MORNING CALL ACTION NOTES (6 ธ.ค.59)

ตลาดหุ้นไทยวันก่อนปรับตัวลงแรงจากความกังวลผลโหวตแก้ไขรธน.ของอิตาลีในวันที่ 4 ธ.ค.ซึ่งหากประชามติไม่เห็นด้วยจะทำให้เสถียรภาพทางการเมืองและการเงินของอิตาลีไม่มั่นคง กดดันให้ SET ปิดที่ 1,501.66 จุด (-10.72 จุด) Vol. 4.2 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -465 ลบ. TFEX Net -3,566 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ วันนี้ลุ้นครม.อนุมัติมาตรการช้อปช่วยชาติกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงปลายปี

+ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นล่าสุด 51.79 US/Barrel ตอบรับผลการประชุมโอเปกลดกำลังการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน

+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้นจากแรงหนุนภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวที่แข็งแกร่งในเดือนพ.ย. +ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่ม 178,000 และอัตราว่างงานลดลงสู่ 4.6%

+ ยอดค้าปลีกในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรปรับตัวขึ้น 1.1% ในเดือนต.ค.

+ แรงซื้อกองทุน LTF RMF ในช่วงปลายปี

-อิตาลี นายกรัฐมนตรีประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังประชาชนไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้พรรคฝ่ายค้านมีโอกาสได้รับการเลือกตั้งและสนับสนุนให้อิตาลีแยกตัวออกจากยูโรโซน

- Foreign เป็น Net Sell ตั้งแต่เดือนพ.ย. ราว 3.7 หมื่นลบ.

- คาด FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 13 – 14 ธ.ค. ซึ่งอาจกระทบต่อกระแส Fund Flow

** 8 ธ.ค. การประชุม ECB คาดจะยืดเวลาการใช้ QE ออกไปอีก 3-6 เดือน

** Opp 6/12/16 MEGA SEAFCO ORI DEMCO PYLON 7/12/16 TVD GTB TPCH TKS

ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากผลการลงประชามติของอิตาลีที่กดดันให้นายกฯอิตาลีลาออก อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังโอเปกลดกำลังการผลิต และการประชุม ครม. ในวันนี้เกี่ยวกับช็อปช่วยชาติจะช่วยหนุนดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,495 - 1,515 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยบวก

- กลุ่มพลังงาน อานิสงส์ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นแรง

- กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม อานิสงส์ครม.อนุมัติลดหย่อนภาษีได้อีก 15,000 บ.ในการท่องเที่ยวเดือน ธ.ค.

- กลุ่มส่งออก (อาหาร อิเล็กทรอนิกส์) อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 35.6 Bath/USD.

- หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณ SET50 รอบใหม่ GL THAI BJC และ SET100 SUPER SPRC TKN BIG THANI VIBHA

Analyst Meeting

CNT   ราคาปิด 3.82 บาท

- กำไรปี 59 มีแนวโน้มเติบโตสูงจากปี 58 กำไร 9M59 = 72 ลบ. +132% และสูงกว่ากำไรทั้งปี 58 ที่ทำได้ 27 ลบ. เนื่องจาก net margin ปรับดีขึ้นเป็น 1.4% เทียบกับ 0.6% ใน 9M58 และ 0.4% ในปี 58

- ปลาย Q3/59 มี backlog รวม 7,635 ลบ. เพิ่มขึ้น 71% เมื่อเทียบกับ backlog ปลายปี 58 ที่ระดับ 4,449 ลบ. ล่าสุดบริษัทจับมือพันธมิตรยื่นซองประมูลงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มหากได้งานจะเป็นจุดเปลี่ยนของบริษัทในการรับงานขนาดใหญ่ภาครัฐ จากที่ในอดีตเป็นผู้รับเหมาช่วงก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า

- บริษัทเพิ่งประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.05 บาท หลังจ่ายเงินปันผลครั้งสุดท้ายในปี 57 แล้วหยุดจ่าย จากนี้ไปผู้บริหารมีนโยบายจ่ายเงินปันผลทุกไตรมาสหากมีกำไรที่ดีและมีเงินสดเพียงพอ

หุ้นมีข่าว

- ประเด็นลบ PTTEP (ราคาปิด 89.50 แนะนำ “ถือ” ราคาเหมาะสม 86) รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศยุติใบอนุญาตแหล่งสำรวจของ PTTEP ในอินโดนีเซียชั่วคราว สืบเนื่องจากเหตุน้ำมันรั่วที่แหล่งมอนทาราทางตอนเหนือของออสเตรเลีย (ที่มา www.antaranews.com)

