กทม.สั่งทบทวนรื้อเลนจักรยาน-เลิกสัญญาบีอาร์ที

กทม.สั่งทบทวนรื้อเลนจักรยาน-เลิกสัญญาบีอาร์ที

"กทม." สั่งทบทวนรื้อเลนจักรยานบางจุดหลังนักปั่นใช้น้อย กระทบช่องระบายจราจร พร้อมเล็งยกเลิกต่อสัญญา "บีอาร์ที" หวั่นไม่คุ้มค่างบประมาณ

ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงาน กทม. ครั้งที่12/2559โดยมีคณะผู้บริหารฝ่ายการเมือง คณะผู้บริหารฝ่ายประจำ ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการเขต เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายสุธน อาณากุล รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กล่าวว่า ที่ผ่านมามูลนิธิโลกสีเขียวได้หารือกับสำนักการจราจรและขนส่ง เพื่อแก้ปัญหาข้อร้องเรียนของผู้ใช้จักรยานในกรุงเทพฯ ผ่านแอพลิเคชั่น “ปั่นเมือง” ซึ่งภาคประชาชนสร้างขึ้นเพื่อเป็นช่องทางในการรับเรื่องร้องเรียนผู้ที่ใช้จักรยานในการเดินทางสำนักการจราจรและขนส่งจึงประสานไปยัง50สำนักงานเขต สำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ เพื่อให้ผู้ดูแลแอพลิเคชั่นส่งข้อร้องเรียนไปที่สำนักงานเขตโดยตรง ซึ่งเบื้องต้นปลัดกทม.ได้เห็นชอบในหลักการ โดยสำนักการจราจรและขนส่ง ได้ส่งรายชื่อเฟซบุ๊คของ50สำนักงานเขตให้กับผู้ดูแลแอพลิเคชั่นปั่นเมืองแล้ว โดยแอพลิเคชั่นปั่นเมืองได้เปิดใช้เมื่อวันที่23ก.ค.2559มีสมาชิกอยู่ที่14,797ราย มีผู้ใช้แอพลิเคชั่น1,682รายต่อวัน ส่วนการร้องเรียนผ่านสายด่วน1555มีสถิติอยู่ที่263ราย แก้ไขไปแล้ว63ราย ในพื้นที่เขตต่างๆ อาทิ บางกอกใหญ่ ราชเทวี

ด้านพล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ตนอยากให้สำนักการจราจรและขนส่งทบทวนเรื่องช่องทางจักรยานในพื้นที่ถนนบางส่วน ซึ่งพบว่าไม่ควรจะมีช่องทางจักรยาน เพราะไม่มีผู้ใช้งาน มีแต่รถตุ๊กตุ๊ก หรือรถเข็นจอดทับไว้ เนื่องจากไม่มีใครมาขี่จักรยาน ก็รู้สึกว่าหากเป็นแบบนี้จะเสียของ แต่ถ้าหน่วยงานยกเลิกเส้นทางจักรยานทันทีก็อาจมีปัญหา จึงขอให้ศึกษาและยกเลิกเส้นทางที่ไม่มีผู้ใช้งาน หรือเส้นทางที่ทางระบายการจราจรแคบ อาทิ เส้นทางจักรยานบริเวณประตูผี เขตพระนคร ซึ่งมีพื้นที่ถนนที่แคบ แต่หากพื้นที่ใดมีช่องทางจราจรที่กว้างก็สามารถดำเนินการต่อได้ ขณะที่โครงการรถโดยสารด่วนพิเศษหรือบีอาร์ที ตนเห็นว่าการเดินทางประเภทอื่นมีความรวดเร็วกว่า และมีคนใช้ถนนผู้อื่นขับมาใช้เส้นทางนี้ จึงมีแนวคิดอยากให้มีการยกเลิกโครงการนี้ เพื่อให้กทม.ไม่ต้องต่อสัญญาเพื่อไม่ต้องจ่ายงบประมาณกว่า2พันล้านบาทต่อปี