'อียู' เล็งคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติม

'อียู' เล็งคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติม

อียู เล็งเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ เพื่อตอบโต้การทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือครั้งล่าสุดเมื่อก.ย. ที่ผ่านมา

สหภาพยุโรป (อียู) อยู่ในระหว่างการพิจารณาเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ หลังจากที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี) ออกมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติม เพื่อเป็นการตอบโต้การทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

โฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศของอียู เปิดเผยว่า “ตามที่ได้เคยปฏิบัติมาในช่วงของการคว่ำบาตรรอบก่อนๆ มาตรการคว่ำบาตรยูเอ็นเอสซีรีโซลูชัน 2321 จะถูกนำไปผนวกกับกฎหมายของสหภาพยุโรป”

โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอียู ระบุด้วยว่า การที่เกาหลีเหนือทำการทดสอบนิวเคลียร์ 2 ครั้งในปีนี้ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด แต่กลับเพิ่มความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี อีกทั้งยังเป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงในระดับนานาชาติ พร้อมกับระบุว่า การที่ยูเอ็นเอสซีลงมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือนั้น สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การกระทำของเกาหลีเหนือเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้

เมื่อวันพุธที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ยูเอ็นเอสซี มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ เพื่อลงโทษต่อการทดลองนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 และเป็นครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยดำเนินการมา

มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวจะจำกัดการส่งออกถ่านหินของเกาหลีเหนือที่ระดับ 400.9 ล้านดอลลาร์ หรือ 7.5 ล้านตันในแต่ละปี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าการส่งออกถ่านหินของเกาหลีเหนือลดลง 60% หรือคิดเป็นเงินราว 700 ล้านดอลลาร์ต่อปี

ยูเอ็นเอสซี คาดหวังว่า รายได้ที่ลดลงจากการจำหน่ายถ่านหินของเกาหลีเหนือ จะทำให้เกาหลีเหนือขาดแคลนเงินทุนในการพัฒนาโครงการขีปนาวุธ และระเบิดนิวเคลียร์

นอกจากนี้ ยูเอ็นเอสซี ยังมีมติห้ามเกาหลีเหนือส่งออกทองแดง นิกเกิล โลหะเงิน และสังกะสี คิดเป็นมูลค่าราว 100 ล้านดอลลาร์ต่อปี