'ฮิเดกิ มัตสึยามา' ฮีโร่คนใหม่จากเอเชีย

 คงหนีไม่พ้นการหวนคืนวงการในรอบ 15 เดือนของ ไทเกอร์ วูดส์ อดีตโปรมือหนึ่งโลก เจ้าของแชมป์เมเจอร์ 14 รายการ

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าชัยชนะของโปรกอล์ฟจากญี่ปุ่นนาม ฮิเดกิ มัตสึยามา จะถูกมองข้าม

กลับกัน การคว้าแชมป์รายการที่สามติดต่อกันของโปรอันดับ 6 ของโลกคนปัจจุบัน ยิ่งทำให้เจ้าตัวเป็นที่สนใจของผู้คนมากยิ่งขึ้น ในฐานะ “ว่าที่” โปรกอล์ฟที่ดีที่สุดที่ญี่ปุ่นเคยมี

ความมุ่งมั่น

แม้จะเป็นรายการที่อัดแน่นด้วยโปรระดับชั้นนำ ทั้งแชมป์เมเจอร์ปีล่าสุด โปรระดับท็อป 11 ของโลก และแขกรับเชิญพิเศษของมูลนิธิ วูดส์ รวมถึงสุดยอดนักกอล์ฟตลอดกาลชาวอเมริกัน สถานะของ “ฮีโร่ เวิลด์ ชาลเลนจ์” ก็ยังถือเป็นหนึ่งในรายการกระชับมิตรเท่านั้น

แต่นั่นไม่ได้กระทบกับความมุ่งมั่นของ มัตสึยามา ที่ดูจะจริงจังกับทุกรายการที่เข้าร่วม และใช้เวลาในการซ้อมจนเป็นคนสุดท้ายเสมอ กระทั่งจบรายการนี้ด้วยตำแหน่งแชมป์ เหนือ เฮนริค สเตนสัน จากสวีเดน เพียง 2 สโตรก นับเป็นการได้แชมป์รายการที่ 4 จาก 5 รายการหลังสุดในทุกทัวร์ที่เข้าร่วมอีกด้วย

เพราะนับแต่จบอันดับ 5 ใน ทัวร์ แชมเปียนชิพ เมื่อเดือนก.ย. เป็นต้นมา ฟอร์มของ มัตสึยามา ก็เข้าฝัก จนคว้าแชมป์ เจแปน โอเพน, จบอันดับ 2 ใน ซีไอเอ็มบี คลาสสิค ที่มาเลเซีย ได้แชมป์ เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิพส์ ที่เซี่ยงไฮ้ และ ไทเอโย มาสเตอร์ส ใน เจแปน ทัวร์ และล่าสุดกับรายการนี้ กระทั่ง ไทเกอร์ วูดส์ ยังเชื่อว่าหนุ่มญี่ปุ่นวัย 24 ปี มีอนาคตที่สดใสในวงการกอล์ฟรออยู่ 

“เขาน่าจะมั่นใจขึ้นอีกเยอะในปีหน้า” วูดส์ ซึ่งเคยคว้าแชมป์ พีจีเอ ทัวร์ ถึง 9 รายการในปีเดียว ขณะอายุเท่ากับ มัตสึยามา ในปัจจุบัน กล่าวถึงนักกอล์ฟรุ่นน้อง “และจะเป็นหนึ่งในโปรระดับท็อปของโลกไปอีกนานหลายปีด้วย”

เบอร์1ญี่ปุ่น

ปัจจุบัน มัตสึยามา ได้แชมป์รายการต่างๆทั่วโลก ทั้งสิ้น 12 รายการ ในจำนวนนี้ เป็น พีจีเอ ทัวร์ 3 รายการ ซึ่งก็รวมถึงการเป็นโปรจากเอเชียคนแรกที่ได้แชมป์รายการสำคัญอย่าง เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิพส์ ด้วย

กระนั้น เจ้าตัวก็ยังยืนยันว่ายังห่างไกลจากการเป็นโปรที่ดีที่สุดที่ญี่ปุ่นเคยมี เมื่อเทียบกับรุ่นพี่อย่าง จัมโบ โอซากิ, อิซาโอะ อาโอกิ และ ชิเงคิ มารุยามา ที่คว้าแชมป์ต่างๆ ทั้ง พีจีเอ ทัวร์ 4 รายการ เจเแปน ทัวร์ อีก 155 รายการ

