ฟื้นตัว แต่เริ่มหมดปัจจัยบวก

ฟื้นตัว แต่เริ่มหมดปัจจัยบวก

ฟื้นตัว แต่เริ่มหมดปัจจัยบวก ขณะที่แรงกดดันจากปัจจัยภายนอกเพิ่มขึ้น

เราคาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวเป็นบวกเล็กน้อย โดยหลังผลการลงประชามติอิตาลี ค่าเงินยูโรตอบรับในเชิงลบลดลง 1.17% แต่ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปรับตัวเป็นบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ขณะที่หุ้นเอเชียเองมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นหลังปรับตัวลงไปในช่วง 1-2 วันทำการก่อนหน้า เราคาดหุ้นไทยยังคงอยู่กับประเด็นเก็งกำไรรายตัวโดยเฉพาะในกลุ่มที่เกี่ยวกับการบริโภคและการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันในระดับที่สูงกว่า 50 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในระดับสูงอาจจำกัดการฟื้นตัวของตลาดได้

ผลประชาพิจารณ์อิตาลีเพื่อแก้รัฐธรรมนูญและปฏิรูปอำนาจของรัฐบาล ไม่ผ่านความเห็นชอบของประชาชนผู้ลงคะแนน ส่งผลให้นายกรัฐมนตรี มัตเตโอ เรนซี ประกาศลาออก ตลาดหุ้นอิตาลีปรับตัวลดลงสวนตลาดอื่น ทั้งนี้ตลาดจับตาผ่ายค้านที่มีแนวคิดยกเลิกการใช้สกุลเงินยูโร มีโอกาสเข้ามามีอำนาจหลังการเลือกตั้งใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2-3 ปีหน้า ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยยอดค้าปลีกกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรปรับตัวขึ้น 1.1% MoM และ 2.4% YoY (ตลาดคาด 0.9% MoM และ 1.7% YoY) และเป็นตัวเลขที่ดีกว่าก.ย.ที่ -0.4% MoM และ 1.0% YoY ตัวเลขที่ดีโดยหลักมาจากเยอรมนี ขณะที่ยอดขายในประเทศสมาชิกอื่นๆ ยังคงซบเซา
กระทรวงการคลังเตรียมจะเสนอ ครม. ในวันที่ 7 ธ.ค. พิจารณาเห็นชอบมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อสินค้าหรือบริการ หรือโครงการช็อปช่วยชาติ โดยให้ประชาชนที่ซื้อสินค้าและบริการในช่วงระหว่าง 15-31 ธ.ค.59 (รวม 17 วัน) วงเงินไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท/ราย สามารถนำใบเสร็จมาแสดงเพื่อขอลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้

คาดการณ์หุ้นเข้า-ออก SET50: (+) GL, THAI, JAS, SPRC, GLOBAL, KKP, PTG, SCCC / (-) BEC, TASCO, TTW, SAWAD, MTLS, BCP, TPIPL, WHA //

คาดการณ์หุ้นเข้า-ออก SET100: (+) JAS, SPRC, SUPER, VIBHA, TKN, BIG, THANI, GFPT, SCCC/ (-) TRC, BJCHI, RS, ERW, JWD, SVI, WORK, HANA, IFEC 

สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ: PTTEP – สื่อต่างประเทศรายงานรัฐบาลอินโดนีเซียระงับใบอนุญาต บริษัทรายงานว่ายังไม่ได้รับแจ้ง (PTTEP ถือหุ้นโครงการนาทูน่า ซีเอ ในอินโดนีเซีย 11.5%) / 7 ธ.ค. – ครม.อนุมัติ “ช้อปช่วยชาติ” / 13-14 ธ.ค. - ประชุมเฟด (ทราบผลเช้า 15 ธ.ค.) / 21 ธ.ค. - การปรับลด GDP โดยธปท. 

คำแนะนำทางกลยุทธ์ : เก็งกำไรด้วยวงเงินจำกัด และเพิ่มความระมัดระวังความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกเมื่อเข้าสู่ช่วง ธ.ค.อันเนื่องมาจากความเสี่ยงจากการปรับลดประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจ การเก็งกำไรหุ้นพลังงานควรกำหนดจุดทำกำไรและขาดทุน ขณะที่ยังสามารถเลือกเก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงสิ้นปี ท่องเที่ยว รวมถึงที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวได้ // หุ้น top pick เชิงกลยุทธ์ ERW, DCC / เก็งกำไร PSTC*, JMART*, TLUXE* 

แนวรับ/แนวต้าน : 1495/1515-1520 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40% 

ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์

• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ: กลุ่มค้าปลีกและผู้จำหน่ายสินค้าไอที รวมถึงกระเบื้อง TK, S11, JMART, SYNEX, DCC, DRT / ห้างสรรพสินค้า และโมเดิร์นเทรด ได้แก่ ROBINS, BIGC, MAKRO, CPN, HMPRO / กลุ่มท่องเที่ยว ได้แก่ AOT, ERW, CENTEL และ MINT

• กลุ่มอาหาร/เกษตร/ยาง/เรือ: GFPT*, CPF, TFG*, TU, CFRESH*, STA*, TRUBB*, TTA*, PSL*, RCL*

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก USD แข็งค่า: BH, ERW, IRPC, PTT, TU / ยูโรอ่อน: THAI, TPIPL

• หุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น (เงินเฟ้อ): BLA*, TIP*, EASTW*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH/หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)



ประเด็นหุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ

• JMART* (14) : เราคาดหุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ (ช้อปช่วยชาติ) ที่คาดครม.จะมีมติในวันที่ 6 ธ.ค. ขณะเดียวกันธุรกิจเข้าสู่ช่วง high season ไตรมาส 4 เนื่องจากเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวที่ทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ธุรกิจเก็บหนี้ของ JMT ผ่านการปรับในเรื่องระบบการจัดการและบัญชี ซึ่งน่าจะส่งผลบวกต่อแนวโน้มกำไรในช่วง 2-3 ไตรมาสจากนี้ ขณะเดียวกันผลการดำเนินงานจาก SINGER (ถือหุ้น 25%) คาดจะปรับดีขึ้น