ช้างป่า50ตัว บุกบ้านชาวบ้าน ทำลายจยย.

รับแจ้งในช่วงสายวันนี้ว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ได้มีโขลงช้างป่าจำนวนกว่า 50 ตัว ได้เดินลงมาหากินในพื้นที่ ม.1 ต.พวา และทำลายรถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน ของนาง สมทรง หนองใหญ่ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 463 ม.1 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ที่จอดอยู่หน้าบ้าน สภาพล้มคว่ำพังเสียหายทั้ง 3 คัน โดยมีนาง สมทรง ผู้เสียหายยืนรอพบเจ้าหน้าที่ จากการสอบถามนาง สมทรง ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าช่วงกลางดึกของเมื่อคืน ตนเองกำลังนอนหลับพักผ่อน จู่ๆก็ได้ยินเสียงช้างร้อง จึงแอบดูที่ช่องลม และก็พบว่ามีช้างจำนวนหลายสิบตัว กำลังเหยียบย่ำรถจักยานยนต์ของตนเองที่จอดอยู่หน้าบ้าน ซึ่งตนเองรู้สึกตกใจมากและไม่กล้าเปิดประตูออกมาดู ก่อนจะรอให้สว่าง แล้วจึงเปิดประตูออกมาดู และก็พบว่าโขลงช้างป่าได้ทำการเหยียบย่ำรถจักรยานยนต์ของตนเองพังเสียหาย 

โขลงช้างป่าดังกล่าวหลังจากที่ได้ทำลายข้าวของบ้านนาง สมทรง เส็จแล้วได้มุ่งหน้าไปยังบ้านของนาย เฉิบ สุขสวัสดิ์ อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/1 ม.1 ต.พวา ซึ่งขณะที่นาย เฉิบ กำลังทำธุระส่วนตัวอยู่หลังบ้าน โดยไม่ทันระวังว่ามีช้างป่า ได้เดินเข้ามา ก่อนใช้เท้าเหยียบไปที่บริเวณสะโพก นาย เฉิบ จึงได้ตะโกนให้คนช่วย ก่อนที่ช้างป่าจะตกใจ และรีบเดินหลบเข้าไปในป่าข้างทาง ขณะที่นาย เฉิบ ผู้บาดเจ็บได้คลานออกมาจากหลังบ้าน ก่อนที่ญาติจะช่วยกันนำตัวส่ง รพ.ล่าสุด อาการปลอดภัย 

โขลงช้างป่ากว่า 50 ตัว ดังกล่าว ยังบุกเข้าไปหากินในบ้านของ ประเสริฐ จันน้อย อายุ 60 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ม.1 ต.พวา ซึ่งนายประเสริฐ ได้เล่าเหตุการณ์อย่างตื่นเต้นว่า ช่วงเมื่อเวลา 02.00 น.ตนเองออกมานั่งกินกาแฟอยู่ที่หน้าบ้าน ก่อนที่จะออกไปกรีดยาง จู่ๆได้มีช้างจำนวนหลายสิบตัวมายืนอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน ตนเองรู้สึกตกใจและได้วิ่งหนีเข้ามาในบ้าน และสิ่งที่ไม่คาดคิด เมื่อมีช้างจำนวน 2 ตัว ได้เดินตามตนเองมาติดๆก่อนจะเดินเข้ามายังภายในบ้าน และทำลาย ตู้เย็น/ตู้กับข้าว และข้าวของเครื่องใช้ภาพในบ้านพังเสียหาย 

ขณะที่ชาวบ้านที่รับจ้างกรีดยาง ในพื้นที่ ต.พวา ต้องหันเปลี่ยมมากรีดยางตอนกลางวัน เพื่อเป็นการหลบหลีกช้างทำร้าย ถึงแม้ว่าน้ำยางจะไม่ค่อยออกเท่าที่ควร ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ฯ และนายกเทศมนตรี ต.พวา อ.แก่งหางแมวพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งหางแมว ได้ทำการลงพื้นที่ตรวจสอบ และให้กำลังใจชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ พร้อมจะรายงานให้ทางจังหวัดให้ทราบต่อไป