คนกรุง 66% เที่ยวไทยไตรมาส4 หนุนเงินสะพัด 4.4 หมื่นล้าน

คนกรุง 66% เที่ยวไทยไตรมาส4 หนุนเงินสะพัด 4.4 หมื่นล้าน

ช่วงไตรมาสสุดท้ายของทุกปีเป็นอีกฤดูกาลท่องเที่ยวที่คนไทยนิยมเดินทาง

ด้วยมีวันหยุดยาวและเทศกาลหลายช่วงเวลา อีกทั้งการทำการตลาดที่เข้มข้นของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อย่างธุรกิจโรงแรม ธุรกิจสายการบิน เป็นต้น

แม้ในช่วงปลายปีนี้จะมีปัจจัยเฉพาะภายในประเทศ แต่มองว่าคนไทยน่าจะยังคงมีการเดินทางท่องเที่ยว อาจปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางของกลุ่มประชาชนทั่วไปและองค์กรทั้งภาครัฐภาคเอกชน

เมื่อพิจารณาด้านกำลังซื้อและไลฟ์สไตล์แล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่า คนกรุงเทพฯ เป็นตลาดที่ผู้ประกอบการธุรกิจต่างมุ่งเน้นทำการตลาดอย่างมากในระยะนี้เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงที่เหลือของปีนี้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สำรวจพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ ช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2559 ในลักษณะการสำรวจเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 10 ต.ค.-18พ.ย. 2559 จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนกรุงเทพฯ จำนวน 982 คน ครอบคลุมทุกสาขาอาชีพหลัก ช่วงอายุ และระดับรายได้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ โดยผลสำรวจชี้ให้เห็นถึงสาระสำคัญที่อาจเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ ดังต่อไปนี้

แม้คนกรุงเทพฯ มีแผนเที่ยวในประเทศช่วงไตรมาส 4 ปี 2559 ลดลงไปบ้าง แต่มาตรการภาษีของภาครัฐอาจช่วยกระตุ้นกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ

ถือเป็นโอกาสผู้ประกอบการธุรกิจที่พัก/ธุรกิจนำเที่ยว ใช้จังหวะนี้ชูมาตรการภาครัฐทำการตลาดเพื่อกระตุ้นคนกรุงเทพฯ ที่ยังไม่มีแผน/ยังไม่ได้ตัดสินใจวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559

จากการสำรวจครั้งนี้ พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่มีแผนท่องเที่ยวในประเทศอย่างเดียวคิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่
ร้อยละ 55.4 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่มีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ร้อยละ 10.6

ดังนั้น กลุ่มตัวอย่างที่มีแผนท่องเที่ยวในประเทศทั้งหมด ร้อยละ 66 ซึ่งลดลงไปบ้างจากการสำรวจในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์หลัก คือ เดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนในช่วงหยุดยาวกับครอบครัว/กลุ่มเพื่อน คิดเป็นร้อยละ 82 ของกลุ่มตัวอย่างที่มีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ

อีกส่วน คือ กลุ่มที่มีแผนแวะท่องเที่ยวระหว่างทางกลับภูมิลำเนา/เยี่ยมญาติ คิดเป็นร้อยละ 15 ของกลุ่มตัวอย่างที่มีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ขณะที่ ที่เหลือเป็นกลุ่มที่เดินทางไปอบรมสัมมนาในต่างจังหวัด

ขณะที่กลุ่มที่มีแผนจะเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศอย่างเดียว ร้อยละ 12.6 ส่วนใหญ่เลือก เดินทางไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชีย สำหรับปลายทางยอดนิยม เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง และเกาหลีใต้

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มที่ไม่มีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวในช่วงนี้ ร้อยละ 21.4 โดยกลุ่มตัวอย่างกลุ่มนี้ ที่ไม่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในระยะนี้นั้น ด้วยมีหลากหลายเหตุผล เช่น บางรายไม่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวเพราะอยากจะลดค่าใช้จ่ายในกิจกรรมที่ไม่จำเป็น บางรายยังไม่ได้ตัดสินใจแต่อาจเดินทางไปท่องเที่ยวยังจังหวัดใกล้เคียงที่ไม่ต้องวางแผนล่วงหน้านาน ส่วนบางรายได้เดินทางไปท่องเที่ยวแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ เป็นต้น

เมืองท่องเที่ยวหลัก อย่างเชียงใหม่ ชลบุรี ยังคงได้รับความนิยมจากคนกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2559 อย่างน้อย 1 ทริป

ผลการสำรวจ พบว่า “เชียงใหม่” เป็นปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 ของกลุ่มตัวอย่างที่มีแผนท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ รองลงมา คือ เชียงราย เลย กระบี่ และชลบุรี ทั้งนี้ ผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่า ปลายทางท่องเที่ยวที่คนกรุงเทพฯ มีแผนจะเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ไม่ต่างจากผลการสำรวจในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยส่วนใหญ่ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก

โดยกิจกรรมที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีแผนทำระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว อันดับ 1 คือ เที่ยวชมความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อย่างภูเขา น้ำตก ทะเล รองลงมา คือ การทำบุญไหว้พระ และการลิ้มลองอาหารท้องถิ่นจากร้านที่มีชื่อเสียง ตามลำดับ

ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีแผนจะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด ส่วนใหญ่มีแผนจะเดินทางไปกับครอบครัว/เพื่อน โดยมีแผนเดินทางท่องเที่ยวจำนวน 1 ทริป คิดเป็นร้อยละ 75.3 และอีกส่วน คือ กลุ่มที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ 2 ทริปขึ้นไป

