สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 6-9 ธันวาคม 2559

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 6-9 ธันวาคม 2559

“เงินบาทอยู่ในกรอบแคบ ขณะที่ หุ้นไทยปรับขึ้นตามแรงซื้อต่างชาติและทิศทางหุ้นต่างประเทศ”

Foreign Exchange Market

- เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบใกล้ๆ ระดับ 35.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ทั้งนี้ แม้เงินบาทจะมีแรงหนุนในระหว่างสัปดาห์จากสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ และแรงขายเงินดอลลาร์ฯ จากนักลงทุนที่ต้องการปรับโพสิชันก่อนการประชุมเฟดในวันที่ 13-14 ธ.ค. อย่างไรก็ดี ทิศทางการแข็งค่าดังกล่าวก็เป็นเพียงช่วงสั้นๆ และเงินบาทก็กลับมาอ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้นพร้อมๆ กับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรปขยายเวลามาตรการ QE ออกไปนานกว่าที่ตลาดคาด แม้ว่าจะมีการปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ต่อเดือนลงมาก็ตาม

- สำหรับในวันศุกร์ (9 ธ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 35.63 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 35.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ (2 ธ.ค.)


สำหรับสัปดาห์ถัดไป (13-16 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.50-35.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยตลาดการเงินทั่วโลกน่าจะรอจับตาผลการประชุมเฟด (13-14 ธ.ค.) และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียและเฟดสาขานิวยอร์ก ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนธ.ค. ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ย. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิ สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนอาจมีจุดสนใจที่ตัวเลขเศรษฐกิจของจีน และเงินเฟ้อของยูโรโซนในเดือนพ.ย. ด้วยเช่นกัน



Stock Market

- ดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ขณะที่ นักลงทุนต่างชาติกลับมามีสถานะซื้อสุทธิตลอดสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,526.32 จุด เพิ่มขึ้น 1.64% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน ลดลง 13.69% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 44,928.01 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 600.61 จุด เพิ่มขึ้น 2.39% จากสัปดาห์ก่อน

- ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยอีกครั้ง นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยยังสอดคล้องกับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ที่ได้รับอานิสงส์จาก การขยายเวลามาตรการ QE ของ ECB ออกไป


สำหรับสัปดาห์ถัดไป (13-16 ธ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,490 และ 1,510 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,535 และ 1,550 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตลอดจนการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันหลังการประชุมระหว่างกลุ่มโอเปก และกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปก ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีราคาผู้บริโภค และยอดค้าปลีก ส่วนปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ ผลสำรวจแนวโน้มเศรษฐกิจ (Tankan) ของญี่ปุ่น และตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน