ปีนสู่ชีวิตใหม่

ความผิดหวังที่กลายเป็นแรงใจ เพราะไม่มีจุดจบ มีแต่จุดเปลี่ยน ถ้าให้โอกาสตัวเองลองอะไรใหม่ๆ

ในวันที่หัวใจดิ่งเหว ณ จุดที่คิดว่าทุกอย่างจบสิ้น ไปต่อไม่ได้แล้ว บางสิ่งได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิต ทำให้รู้ว่าโลกนี้ยังมีอะไรให้ทำอีกมากมาย

ดร.ออม - ดร.เรือนใจ สุวรรณธราดล หญิงสาวที่ทุกอย่างเหมือนจะสมบูรณ์แบบมาตลอด เป็นสาวแอคทีฟชอบเล่นกีฬาแถมยังเก่งวิชาการ เธอจบดร.สาขาเศรษฐศาสตร์จากอเมริกา แล้วมาเป็นอาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศอยู่ที่ Singapore Management University ประเทศสิงคโปร์ ชีวิตลงตัวทุกด้าน แต่แล้ววันหนึ่งความผิดหวังครั้งใหญ่ก็มาเยือนแบบไม่ทันตั้งตัว จนเธอคิดว่าจะเริ่มต้นอะไรใหม่ไม่ได้แล้ว

ปีนเขาเปลี่ยนชีวิต

“ไปปีนเขากัน” เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานชักชวนดร.ออมไปปีนเขาคินาบาลู ประเทศมาเลเซีย เธอก็ตอบรับ เพราะอยากลองทำอะไรใหม่ๆ แม้นึกภาพไม่ออกเลยว่าจะไปเจอกับอะไร

“ตอนนั้นอยากลองทำอะไรที่เปลี่ยนไปเลย มีเวลาเตรียมตัวแค่ 2 อาทิตย์ ไปแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไปแล้วประทับใจมาก คือเราไม่ได้เจอกับเพื่อนคนนี้มาเป็น 10 ปีแล้ว แต่เฟซบุ๊คพามาเจอกัน มีคนในทริปประมาณ 30 คน ไม่รู้จักกันมาก่อน แล้วเราไม่เคยรู้ว่ามีส่วนหนึ่งของโลกมีคนเดินป่าปีนเขาอยู่ด้วย”

คนที่ไม่รู้จักกัน แต่มาใช้ชีวิตลำบากด้วยกัน แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลา 3 วัน 2 คืน แต่ก็ทำให้ดร.ออมได้รู้จักเพื่อนกลุ่มใหม่ กลุ่มคนที่กินง่าย อยู่ง่าย มีใจเปิดกว้าง ทั้งที่การเดินทางนั้นเหนื่อยและลำบากมาก แต่ทุกคนช่วยเหลือและให้กำลังใจกันตลอดทาง

“ต้องใช้ความพากเพียรพยายามมาก ทั้งหนาว ทั้งนอนไม่พอ เป็นความทรมานบันเทิงอย่างที่เขาบอก เพราะพอไปถึงแล้วมันบันเทิงจริงๆ มีความสุขมาก เหมือนได้ทำบางอย่างสำเร็จ คนที่ไม่เคยไปอาจคิดว่าดูพระอาทิตย์ขึ้น ทำไมต้องลำบากไป แต่ ณ จุดนั้น สำหรับนักปีนเขานั่นคือไฮไลท์ เป็นความรู้สึกแตกต่าง บรรยายไม่ถูก”

พอกลับมาดร.ออมก็รู้สึกโหยหาการปีนเขาอีก เพราะนอกจากจะคิดถึงสิ่งที่หาไม่ได้จากชีวิตในเมืองใหญ่แล้ว การปีนเขายังให้บทเรียนแก่เธอ

“เราพอใจกับสิ่งที่เรามีทุกวันมากกว่าเดิม เพราะเราเคยไปในจุดที่ลำบากมาก ความสะดวกสบายของทุกวันที่เรามองข้าม จริงๆ แล้วถือเป็นความหรูหรา เป็นความพิเศษ ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตง่ายๆ เราก็อยู่ได้ ทำให้เราประทับใจทุกอย่างมากขึ้น ไม่ค่อยบ่น มีอะไรก็อยู่ได้ เป็นกิจกรรมที่ทำให้เราเกิดการเรียนรู้จริงๆ”

ปีนเขาพาไปไตรกีฬา

เพราะประทับใจการปีนเขามาก จากลูกแรกไปสู่ลูกที่ 2 และต่อๆ มา จากอินโดนิเซีย ไปเนปาล ไปรัสเซีย เพื่อเก็บ 7 Summits 7 สุดยอดเขาสูงของโลกให้ได้ และเพื่อสร้างร่างกายที่แข็งแรงรองรับการปีนเขา ดร.ออมจึงเริ่มวิ่งออกกำลังกายอย่างจริงจัง พอมาวิ่งแล้วก็ได้เพื่อนใหม่เป็นกลุ่มนักวิ่งอีก กลายเป็นกิจกรรมทางสังคมที่สนุกสนาน

