10 สัญญาณเตือนผิวขาดน้ำ

10 สัญญาณเตือนผิวขาดน้ำ

กระหายน้ำเป็นแค่สัญญาณบอกให้ดื่มน้ำ แต่ไม่ได้หมายความว่าสูญเสียน้ำ เราสามารถสังเกตตนเองว่าผิวเริ่มมีการขาดน้ำ โดยดูจากสัญญาณเตือน

น้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในร่างกาย ทำให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ถ้าร่างกายขาดน้ำเซลล์ในร่างกายจะทำงานได้ไม่ดี ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร การดูดซึมอาหารการขับถ่ายของเสียระบบหมุนเวียนเลือดไม่ดี ซึ่งจะแสดงออกมาในรูปแบบต่างๆ เช่น การกระหายน้ำ อ่อนเพลียง่าย ปวดศีรษะ ผิวพรรณแห้งกร้าน ไม่สดใส มีริ้วรอย ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้นรวมถึงการมีเซลลูไลท์ โดยเมื่ออายุมากขึ้นผนังเซลล์ที่ทำหน้าที่ปกป้องเซลล์ผิวจะถูกทำลายจากสิ่งรอบตัวได้ง่าย ทำให้เซลล์สูญเสียศักยภาพในการกักเก็บน้ำไว้ในเซลล์ สุขภาพผิวเริ่มเสื่อมถอย เป็นสัญญาณเตือนว่าผิวขาดน้ำ

เบ็ญจวรรณ ทรงประสพ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันดูแลผิวมิวนีค ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) ได้ให้ข้อมูลเรื่องของผิวขาดน้ำว่า เกิดจากการที่เซลล์ผิวของคุณ เสื่อมสภาพ อ่อนแอลง และไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ซึ่งมีทั้งปัจจัยภายในและภายนอก เช่น อายุ มลภาวะ แสงแดด ความเครียด เครื่องสำอาง ฯ พวกนี้คือตัวกระตุ้น ที่ทำให้เซลล์ผิวที่อ่อนแออยู่แล้ว ถูกทำลายและตายลงในที่สุด ซึ่งนอกจากผิวหนังถูกทำลายแล้ว ยังเชื่อมโยงถึงสุขภาพร่างกายโรคภัยไข้เจ็บที่ตามมา ทั้งนี้ความสามารถในการกักเก็บน้ำของผิวเราวัดจากน้ำที่อยู่ในร่างกาย ไม่ได้วัดจากปริมาณน้ำที่คุณดื่ม อาการกระหายน้ำ เป็นแค่สัญญาณบอกให้คุณดื่มน้ำ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณสูญเสียน้ำ ดังนั้นเราสามารถสังเกตตนเองว่าผิวเริ่มมีการขาดน้ำ โดยดูจากสัญญาณเตือนที่เกิดขึ้นกับร่างกายดังต่อไปนี้

1. เป็นสิวผดผื่นเล็กๆ ที่ผิว มักเกิดขึ้นบริเวณข้างแก้มและลามกระจายไปทั่ว เมื่อทิ้งไว้นานจะกลายเป็นสิวเม็ดใหญ่และอักเสบ

2. ผิวเริ่มแห้งมากขึ้น มองเห็นเส้นริ้วเล็กๆ ข้างแก้ม

3. ริ้วรอยและความหย่อนคล้อย เริ่มเห็นได้ชัดมากขึ้น เพราะเกิดจากคอลลาเจน อีลาสตินถูกทำลาย และไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ เพราะน้ำก็เป็นองค์ประกอบหลักของคอลลาเจนอีลาสติน

4. ในคนผิวมัน ระดับน้ำมันที่มากเกินไป ก็เป็นตัวบ่งชี้ถึงอาการที่ขาดน้ำได้แต่ข้อดีของคนผิวมันคือยังมีน้ำมันหล่อเลี้ยง ทำให้เกิดริ้วรอยช้ากว่ากลุ่มผิวอื่นๆ

5. เกิดการสะสมของเม็ดสี ฝ้า กระ จุดด่างดำ บนใบหน้าที่เยอะขึ้น และไม่เคยจางลงเลย หรือความอ่อนเยาว์ที่หายไป เพราะกระบวนการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่ช้าลง (อายุเป็นตัวที่ทำให้วงจรนี้ช้าลงอยู่แล้ว แต่ถ้าเซลล์ผิวคุณไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ จะมีผลทำให้วงจรการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวนี้ยิ่งช้ามากขึ้น) กระบวนการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวจะขึ้นอยู่กับอายุ

• อายุน้อยกว่า 30 ปี ใช้เวลาผลัดเซลล์ผิว ประมาณ 28 วัน

• อายุ 30-40 ปี ใช้เวลาผลัดเซลล์ผิว ประมาณ 28-45 วัน

• อายุ 40-50 ปี ใช้เวลาผลัดเซลล์ผิว ประมาณ 45-60 วัน

• อายุ 50-60 ปี ใช้เวลาผลัดเซลล์ผิว ประมาณ 60-90 วัน

6. เกิดการบวมน้ำตามร่างกาย เช่น ตาบวม เท้าบวม ไขข้ออักเสบ

7. การก่อตัวของเซลลูไลท์ที่หลายคนไม่คาดคิด เซลล์ลูไลท์เกิดจากการที่เซลล์ไขมันสูญเสียน้ำ และไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ รวมทั้งเส้นเลือดที่ฉีกขาดและเปราะบางลง ทำให้เซลล์ไขมันที่เสื่อมสภาพลอยตัวขึ้นมา ของเสียก็ไม่สามารถถูกขับออกได้

8. การทำงานของระบบร่างกายทั้งหมดทำงานช้าลง เช่น ระบบย่อยอาหารไม่ดีทำให้อ้วนลงพุงง่าย

9. ระบบภูมิคุ้มกันไม่ทำงาน คือ เซลล์ที่อยู่ในระบบภูมิคุ้มกัน ไม่สามารถกำจัดหรือปกป้องเชื้อโรค แบคทีเรียได้ ผิวหนังหรือร่างกายมีอาการแพ้ทันที

10. สุขภาพเสื่อมโทรม นำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บ

ผิวหนังเป็นปราการด่านแรกที่ต้องต่อสู้กับอนุมูลอิสระและเชื้อโรคต่างๆ ที่จะเข้าไปทำร้ายร่างกาย เพราะฉะนั้นเราจึงควรดูแลผิวให้แข็งแรงมากที่สุด เพื่อรับมือกับทุกสภาวะที่จะมากระทบผิวคุณ....