แนะท่องเที่ยวเร่งปรับตัว เจาะ "เอฟไอที"

นางสาวศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจโรงแรมปี 2560 มั่นใจว่าจะเติบโตจากปีนี้ เป็นไปตามการขยายตัวของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) ทำให้เกิดการกระจายรายได้ไปยังโรงแรมทุกเซกเมนต์และขยายในเชิงทำเลมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มนี้ตัดสินใจเลือกเองตามรสนิยมและงบประมาณ

ดังนั้น หากโรงแรมต่างๆ มีมาตรการทางการตลาดเข้าถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ก็จะมีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้น เพราะไม่ต้องผูกขาดการตัดสินใจกับบริษัทนำเที่ยวเหมือนลูกค้าผ่านกรุ๊ปทัวร์

ทั้งนี้ สัดส่วนตลาด FIT จะขยายตัวมีสัดส่วนมากถึง 60% ในปี 2561 เป็นต้นไป มีนัยสำคัญต่อการเพิ่มขึ้นของรายได้โรงแรม ส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจากปัจจุบันการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเป็นค่าที่พักแรม 26% ตามด้วยชอปปิง 22% ขณะที่ค่าอาหารและเครื่องดื่มอยู่ที่ 19% ในหมวดนี้กลุ่มโรงแรมมีส่วนกระตุ้นรายได้หากมีการทำการตลาดเพิ่มเติมเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการห้องอาหารในโรงแรม ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระสามารถเลือกรับประทานอาหารได้เอง โดยไม่มีโปรแกรมบังคับเหมือนทัวร์ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวทำการตลาดของโรงแรมเพื่อเจาะกลุ่ม FIT ต้องเน้นความสม่ำเสมอตลอดปีมากขึ้น ไม่ควรทำแคมเปญกระจุกตัวเฉพาะช่วงไฮซีซัน เนื่องจากกลุ่มนี้ไม่ได้เที่ยวตามฤดูกาลเสมอไป แต่เดินทางตามความสะดวก เช่น ตลาดยุโรป ในอดีตมีการเที่ยวในฤดูหนาวหนาแน่น ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นช่วงนอกฤดูกาลมากขึ้น

“ธุรกิจโรงแรมควรหันมาพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในแนวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ กรีนโฮเต็ล นอกจากช่วยประหยัดต้นทุนด้านพลังงาน และอนุรักษ์ธรรมชาติ จะเป็นผลดีต่อการทำตลาดดึงกลุ่มกำลังซื้อที่อ่อนไหวต่อประเด็นสิ่งแวดล้อม เช่น นักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ นักท่องเที่ยวตลาดยุโรป บางกลุ่มสนใจแนวคิดโรงแรมและยอมจ่ายในราคาสูง หากมีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมชัดเจนกว่าโรงแรมทั่วไป”

ด้านแนวโน้มราคาเฉลี่ยของห้องพักโรงแรมในปี 2560 ทีเอชเอ วางกรอบการเติบโต 5-10% ภายใต้เงื่อนไขไม่มีปัจจัยลบ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ ความมั่นคง ผลกระทบจากต่างประเทศแทรกซ้อนเข้ามา