัด เปิดเผยว่าเป้าหมายการทำตลาดเซ็นเพย์ มุ่งกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการธุรกิจในเครือเซ็นทรัลที่มีกว่า 20 หน่วยธุรกิจ ในปี 2560 จะเพิ่มงบประมาณการตลาดเป็น 30 ล้านบาท  จากปี 2559 อยู่ที่ 20 ล้านบาท เพื่อรุกตลาดบริการเพย์เมนท์ ด้วยกลยุทธ์ค่าธรรมเนียมต่ำที่สุดในตลาดขณะนี้  ที่ 5 บาทต่อบิล ในช่วง 3 เดือนจากนี้  

พร้อมใช้จุดแข็งฐานสมาชิกเดอะ วัน การ์ด ที่มีจำนวน 11-12 ล้านราย มากระตุ้นการใช้บริการ โดยสามารถใช้คะแนน เดอะ วัน การ์ด แลกแทนเงินสดในการชำระบิลหรือเติมเงินได้ (Redeem Point) โดยทุกๆ 40 คะแนนใช้แทนเงินสดได้ 5 บาท และทุกๆ 800 คะแนนใช้แทนเงินสดได้ 100 บาท รวมทั้งรับคะแนนทุกๆการชำระบิล โดยการชำระบิล 5 บาท จะได้รับคะแนน 1 คะแนน

ทั้งนี้ คาดว่าเพิ่มจุดให้บริการให้ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจในเครือกลุ่มเซ็นทรัลได้ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า เพื่อให้ยอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 30% จากปัจจุบันที่มียอดผู้ใช้บริการชำระบิลอยู่ที่ 3 แสนรายการต่อเดือน และยอดเติมเงิน 1.6 ล้าน รายการต่อเดือน

ในปี 2560 เซ็นเพย์มีแผนดึงดูดผู้ใช้บริการรายใหม่มากขึ้น โดยการเพิ่มรายการรับชำระบิลและเติมเงินอีกประมาณ 20 รายการ จากปัจจุบันที่มีกว่า 200 รายการ  โด่ยรายการรับชำระบิลที่น่าจับตา คือ อีซีพาส, กรุงศรีออโต้(Car4Cash) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นต้น และช่วงไตรมาส3 ปีหน้า จะขยายบริการเซ็นเพย์ ผ่านโมบาย แอพพลิเคชั่น เพิ่มเติม