การแข่งขันที่เข้มข้นของธุรกิจทำให้มีการจัดโปรโมชั่นๆ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจวางแผนท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้

ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นพฤติกรรมการวางแผนท่องเที่ยวของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2559 แตกต่างจากปีที่แล้ว โดยโปรโมชั่นของธุรกิจโรงแรม/ธุรกิจสายการบินเป็นปัจจัยที่กลุ่มตัวอย่างให้ความสำคัญมากเป็นอันดับ 1

รองลงมา ได้แก่ วันหยุดยาว/ความพร้อมด้านเวลา และโปรโมชั่นในงานท่องเที่ยว รวมถึงอิทธิพลจากสื่อต่างๆ เช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์ สื่อโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ เป็นต้น

การสำรวจครั้งนี้ยังสะท้อนพฤติกรรมเกี่ยวกับการสำรองที่พัก พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยมากเลือกที่พักประเภทรีสอร์ทมากเป็นอันดับ 1 รองลงมา ได้แก่ โรงแรม และโฮมสเตย์ รวมถึงบ้านญาติ/เพื่อน ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมที่ส่วนใหญ่มีผู้ร่วมเดินทางอยู่ที่ประมาณ 2-5 คนต่อทริป

โดยกลุ่มตัวอย่างเลือกสำรองที่พักโดยตรงกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ของธุรกิจและการจัดรายการส่งเสริมการขายในงานท่องเที่ยว ขณะที่ อีกส่วนเลือกสำรองที่พักผ่านออนไลน์แทรเวลเอเยนซี (Online Travel Agency: OTA) อย่าง Agoda.com Booking.com และ Expedia.com เป็นต้น

ผลการสำรวจครั้งนี้ ช่วยสะท้อนสถานการณ์ปัจจุบันในตลาดที่ภาคธุรกิจได้ปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าเป้าหมาย อย่างธุรกิจสายการบินเพิ่มความถี่ในการนำเสนอโปรโมชั่นด้านราคาเพื่อกระตุ้นตลาดคนรุ่นใหม่ที่มีพฤติกรรมการจองสินค้าท่องเที่ยวแบบนาทีสุดท้าย หรือ Last Minute Booking

การใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ประมาณร้อยละ 64.7 ใช้จ่ายด้วยเงินสด

การสำรวจครั้งนี้สะท้อนพฤติกรรมการใช้จ่ายของกลุ่มตัวอย่าง โดยพบว่า กลุ่มตัวอย่างประมาณ
ร้อยละ 64.7 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ใช้จ่ายระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในต่างจังหวัดด้วยเงินสด รองลงมา คือ ใช้จ่ายด้วยเงินสดและบัตรเครดิตในสัดส่วนใกล้เคียงกัน

การใช้จ่ายส่วนใหญ่สำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่ม อยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 บาทต่อคนต่อทริป รองลงมา คือ ค่าใช้จ่ายที่พัก ประมาณ 1,000-1,500 บาทต่อคนต่อทริป และค่าใช้จ่ายสำหรับของฝากของที่ระลึก ประมาณ 500-1,000 บาทต่อคนต่อทริป

จากผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า ผู้คนส่วนใหญ่ใช้จ่ายด้วยเงินสดระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากร้านค้าที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึก ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยในท้องถิ่นที่อาจสะดวกรับเป็นเงินสดมากกว่า แต่บางรายมีความพร้อม สามารถบริหารจัดการเรื่องต้นทุนที่อาจเพิ่มขึ้น ก็ยินดีให้ลูกค้าสามารถเลือกชำระค่าสินค้าและบริการได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิต

คนกรุงเทพฯ เที่ยวในประเทศช่วงไตรมาส 4 ปี’59 สร้างเม็ดเงิน 44,000 ล้านบาท

จากผลการสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่มีแผนการเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วง ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งน่าจะก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดไปสู่ธุรกิจบริการในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ 

โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 คนกรุงเทพฯ จะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่เดินทางไปพักผ่อนทั้งแบบเช้าไป-เย็นกลับ และกลุ่มที่พักค้างคืน รวมถึงกลุ่มที่แวะเที่ยวระหว่างการเดินทางกลับภูมิลำเนา/เยี่ยมญาติในต่างจังหวัด จำนวนคนกรุงเทพฯ อาจเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 จากช่วงเดียวกันของปี 2558 และก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในพื้นที่ต่างๆ มูลค่าประมาณ 44,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ปัจจัยหนุนส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการภาครัฐที่มุ่งหวังกระตุ้นคนไทยเที่ยวในประเทศช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ โดยเม็ดเงินดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 19.5 ของรายได้ท่องเที่ยวของตลาดไทยเที่ยวไทยในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้มีมูลค่าประมาณ 2.26 แสนล้านบาท

สำหรับเม็ดเงินการใช้จ่ายนั้น มีการขยายตัวใกล้เคียงกับประมาณการในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่คนที่มีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวอาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าผลการสำรวจนี้ จากอานิสงส์ของมาตรการภาครัฐ และการจัดโปรโมชั่นที่สอดรับกับมาตรการท่ามกลางการแข่งขันกันรุนแรงของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากในสถานการณ์ปัจจุบันผู้คนมีการปรับแผนการเดินทางท่องเที่ยวและการใช้จ่ายให้สอดคล้องกับปัจจัยแวดล้อม/ข้อจำกัดของแต่ละบุคคล/ครัวเรือน

ผลการสำรวจครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นตลาดนักท่องเที่ยวสำคัญ และนำไปสู่การปรับกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นตลาด โดยเฉพาะการดึงดูดกลุ่มที่ยังไม่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวและอาจเดินทางท่องเที่ยวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2559