จากนั้นเพื่อนในกลุ่มวิ่งก็ลงแข่งไตรกีฬา ดร.ออมก็สนใจ จากคนที่ว่ายน้ำพอเป็น ก็ต้องการเอาชนะตัวเองเรื่องว่ายน้ำให้ได้ จึงตั้งเป้าลงไตรกีฬาและไปเรียนว่ายน้ำ ถึงตอนนี้ดร.ออมเล่นไตรกีฬามาได้ปีครึ่งแล้ว เธอสนุกกับการลงแข่งในระยะมาตรฐาน (ว่าย/ปั่น/วิ่ง 1.5/40/10 กม.) แต่ปีหน้าตั้งใจว่าอยากลงในระยะฮาล์ฟ ไอรอนแมน หรือ 70.3 (ว่าย/ปั่น/วิ่ง 1.9/90/21 กม.)

สำหรับวิ่งมาราธอน เธอจบมาราธอนแรกหลังไตรกีฬาเสียอีก หลังจากถูกเพื่อนลุ้นอยู่พักใหญ่ ก็จบมาราธอนแรกที่ Osaka Marathon 2016 สนามที่มีกองเชียร์ตลอดเส้นทางราวกับปิดเมืองจัดมาราธอน ดร.ออมยอมรับว่าเธอชอบไตรกีฬามากกว่าวิ่ง “เพราะได้ทำ 3 อย่าง ไม่เบื่อ หลากหลายดี มีการวางแผน” ซึ่งถ้าจะวิ่งเธอเลือกวิ่งในสนามที่มีความสนุกอย่างโอซากา มาราธอนนี่แหละ

ฉะนั้น หากถามว่าวิ่งแล้วรู้สึกเปลี่ยนชีวิตไหม สำหรับดร.ออมนั้น ชีวิตของเธอเปลี่ยนตั้งแต่ไปปีนเขาที่คินาบาลูแล้ว วิ่งก็เป็นเป้าหมายระหว่างทางที่อยากทำให้สำเร็จไปเรื่อยๆ ตอนนี้ดร.ออมมุ่งเป้าไปที่ไตรกีฬา เธอร่วมทีมกับทีมไอรอนแมนญี่ปุ่นที่ฝึกซ้อมและสนับสนุนกันและกัน เธอออกตัวว่ายังอยู่หางแถว และไม่ได้ตั้งเป้าให้ถึงระยะฟุล ไอรอนแมน (ว่าย/ปั่น/วิ่ง 3.9/180/42 กม.)  เพราะคิดว่าตอนนี้ยังทำไม่ได้ แต่อีกหน่อยที่ร่างกาย เวลา และสิ่งรอบตัวเอื้อให้ทุ่มเทฝึกซ้อมได้เต็มที่ เธอก็แอบฝันไว้เหมือนกัน

“เริ่มแล้วก็ต้องไปให้สุด แต่คิดถึงความสามารถของตัวเองด้วยนะ ไม่ก้าวกระโดด ทำอะไรด้วยความระมัดระวัง อย่างไปปีนเขาบางทีก็อันตราย แต่เราเลือกความเสี่ยงที่รับได้ อย่างวิ่ง ใจก็หวังว่าจะจบฟุล แต่ไม่ต้องการการบาดเจ็บ เราอยากทำได้นานๆ มีท้าทายตัวเองบ้าง แต่ไม่เพิ่มทันทีทันใด ตอนนี้ไอรอนแมนคิดว่าทำไม่ได้ด้วยสภาพปัจจุบัน แต่สมัยก่อนก็ไม่คิดว่าจะลงฮาล์ฟนะ คือลึกๆ ก็หวังนะ แต่ไม่รีบ ให้จังหวะชีวิตพาไป”

ท้ายที่สุดแล้ว ความผิดหวังไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเปลี่ยนให้เริ่มต้นใหม่

“รู้สึกขอบคุณความผิดหวังครั้งนั้นนะคะ ที่ทำให้เราเจอชีวิตใหม่ ได้ทำอะไรที่ไม่คิดว่าจะทำ ได้รู้ว่าชีวิตมีอะไรอีกมากมาย ภูเขาที่อยากจะไป สิ่งที่อยากทำ เวลาทั้งชีวิตยังไม่พอเลย ก่อนหน้านั้นคิดว่าชีวิตเราจบแล้ว มืดมน แต่หลังจากปีนเขาก็เปลี่ยนไปเลย โลกนี้มีอะไรที่น่าทำเต็มไปหมดเลย ใครชวนไปทำอะไรแปลกใหม่ ทำหมดเลย เพราะเพิ่งรู้ว่าสิ่งเหล่านี้เราก็ทำได้นี่นา”