“การได้เดินตามรอยทั้งสามคนถือเป็นเกียรติมาก แต่ผมไม่ใช่นักกอล์ฟที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นหรอก”

บุคลิกที่ถ่อมตัวของ มัตสึยามา ทำให้เจ้าตัวยอมรับว่าอึดอัดไม่น้อยที่ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ไม่เคยประสบมาก่อนในระดับสมัครเล่น เพราะนับแต่เข้าสู่ พีจีเอ ทัวร์ ในปี 2013ผู้สื่อข่าวจากญี่ปุ่น ก็เกาะติดเรื่องราวของเขา โดยเฉพาะการเล่นกันชนิดชอตต่อชอต จนกลายเป็นความกดดันโดยปริยาย

“สื่อญี่ปุ่นคอยถามผมทุกครั้งหลังออกรอบว่าดีหรือไม่ดี พอใจหรือไม่พอใจ แรกๆมันก็ยากอยู่ เพราะมันยิ่งทำให้กดดันมากขึ้น แต่ผมก็เรียนรู้ว่าการคุยกับสื่อถือเป็นส่วนหนึ่งของงาน มันก็เลยง่ายขึ้น”

มัตสึยามา ยังให้เครดิตกับ ฮิโรชิ อิวาตะ โปรรุ่นพี่ที่ช่วยแนะนำอุปกรณ์ในการฝึกซ้อมพัตต์ ว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตนพัตต์ได้ดีขึ้นในการแข่งขันจริง รวมถึงการอนุญาตให้ เม อินุอิ แคดดี้และผู้จัดการส่วนตัวของ อิวาตะ มาทำหน้าที่ถือถุงกอล์ฟให้ในรายการนี้

“ผมเป็นคนประเภทที่เวลาเจอปัญหา จะก้มหน้าก้มตาและปิดปากเงียบ แต่ เม เป็นคนมองโลกแง่ดีเสมอ เธอช่วยให้บรรยากาศดีขึ้น และก็ส่งผลต่อการเล่นของผมด้วย”

‘เดอะ มาสเตอร์ส’

“ฮีโร่ เวิลด์ ชาลเลนจ์” ถือเป็นใบเบิกทางชั้นดีสำหรับ มัตสึยามา ในการบรรลุเป้าหมายระดับโลก เพราะย้อนกลับไปในปี 2014 รายการนี้ ก็เป็นจุดเริ่มต้นของ จอร์แดน สปีธ ในการคว้าแชมป์เมเจอร์สองรายการ ตามด้วยรางวัลผู้เล่นแห่งปีของพีจีเอ ทัวร์ กระทั่งไปถึงตำแหน่งมือหนึ่งโลกในเวลาต่อมา

“เขากำลังเข้าฝัก มัตสึยามา เป็นนักกอล์ฟที่ครบเครื่อง เขาจะได้แชมป์เมเจอร์มาครองแน่ ภายใน 2-3 ปีนับจากนี้”​ สปีธ กล่าวเสริม

แชมป์เมเจอร์ ที่ มัตสึยามา ตั้งใจไว้ คือเดอะมาสเตอร์ส รายการที่เจ้าตัวมีความผูกพันเป็นพิเศษ ในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่นคนแรกจากญี่ปุ่นที่ผ่านการตัดตัวในปี 2011 และมีโอกาสกลับมาร่วมแข่งขันอีกครั้งในปีถัดมา ขณะที่หลังเทิร์นโปรในปี 2013 เจ้าตัวก็มีผลงานน่าประทับใจ ทั้งจบอันดับ 5 ในปี 2015 และอันดับ 7 ร่วมในปีนี้

“ตั้งแต่สัปดาห์หน้า ผมคงจะพุ่งเป้าไปที่ เดอะมาสเตอร์ส” มัตสึยามา กล่าวถึงรายการเมเจอร์แรกของปี ในเดือนเม.ย. หนึ่งในหมุดหมายหลักที่เจ้าตัวตั้งใจไว้ 

“ผมหวังว่าจะเล่นได้ดีในรายการอื่นๆของ พีจีเอ ทัวร์ ด้วย แต่ มาสเตอร์ส คือเป้าหมายสูงสุดของผม”