ชี้ 'ขสมก.' มีสิทธิ์เลิกสัญญา 'เมล์เอ็นจีวี' ได้หากผิดจริง

ชี้ 'ขสมก.' มีสิทธิ์เลิกสัญญา 'เมล์เอ็นจีวี' ได้หากผิดจริง

"ออมสิน" เผย "กรมศุลกากร" เตรียมส่งจนท.ไปมาเลเซียเพื่อตรวจสอบเอกสาร "รถเมล์เอ็นจีวี" ว่าทำตามกติกรจริงหรือไม่ ชี้มีสิทธิ์เลิกสัญญาหากผิดจริง

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีกรมศุลกากรกักรถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรก 99 คันที่บริษัทเบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะการประมูลโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) 489คัน วงเงิน 3,389 ล้านบาท จนไม่สามารถนำออกจากท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี   ได้ว่า จากการพูดคุยกับอธิบดีกรมศุลกากรทราบว่า ทางกรมศุลกากรไม่แน่ใจว่าเอกสารหนังสือรับรองที่ยื่นขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีศุลกากร (From D) ซี่งเป็นอัตราภาษีศุลกากรพิเศษที่เท่ากัน เป็นการลดอัตราภาษีศุลกากร 0% แก่สินค้าที่นำเข้าระหว่างกันของประเทศ10ประเทศสมาชิกอาเซียนภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (เอเอฟทีเอ) ออกให้โดยกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศของประเทศมาเลเซียจริงหรือไม่ ดังนั้นในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ จะส่งผู้แทนจากกรมศุลกากรไปยังประเทศมาเลเซีย เพื่อตรวจสอบเอกสารหนังสือดังกล่าว และยืนยันกับทางมาเลเซียว่ารถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) เหล่านี้ได้ดำเนินการประกอบที่ประเทศมาเลเซียตามกติกาจริงหรือไม่ ซึ่งหากตรวจสอบแล้วพบว่าดำเนินการถูกต้องตามกติกาก็จะอนุญาตให้ปล่อยรถเมล์ออกมาจากท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ได้
           
ทั้งนี้ คาดว่าไม่น่าจะเกิน 3 วัน ก็จะทราบผลการตรวจสอบว่า เอกสารหนังสือดังกล่าว มาเลเซียออกให้จริงหรือไม่ ส่วนจะทันวันที่ 21 ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันเปิดตัวรถเมล์เอ็นจีวี โดยจะให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้ทดลองนั่งจากทำเนียบรัฐบาล ไปสถานีหัวลำโพงหรือไม่นั้น ยังมีเวลาอีกหลายวัน

อย่างไรก็ตาม หากภายในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ไม่สามารถส่งมอบรถได้ทัน ก็ต้องถูกปรับตามสัญญา และหากผลการตรวจสอบ พบว่าบริษัทนี้มีความผิดตามกฎหมายของกรมศุลกากรในเรื่องของภาษีทาง ขสมก.ก็มีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาได้