'ขสมก.'โยน'คลัง-กรมศุลฯ'ตัดสินปมรถเมล์เอ็นจีวี

นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวถึงกรณีที่บริษัทเบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะการประมูลโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) จำนวน 489 คัน วงเงิน 3,389 ล้านบาท ยื่นข้อเสนอขอให้กระทรวงการคลังนำเงิน 3,389 ล้านบาท มาใช้ในการวางประกันนำรถออกจากท่าเรือ ว่า ตามหลักการไม่ทราบว่าจะสามารถทำตามข้อเรียกร้องดังกล่าวได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยกรณีลักษณะนี้เกิดขึ้น ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่ที่กระทรวงการคลังและกรมศุลกากรเข้าไปดำเนินการกระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งหากบริษัทฯ นำรถออกมาและผ่านกระบวนการทางกรมศุลฯ อย่างถูกต้องสามารถนำรถมาวิ่งได้ไม่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ในอนาคตหากกรมศุลฯ พิสูจน์แล้วพบว่าบริษัทฯ มีเจตนานำรถเข้ามาเลี่ยงภาษี บริษัทฯ ต้องชำระภาษีและดำเนินการตามระเบียบทางกฎหมายของกรมศุลฯ ที่ระบุไว้

ด้านนายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานกรรมการบริษัทเบสท์รินฯ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้ทำหนังสือยื่นข้อเสนอทางออกเรื่องดังกล่าว ไปที่ ขสมก. แล้วเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. หลังจากนี้ดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งระบุข้อบ่งชี้ว่า หากบริษัทฯ มีเจตนาเลี่ยงภาษี บริษัทยินดีที่จ่ายภาษี นำเข้า40% โดยให้กรมศุลกากรหักค่าภาษีจากเงินดังกล่าวได้ทันที โดยจะไปทยอยยื่นข้อเสนอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง เพื่อให้พิจาณาเรื่องดังกล่าวต่อไป อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้ววิธียื่นข้อเสนอทางออกเรื่องดังกล่าวไม่ได้ผล ทางบริษัทคงทำได้แค่รอกระบวนการทางกรมศุลฯ ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จต่อไป

ส่วนการประเมินความเสียหายเบื้องต้นที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริษัทมีเรื่องจ่ายค่าจอดรถที่ท่าเรือแหลมฉบัง สำหรับรถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรก 99 คัน เริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. เป็นต้นมา จนขณะนี้วันที่ 9 ธ.ค. เป็นเวลา 6 วันแล้ว โดยจ่ายวันละ3,000 บาทต่อคัน หรือประมาณวันละ 297,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 1,782,000 ล้านบาท ขณะที่ล็อตที่สอง 145 คัน เข้าเทียบท่าเรือแหลมฉบังตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค.ขณะนี้สามารถนำรถเมล์ล็อตดังกล่าวลงจากเรือและนำมาจอดที่ท่าเรือแล้ว และคาดว่าเริ่มจ่ายค่าจอด ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. เป็นเงินวันละ 435,000 บาท ส่วนล็อตที่สาม 145 คัน คาดว่า 1-2 วันจะมาถึงท่าเรือ และล็อตสุดท้าย 100 คัน ทยอยตามมาเร็วๆ นี้