ITEL - ซื้อ

ITEL - ซื้อ

โมเด็ลธุรกิจแข็งแกร่งหนุนการเติบโต

ประเด็นการลงทุน

การประกาศงาน O&M โครงข่าย Fiber Optic มูลค่า 125 ล้านบาท คาดจะเป็น Positive Surprise เพราะเป็นโมเด็ลธุรกิจที่เปลี่ยนจากการแบกต้นทุนมาเป็นหากำไร ซึ่งบริษัทมีโอกาสโอกาสขยายธุรกิจ O&M เพิ่มอีกในอนาคต สำหรับให้เช่า Fiber คาดตลาดจะเริ่มให้มูลค่ากับกำไรที่ได้จากลูกค้าใหม่เมื่อเห็นรายได้เติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาส โดยใน 4Q16-1Q17 นี้ จะเริ่มให้บริการกับ mobile operator รายใหม่ และลูกค้าร้านสะดวกซื้อที่ได้สัญญามาแล้วกว่า 1,000 สาขา ในขณะที่การเติบโตระยะยาวมีโอกาสมากกว่าคาดจากแผนธุรกิจเชิงรุก และโอกาสที่เข้าไปขายการเชื่อมต่อกับตู้ ATM ที่อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อที่บริษัทมีวงจรเชื่อมต่ออยู่แล้ว

ได้รับงาน O&M โครงข่าย เปลี่ยนต้นทุนเป็นกำไร

กลุ่มบริษัทเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดในงานซ่อมบำรุง (O&M) โครงข่าย Fiber Optic จำนวน 2 สัญญา มูลค่า 125 ล้านบาท ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เรามองว่าเป็นการโมเด็ลธุรกิจที่เพิ่มศักยภาพในการทำกำไรให้กับบริษัท เพราะบริษัทมีหน่วยงานวิศวกรรมของที่ใช้ในการดูแลโครงข่ายของตัวเองอยู่แล้ว (เดิมบริษัทต้องแบกต้นทุนหน่วยงานนี้) ซึ่งสามารถนำมาหารายได้ด้วยการรับจ้าง O&M โครงข่ายให้กับลูกค้าได้ ซึ่งเรามองว่าบริษัทมีโอกาสขยายธุรกิจ O&M เพิ่มในอนาคต ซึ่งจะเป็นกระแสรายได้ต่อเนื่องเพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง

ค่าเช่าโครงข่าย เติบโตสูงจากลูกค้าใหม่

เรามีความมั่นใจในการเติบโตของรายได้ค่าเช่าโครงข่าย Fiber Optic คาดราว 40%YoY ในปี 2017 (ซึ่งจะมาจากการหาลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่ม utilization rate หนุนรายได้เติบโตราว 8-10%QoQ ในทุกไตรมาส) โดยใน 4Q16 จะเริ่มรับรู้รายได้จาก mobile operator รายใหม่ที่เข้ามาเช่าโครงข่าย Interlink Dark Fiber ในเส้นทางภาคใต้เพิ่มขึ้น และไปจนถึง 1Q17 คาดจะเติบโตจากการรับรู้รายได้ของลูกค้าที่เป็นร้านสะดวกซื้อ ปัจจุบันบริษัทได้รับสัญญาเข้ามาราว 1,000 สาขา ซึ่งมีโอกาสที่จะได้รับสัญญาเพิ่มจงจรของจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่เข้าไปขายการเชื่อมต่อกับตู้ ATM ที่อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อที่บริษัทมีวงจรเชื่อมต่ออยู่แล้ว

อัพไซด์ต่อประมาณการจากแผนธุรกิจเชิงรุก

การเติบโตในระยะยาวมีโอกาสมากกว่าคาด ซึ่งบริษัทวางแผนเพิ่ม utilization rate เป็น 50% ภายใน 5 ปี ซึ่งมากกว่าที่เราคาดการณ์ที่ u-rate 35% ใน 5 ปี (จากปัจจุบันที่ราว 17%) และวางแผนขยับ market share เพิ่มขึ้นเป็น 17% จากปัจจุบันอยู่ที่ 9% หรือขยับขึ้นเป็นอันดับ 4 (รายใหญ่ได้แก่ mobile operator และ CAT/TOT) ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าราว 310 ราย คิดเป็นจำนวน 6,000 จงจร ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก ลูกค้า 242 ราย และ 2,900 วงจรในปีที่แล้ว

เรามองว่าจุดแข็งของโครงข่าย Interlink Fiber Optic คือมีความครอบคลุมถึง 75 จังหวัด ทั้งในส่วนของ Core backbone (ตามเส้นทางรถไฟ) และ Last mile (ตามเส้นทางถนน) ช่วยให้สามารถให้บริการกับลูกค้าที่มีสาขากระจายตัวทั้วประเทศได้ และคุณภาพ SLA ที่สูงถึง 99.9985% เป็นเวลาหลายปี บริษัทจึงมีความได้เปรียบในการแข่งขัน คาดจะเป็นปัจจัยหนุนให้รายได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง