MORNING CALL ACTION NOTES (16 ธ.ค.59)

MORNING CALL ACTION NOTES (16 ธ.ค.59)

เลือกเล่นรายตัว

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงเนื่องจากเฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ส่งผลให้ Fund Flow เริ่มไหลออกเป็นวันที่ 3 ทำให้ SET ปิดที่ 1,519.65 จุด (-1.60จุด) Vol. 4.9 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -1,456 ลบ. TFEX Net -5,247 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาด DJ ปรับตัวขึ้นได้รับผลบวกยอดผู้ขอรับสวัสดิการปรับตัวลง 4,000 ราย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านที่พุ่งขึ้นแตะสูงสุดในรอบกว่า 11 ปี

+ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) คงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% และคงวงเงิน QE ที่ 4.35 แสนล้านปอนด์

+ แรงซื้อกองทุน LTF RMF ในช่วงปลายปี

- Foreign มี Net Sell ติดต่อกัน 3 วัน 3.2 พันลบ.

ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งยอดผู้ขอรับสวัสดิการและความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน อย่างไรก็ตามเงินบาทยังคงอ่อนค่าจะทำให้ Fund Flow ไหลออกเป็นปัจจัยกดดันต่อดัชนี ในวันนี้ประเมินกรอบ SET วันนี้ที่ 1,510 - 1,530 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยบวก

- มาตรการช็อปช่วยชาติ BJC HMPRO MC SYNEX ROBINS CPN

- กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม อานิสงส์ครม.อนุมัติลดหย่อนภาษีได้อีก 15,000 บ.ในการท่องเที่ยวเดือน ธ.ค.

- กลุ่มส่งออก (อาหาร อิเล็กทรอนิกส์) อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 35.78 Bath/USD.

- หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณ SET50 รอบใหม่ GL THAI BJC และ SET100 SUPER SPRC TKN BIG THANI VIBHA มีผล 1 ม.ค. 60

หุ้นแนะนำ

TRC   ราคาปิด 1.47    แนะนำ ซื้อ 1.75

- โครงการก่อสร้างเหมืองแร่ APOT ล่าช้าแต่มีความชัดเจนเพิ่มขึ้นหลัง APOT ลงนามสัญญากู้เงินกับธนาคาร ICBC ประเทศจีนในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา

- คาดกำไรปี 59 อยู่ที่ 252 ล้านบาทหดตัว 16% แต่จะเติบโตในปี 60 ที่ 85% สู่ 467 ล้านบาทเนื่องจากรับรู้รายได้จากการก่อสร้าง APOT

- ปี 60 มีงานประมูลราว 4.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโรงงาน 2 พันล้านบาท และงานวางท่อก๊าซ PTT อีก 4.3 หมื่นล้านบาท

หุ้นมีข่าว

- ประเด็นบวก SCB (ราคาปิด 147 ซื้อ ราคาเหมาะสม 172) KTB (ราคาปิด 17.50 ซื้อ ราคาเหมาะสม 20.60 ) TISCO (ราคาปิด 53.75 ซื้อ ราคาเหมาะสม 60 บาท) – ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการของบมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI)โดยมี SSI เป็นผู้บริหารแผน ซึ่งจะมีการปรับโครงสร้างทุนด้วยการลดทุนจดทะเบียนก่อนแปลงหนี้เป็นทุนให้กับกลุ่มเจ้าหนี้ และชำระหนี้ด้วยกระแสเงินสดให้กลุ่มเจ้าหนี้บางส่วน โดยวางเป้าหมายชำระหนี้เงินต้นคงค้างให้แก่เจ้าหนี้ทุกรายจำนวนไม่น้อยกว่า 25% ของภาระหนี้เงินต้นคงค้าง และส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นบวก ตลอดจนได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหนี้

   ความเห็น : เป็นผลดีกับเจ้าหนี้ธนาคารทั้ง 3 รายซึ่งมีมูลหนี้รวมราว 5 หมื่นลบ.ได้แก่ SCB (มูลหนี้ราว 2.2 หมื่นลบ.) KTB (มูลหนี้ราว 2.3 หมื่นลบ.) และ TISCO (มูลหนี้ราว 4.4 พันลบ.) ที่ได้ตั้งสำรองหนี้สูญเต็มจำนวนใน 3Q58 สามารถกลับรายการและส่งผลให้กำไร 4Q59 เติบโตสูงเมื่อเทียบกับ QoQ และ YoY ถือเป็นอัพไซต์จากประมาณการกำไรปกติปี 59 จากที่คาด SCB จะมีกำไรราว 4.6 หมื่นลานบาทลดลง 3% KTB คาดกำไรปี 59 ราว 3 หมื่นล้านบาทเติบโต 5% ส่วน TISCO คาดจะมีกำไรราว 5,010 ลบ. เพิ่มขึ้น 18%

- LH (ราคาปิด 9.10 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 10.30 บาท )เข้าซื้ออพาร์ทเม้นท์"เดอะยาร์ด"ในเมืองพอร์ตแลนด์ของสหรัฐ มูลค่า 126.68 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นราว 4.51 พันล้านบาท แหล่งเงินลงทุนจากเงินทุนของบริษัทและเงินกู้ยืมจากธนาคาร เพื่อนำมาให้เช่า โดยอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว มีพื้นที่ 0.7 เอเคอร์ เป็นอาคารสูง 21 ชั้น 284 ห้อง ปัจจุบันมีอัตราการเช่าประมาณ 50% 

   ความเห็น: เป็นไปตามแผนที่จะซื้อสินทรัพย์เพื่อเช่าเพิ่มเติม สร้างรายได้ประจำให้กับบริษัท ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของรายได้จากการขายโครงการจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจและภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวของ LH จากการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ช่วยสร้างความมั่งคั่งให้กับบริษัท และมี yield ราว 6% น่าสนใจถือยาวรับเงินปันผล

- JAS วันนี้ครบกำหนดขายหุ้นซื้อคืน 1,200 ล้านหุ้น จับตาขายคืนในกระดาน หรือเตรียมตัดลดทุน หากไม่ได้ขายหุ้นที่ซื้อคืน

- ประเด็นบวก STEC-CK "กิจการร่วมค้าซีเคเอสที"เสนอราคาประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มสัญญา 5 เป็นงานก่อสร้างอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจร ต่ำสุดที่ 4,901 ลบ.

- ITEL-ILINK ชนะประมูลงาน กฟภ.2 กลุ่มงานมูลค่ารวม 124.6 ลบ.คาดเซ็นสัญญา ม.ค.60

- EPCO ใช้เงิน 509.42 ลบ.เข้าซื้อหุ้นทางอ้อมอีก 10% ในโรงไฟฟ้าเอสพีพี 240 MW ถือเพิ่มเป็น 30% ตามแผน

- STEC เผยมีงานรอเซ็น 6 หมื่นลบ.คาดดัน backlog แตะ 1 แสนลบ.รายได้ปี 61 พุ่งเป็น 2.5 หมื่นลบ.

- PCSGH ได้งานใหม่ 2 โครงการรวมมูลค่าราว 1.2 พันลบ.


ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +59.71จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,852.24 จุด เพิ่มขึ้น 59.71 จุด หรือ +0.30% โดยดาวโจนส์เคลื่อนตัวเข้าใกล้แนวต้านที่ระดับ 20,000 จุด หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว และดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่มผู้สร้างบ้านที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 11 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเริ่มซึมซับข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ตลาดน้ำมัน NYMEX -0.14 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 50.90 ดอลลาร์/บาร์เรลเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ระบุว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ย.