   ความเห็น จากการสอบถามไปทางบริษัท บริษัทยังไม่ได้รับการติดต่อจากรัฐบาลอินโด และกำลังติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดย PTTEP มีแหล่งผลิต 1 แห่งในอินโดนีเซียคือ Natuna Sea A (PTTEP ถือ 11.5%) คิดเป็นกำลังการผลิต 1% ของยอดขายในปัจจุบัน ซึ่งบันทึกเงินลงทุนไว้ 200 ล้านดอลลาร์ ฝ่ายวิจัยมีความเห็นว่าหากมีการยุติใบอนุญาตจริงจะส่งผลด้านลบต่อ PTTEP ทั้งในส่วนของยอดขายและสินทรัพย์ โดยยอดขายจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าเพราะแหล่งผลิตในอินโดนีเซียคิดเป็น 1% ของยอดขาย แต่ในทางสินทรัพย์อาจถูกตัดจำหน่ายทั้งจำนวนที่ 200 ล้านดอลลาร์หรือราว 7 พันล้านบาท (คิดเป็นผลกระทบราว 1.75 บาทต่อหุ้น)

- ประเด็นบวก BEM รฟม.เตรียมเสนอครม.จ้าง BEM เดินรถเชื่อมบางซื่อ-เตาปูน 693 ลบ.,ขีดเส้นจบเจรจาสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายกลางธ.ค.

- SPALI (ราคาปิด 22.80 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 27.40 บาท) ตั้งเป้ารายได้และยอดขายในปี 2560 เติบโต 10% จากปีนี้ พร้อมลุยเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้น 15-20% จากปีนี้ที่มีมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาทพร้อมมั่นใจรายได้ปีนี้ที่ 22,000 ล้านบาทและยอดขายที่ 24,500 ล้านบาท เผยยอดขาย 11 เดือนทำได้แล้วกว่า 23,000 ล้านบาทตุน Backlog ที่ 35,000 ล้านบาท รับรู้ถึงปี 2563

   ความเห็น : ปี 60 มี backlog รองรับ 1.3 หมื่นล้านบาทคิดเป็น 56% ของประมาณการรายได้ที่ 2.3 หมี่นล้านบาท โดยประมาณการกำไรปี 60 อยู่ที่ราว 5,215 ล้านบาทซึ่งเติบโต 7% จากประมาณการกำไรปี 59 ส่วนยอดขาย presale มีโอกาสทำได้ตามเป้าหลังจากเลื่อนเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมมาในปี 60 ส่วนยอดขายโครงการแนวราบทำได้ดีตั้งแต่ต้นปี 59 แล้ว

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +45.82 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,216.24 จุด เพิ่มขึ้น 45.82 จุด หรือ +0.24% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,308.89 จุด เพิ่มขึ้น 53.24 จุด หรือ +1.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,204.71 จุด เพิ่มขึ้น 12.76 จุด หรือ +0.58%โดยได้แรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวที่แข็งแกร่งในเดือนพ.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของยุโรป หลังจากผลการลงประชามติของอิตาลีบ่งชี้ว่าประชาชนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศ

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.11 USD/Barrel 

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 51.79 ดอลลาร์/บาร์เรลโดยสัญญาน้ำมัน WTI ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับมติการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันขยับขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนบางกลุ่มชะลอการซื้อขาย ก่อนที่การประชุมระหว่างกลุ่มโอเปกและประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก จะประชุมร่วมกันในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ส่องหุ้น

- PDI แนวรับ 18.80 , 18.40 บาทแนวต้าน 19.10 , 19.50 บาท

- ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้อีกครั้งหลังจากไม่หลุดลงไปทำ New low ต่อเนื่อง และมีวอลุ่มซื้อขายเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถวๆ 18.80 บาทอีกหรือเต็มที่ไม่หลุดลงมาทำ New low ต่ำกว่า 18.40 บาทได้ต่อเนื่อง ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่าน 19.10 บาท ขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบสัปดาห์แถวๆ 19.50 บาทต่อไป

- CBG แนวรับ 73.25 บาท แนวต้าน 76.75 , 80.25 บาท

- ระดับราคาสามารถประคองตัวดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้ โดยไม่หลุดลงไปทำ New low ต่อเนื่อง โดยขยับขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงของวัน หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆ เส้นดังกล่าวที่ 73.25 บาทอีก น่าซื้อเพิ่ม และมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 76.75 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบสัปดาห์แถวๆ 80.25 บาทต่อไป

- AJD แนวรับ 1.96-1.94 บาท แนวต้าน 2.02-2.06 , 2.20-2.22 บาท

- ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันได้อีกครั้ง หลังจากที่ในระหว่างวันหลุดลงไปเล็กน้อย แต่ทำรูปแบบสัญญาณโดจิ มีโอกาสที่วันนี้ระดับราคาจะดีดกลับต่อได้ โดยมีแนวต้านแรกแถวๆ 2.02-2.06 บาทซึ่งเป็น GAP ที่เปิดเอาไว้ หากระดับราคาประคองตัวปิดแถวๆ 2.02 บาทได้เป็นอย่างน้อย จึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ จุดสูงสุดเดิมที่ 2.20-2.22 บาทต่อไป