MORNING CALL ACTION NOTES (7 ธ.ค.59)

MORNING CALL ACTION NOTES (7 ธ.ค.59)

ปัจจัยบวกหนุน

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นตามหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งตลาดคลายกังวลหลังผลโหวต No ของอิตาลีไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นยุโรป โดย SET ปิดที่ 1,516.48 จุด (+14.82 จุด) Vol. 3.9 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +1,247 ลบ. TFEX Net +878 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ วันนี้ลุ้นครม.อนุมัติมาตรการช้อปช่วยชาติกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงปลายปี

+ ตลาด DJ ปรับตัวขึ้นจากยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.7% ซึ่งสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี และนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์จะเอื้ออำนวยต่อภาคธนาคาร

+ เยอรมนี เผยคำสั่งซื้อภาคโรงงานในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 4.9%

+ แรงซื้อกองทุน LTF RMF ในช่วงปลายปี

- ธนาคาร Monte dei Paschi di Siena ของอิตาลี(มีแผนเพิ่มทุน 5 พันล้านยูโร) อาจเพิ่มทุนได้ยากขึ้นจากความกังวลว่าอิตาลีจะออกจากยูโรโซน

- Foreign เป็น Net Sell ตั้งแต่เดือนพ.ย. ราว 3.7 หมื่นลบ.

- คาด FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 13 – 14 ธ.ค. ซึ่งอาจกระทบต่อกระแส Fund Flow

** 8 ธ.ค. การประชุม ECB คาดจะยืดเวลาการใช้ QE ออกไปอีก 3-6 เดือน

** Opp Day 7/12/16 TVD GTB TPCH TKS

ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ได้รับผลบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากทั้งสหรัฐและเยอรมนี อีกทั้งคาดว่าการประชุม ครม. ในวันนี้จะออกมาตรการช็อปช่วยชาติช่วยหนุนดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,505 - 1,530 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยบวก 

- ลุ้นครม.สัปดาห์นี้เคาะมาตรการช็อปช่วยชาติ BJC HMPRO MC SYNEX ROBINS CPN

- กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม อานิสงส์ครม.อนุมัติลดหย่อนภาษีได้อีก 15,000 บ.ในการท่องเที่ยวเดือน ธ.ค.

- กลุ่มส่งออก (อาหาร อิเล็กทรอนิกส์) อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 35.6 Bath/USD.

- หุ้นเข้าคำนวณ FTSE SET รอบ ธ.ค. Large cap : BJC และ Mid cap : BAFS BCPG SCCC TFG

หุ้นแนะนำ

HMPRO (ราคาปิด 10.20 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 12.60 บาท)

- อานิสงส์มาตรการช้อปช่วยชาติหนุนรายได้เติบโต จากที่เป็นช่วงไฮซีซั่น+จัดงานโฮมโปรเอ๊กซ์โป+แคมเปญ “ถูกและคุ้ม” กระตุ้นการขายของเมกาโฮม+แตกไลน์ธุรกิจใหม่ “โฮมโปร ลิฟวิ่ง” เปิดเพิ่มที่เกตเวย์-เอกมัย และเทอร์มินอล 21-โคราช

- เดือนธ.ค.จะเปิดสาขาใหม่โฮมโปรถ.พระราม 9- ถ.ศรีนครินทร์ตามแผนเดิม และเมกาโฮม จ.นครพนม

- แนวโน้มกำไร Q4 จะสูงสุดรายไตรมาส

หุ้นมีข่าว

- PTTEP ถอนการลงทุนแปลงสัมปทาน Umm Al-Quwain (UAQ) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

  ความเห็น : ทางบริษัทชี้แจงว่าไม่ได้ใช้เงินลงทุนในหลุมดังกล่าวส่งผลให้ไม่มีค่าใช้จ่ายในการตัดจำหน่าย ซึ่งไม่กระทบต่อผลประกอบการของบริษัท

  ประเด็นบวก PTTEP - กระทรวงพลังงานยังคงคาดการณ์การเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณและบงกชที่จะหมดอายุในปี 65-66 นั้นน่าจะอยู่ภายในช่วงเดือนมิ.ย.60 และจะได้รับความชัดเจนของรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกให้ดำเนินการในแหล่งปิโตรเลียมทั้งสองได้ภายในปี 60 ตามเดิม

- ประเด็นบวก CPN - คลังยอมรับต้องเลื่อนประกาศใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไปใช้ 2561 หลังเสนอสภานิติบัญญัติไม่ทันปีนี้ บ้านหลังที่สองรอดไม่โดนเก็บภาษีตั้งแต่บาทแรกในปีหน้า ส่งผลดีต่อคอนโดมิเนียม ขณะที่ CPN ส้มหล่นชะลอขึ้นค่าเช่าไปอีก 1 ปี ไม่กระทบผู้เช่า

- รฟม. เตรียมเจรจาต่อรองกลุ่ม BSR หลังผ่านข้อเสนอเทคนิค-ราคารถไฟฟ้าสายสีชมพู-สีเหลือง คาดเสนอครม.ได้มี.ค.-เม.ย.60

- กบง.อนุมัติหลักการเปิดเสรีนำเข้า LPG เตรียมเสนอกพช.ไฟเขียว 8 ธ.ค.นี้ คาดเริ่มนำเข้าม.ค.60

- PYLON คาดกำไรสุทธิปี 60 ดีกว่าปีนี้ ตามกำลังการผลิตเพิ่ม,เตรียมประมูลงานใหม่ 1.5-2 พันลบ. คาดได้งานกว่า 25%

- ORI เตรียมปรับเพิ่มเป้าโครงการใหม่-ยอดขายปี 60 จากเดิมวางแผนเปิดใหม่ 10 โครงการมูลค่า 1.4 หมื่นลบ. คาดชัดเจนราวก.พ. 60

- PE เผยศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ร่วมชดใช้หนี้ค่าภาษีอากรค้างรวม 251.70 ลบ.

- CPF เผยบ.ย่อยใช้เงิน 976 ลบ.เข้าซื้อกิจการ COFCO Meat (เนื้อไก่) ในจีน คาดแล้วเสร็จปี 59


สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +35.54 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,251.78 จุด เพิ่มขึ้น 35.54 จุด หรือ +0.18% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,333.00 จุด เพิ่มขึ้น 24.11 จุด หรือ +0.45% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,212.23 จุด เพิ่มขึ้น 7.52 จุด หรือ +0.34%โดยดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มธนาคาร อันเนื่องมาจากมุมมองที่ว่า นโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเอื้ออำนวยต่อภาคธนาคาร

ตลาดน้ำมัน NYMEX -0.86 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 86 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 50.93 ดอลลาร์/บาร์เรลทำสถิติปรับตัวลงเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ หลังจากผลสำรวจบ่งชี้ว่า ปริมาณการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ย. แม้ว่ากลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงการปรับลดการผลิตแล้วก็ตาม