อาจผันผวน แต่โมเมนตัมการเก็งกำไรยังบวก

อาจผันผวน แต่โมเมนตัมการเก็งกำไรยังบวก

อาจผันผวน แต่โมเมนตัมการเก็งกำไรยังบวกและหมุนไปที่กลุ่มที่ไม่ใช่พลังงาน

เราคาดตลาดหุ้นยังมีบรรยากาศของการเก็งกำไรเชิงบวก การกลับมาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ จาก Fund flow ที่ไหลกลับเข้ามายังภูมิภาคเกือบทุกประเทศ (ยกเว้นอินโดนีเซียและเวียดนาม – ดูตารางหน้า 2) ทำให้ตลาดมีโอกาสแกว่งขึ้นทดสอบ 1550 จุด ในช่วงปลายปี ซึ่งดีกว่าที่เราเคยคาด อย่างไรก็ตามโมเมนตัมของตลาดระยะสั้นอาจชะลอลงหลังนักลงทุนมองธนาคารกลางยุโรป (ECB) เริ่มชะลอการทำ QE แบบค่อยเป็นค่อยไป ราคาน้ำมันปรับขึ้นสะท้อนความคาดหวังโอเปคเจรจาปรับลดโควต้าการผลิตกับประเทศนอกกลุ่ม ซึ่งเราเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องง่าย การฟื้นของหุ้นพลังงานน่าจะไม่ยั่งยืน เรายังคงมองน้ำหนักการเก็งกำไรหมุนมายังหุ้น ธนาคาร อาหาร อสังหาริมทรัพย์ (บางตัว) เป็นต้น โดยมีหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ SCB, KTB, TU, CPF, PSH, ORI*, IVL, SMT* และ BLA*, TIP*, EASTW* จาก bond yield ที่ปรับขึ้น

ผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกไปอีก 9 เดือน โดยให้สิ้นสุดในธ.ค.60 จากเดิมที่จะครบกำหนดในมี.ค.59 แต่ จะลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรในช่วงเดือนเม.ย.-ธ.ค.60 สู่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน จากปัจจุบันที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ทั้งนี้เราประเมินมาตรการดังกล่าวเป็นบวกต่อการรักษาสภาพคล่องในตลาดช่วงปีหน้า และทำให้การชะลอทำ QE มีความราบรื่นขึ้น ซึ่งส่งผลบวกต่อหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง แต่ในระยะสั้นแรงส่งจากข่าวนี้ต่อตลาดจะจำกัด

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ย.ลดลงเป็นเดือนที่ 2 แต่การทยอยจ่ายเงินคนจน 8 ล้านคน และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้ายังน่าจะหนุนหุ้นที่เน้นการบริโภคในประเทศ ขณะที่ กพช.เตรียมแผนเปิดเสรีธุรกิจก๊าซแอลพีจี ยกเลิกระบบโควตานำเข้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้จำหน่ายรายใหญ่อย่าง SGP

คาดการณ์หุ้นเข้า-ออก SET50 : (+) GL, THAI, JAS, SPRC, GLOBAL, KKP, PTG, SCCC / (-) BEC, TASCO, TTW, SAWAD, MTLS, BCP, TPIPL, WHA // คาดการณ์หุ้นเข้า-ออก SET100: (+) JAS, SPRC, SUPER, VIBHA, TKN, BIG, THANI, GFPT, SCCC/ (-) TRC, BJCHI, RS, ERW, JWD, SVI, WORK, HANA, IFEC

สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ : 8 ธ.ค. – ประชุมธนาคารกลางยุโรป / 13-14 ธ.ค. - ประชุมเฟด (ทราบผลเช้า 15 ธ.ค.) / 15 ธ.ค. – ศาลล้มละลายกลางพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการสหวิริยาสตีล / 21 ธ.ค. - การปรับลด GDP โดยธปท.

คำแนะนำทางกลยุทธ์ : ตลาดมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบ 1530-1550 แต่ยังแนะนำเก็งกำไรด้วยวงเงินจำกัด และเพิ่มความระมัดระวังความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกเมื่อเข้าสู่ช่วง ธ.ค. และจากความเสี่ยงจากการปรับลดประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศ เลือกเก็งกำไรหุ้นที่ตลาดอาจหมุนไป ได้แก่ ธนาคาร อาหาร อสังหาฯ (บางตัว) หรือได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงสิ้นปี ท่องเที่ยว รวมถึงที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวได้ // หุ้น top pick เชิงกลยุทธ์ IVL, SCB, TU / เก็งกำไร SMT*, FN*, AAV* 

แนวรับ/แนวต้าน : 1515-1520/1528-32, 1545 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์

• การเดินหน้าเปิดซองรถไฟฟ้า: BTS, STEC, RATCH, SEAFCO, PYLON/ เจรจาส่วนต่อขยาย: BEM, CK

• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ: กลุ่มค้าปลีกและผู้จำหน่ายสินค้าไอที รวมถึงกระเบื้อง TK, S11, JMART, SYNEX, DCC, DRT / ห้างสรรพสินค้า และโมเดิร์นเทรด ได้แก่ ROBINS, BIGC, MAKRO, CPN, HMPRO / กลุ่มท่องเที่ยว ได้แก่ AOT, ERW, CENTEL และ MINT 

• กลุ่มอาหาร/เกษตร/ยาง/เรือ: GFPT*, CPF, TFG*, TU, CFRESH*, STA*, TRUBB*, TTA*, PSL*, RCL*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH/หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)



หุ้นแนะนำ

• IVL (40) : ราคาฝ้ายเข้าสู่ช่วง high season (พ.ย.-มี.ค.) ทั้งนี้เรามอง IVL ซึ่งมีรายได้ 2/3 มีความสัมพันธ์กับทิศทางของผลิตภัณฑ์ด้านเส้นใย (Polyester) จะได้รับผลดี

• SCB (190) : หุ้น top pick ในกลุ่มธนาคารใหญ่ ที่คาดมีกำไรปี 2560 เติบโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่มที่ 15.6% ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 6.5% การปรับโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ขนาดใหญ่เป็น upside risk ที่ทำให้หุ้นน่าสนใจ

• TU (24.50) : กำไรปี 2560 เติบโต 16.6% สูงสุดในกลุ่มอาหาร ได้ปรับประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน และการเติบโตมีโอกาสดีกว่าคาดจากการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมในอนาคต สำหรับดีลล่าสุด Red Lobster ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก คาดบริษัทสามารถพลิกให้ธุรกิจกลับมากำไรได้ในปี 2560