'โฮมพอตเทอรี่'จับมือพันธมิตรนอกตั้งบริษัทร่วมทุน

นายนิรันดร์ เชาว์กิตติโสภณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโรงแรมและร้านอาหาร ทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียนมีแนวโน้มเติบโต จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงแรมและร้านอาหาร ต่างปรับตัวเพื่อรองรับโอกาสการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวดังกล่าว ด้วยกลยุทธ์การเพิ่มสาขา เพิ่มจำนวนโรงแรม ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นโอกาสดีในการขยายธุรกิจของบริษัท เพื่อรองรับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ

ดังนั้น บริษัทจึงได้ร่วมทุนกับพันธมิตรจากนิวซีแลนด์ จัดตั้งบริษัท Central Hospitality จำกัด เพื่อจำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับธุรกิจบริการด้านอาหาร ระดับ 3-5 ดาว โดย โฮมพอตเทอรี่ ถือหุ้น 75% และพันธมิตรถือ 25% ของทุนจดทะเบียนมูลค่า 40 ล้านบาท ซึ่งการร่วมทุนดังกล่าวเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้จากการระดมทุน

“Central Hospitality เป็นธุรกิจใหม่ของโฮมพอตเทอรี่ ที่จะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพในการรุกตลาดเออีซี โดยโชว์รูมสาขาแรกที่กรุงเทพฯ จะเป็นศูนย์รวมเครื่องใช้ และผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครบครัน สำหรับธุรกิจบริการด้านอาหารแบบครบวงจร เสมือนว่าต้องการเปิดร้านอาหารต้องมาที่ Central Hospitality ได้สินค้าครบในที่เดียว”นาย นิรันดร์กล่าว

ด้าน Mr.Roger Fewtrell กรรมการบริหาร บริษัท Southern Hospitality กล่าวว่า จากประสบการณ์ในธุรกิจจำหน่ายสินค้า และผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้สำหรับธุรกิจบริการด้านอาหาร มายาวนานกว่า 30 ปี โดยมีสาขาในนิวซีแลนด์และออสเตรเลียกว่า 18 สาขา ทำให้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจและศักยภาพการเติบโตของตลาดในเมืองไทย-กลุ่มประเทศเออีซี ซึ่งมีแนวโน้มความต้องใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

โดย Central Hospitality เริ่มต้นขยายตลาดในกรุงเทพฯ ให้ประสบผลสำเร็จก่อน จากนั้นจะขยายตลาดออกไปตามหัวเมืองใหญ่ และในอนาคตวางแผนขยายไปสู่กลุ่ม AEC เช่น กัมพูชา พม่า ลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ 

"คาดว่าหลังจาก Central Hospitality เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าโรงแรมและร้านอาหาร จนสามารถเพิ่มยอดขายให้เติบโตได้"

ขณะที่ นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทโฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สินค้าของ Central Hospitality เป็นสินค้าคุณภาพจากแบรนด์สินค้าชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพ 

ปัจจุบันมีสินค้าที่จัดจำหน่ายแบ่งออกเป็น 24 กลุ่ม กว่า 5,000 รายการ อาทิ เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทั้ง แก้ว จาน ชาม ช้อนส้อม, อุปกรณ์เตรียมประกอบอาหาร เช่น มีด เครื่องบด เครื่องปั่นผสม, ตู้แช่แข็ง, ชุดครัวสเตนเลส ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งครอบคลุมทุกประเภทและลักษณะการใช้งานในการประกอบอาหารสำหรับอุตสาหกรรมบริการ

ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย มีทั้งหมด 6 ช่องทาง ประกอบด้วย 1.พนักงานขาย (Sale Representative) 2.เว็บไซต์ (Web order) 3.โทรสั่งซื้อสินค้า (Call Center order) 4.โทรสั่งซื้อสินค้าทางโทรสาร (Fax order) 5.สั่งซื้อสินค้าทาง E-Mail (E-Mail order) และ 6.ลูกค้าสามารถมาเลือกซื้อด้วยตนเอง (Cash & Carry) สำหรับแผนการดำเนินงานเบื้องต้น จะเน้นการทำตลาดกับผู้ประกอบการในเขตกรุงเทพฯ และโปรโมทสินค้าให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายปีแรก 60 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีต่อๆไป