แสนสิริรุกตลาดบ้าน5-14ล้าน

แสนสิริรุกตลาดบ้าน5-14ล้าน

“แสนสิริ”กางแผนปี60 รุกตลาดแนวราบราคา 5-14 ล้าน เพิ่มสัดส่วน 50% มองกำลังซื้อแข็งแรง ไม่มีปัญหาการกู้

นายเมธา อังวัฒนพาณิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและโครงการแนวราบ บริษัทแสนสิริ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าแผนการลงทุนโครงการแนวราบในปี 2560 จะเปิดใหม่กว่า 10 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท เน้นพัฒนาโครงการระดับราคา 5-14 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์บุราสิริและเศรษฐสิริ คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 50% เนื่องจากเป็นตลาดที่กำลังซื้อยังมีความแข็งแรง ไม่ค่อยมีปัญหาถูกสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อในการขอพิจารณาอนุมัติสินเชื่อล่วงหน้า ก่อนการทำสัญญาซื้อขาย (Pre-approve) เพราะโครงการแนวราบส่วนใหญ่ของแสนสิริ จะเป็นการสร้างบ้านเสร็จก่อนขาย

ขณะที่โครงการบ้านระดับราคา 3-5 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์คณาสิริ จะมีสัดส่วนลดลงอยู่ที่ 30% ปัจจุบันพบว่าอัตราการถูกสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อในการขอพิจารณาล่วงหน้า ก่อนการทำสัญญาซื้อขาย เพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 20% จากเดิมที่ไม่ถึง 10% สาเหตุหนึ่งมาจากปัจจุบันสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่ออย่างมาก รวมถึงผู้บริโภคกลุ่มนี้มีแนวโน้มของความสามารถในการชำระหนี้ หรือการผ่อนชำระลดลง จากภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น ทำให้ธนาคารเข้มงวดปล่อยสินเชื่อและลดวงเงินการให้สินเชื่อกับลูกค้าลง จากเดิมที่ให้วงเงินสินเชื่อ 100% ส่งผลกระทบต่อการขอสินเชื่อของลูกค้า

แม้ว่าบ้านระดับราคา 5-14 ล้านบาท จะมีจำนวนยูนิตการขายไม่มากเท่ากับบ้านระดับราคา 3-5 ล้านบาท แต่มีความคุ้มค่าและเป็นโครงการที่ลูกค้าต้องการการมากกว่า เพราะได้เรื่องทำเลกับพื้นที่ใช้สอยในบ้าน และยังมีความเสี่ยงในการขอสินเชื่อที่น้อยกว่า 

“เราขายบ้านบุราสิริและเศรษฐสิริ หลังเดียวได้เม็ดเงินเท่ากับเราขายโครงการ คณาสิริ 2 หลัง และโครงการระดับราคา 3 ล้านบาท ยังมีความเสี่ยงที่สถาบันการเงินจะไม่ปล่อยกู้ให้อยู่สูง”

      ล่าสุดบริษัทได้เปิดโครงการบุราสิริ ราชพฤกษ์ 345 มูลค่า 2,400 ล้านบาท บ้านเดี่ยวโครงการสุดท้ายของปีนี้ ราคาขาย 5.29-14 ล้านบาท ขนาดที่ดิน 50.4-127 ตร.ว. จำนวน 339 ยูนิต เปิดขายเฟสแรก 110 ยูนิต ปัจจุบันขายไปได้แล้ว 40 ยูนิต มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท มองว่าทำเลราชพฤกษ์ถือว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของกรุงเทพฯฝั่งตะวันตก เพราะเชื่อมกับถนนเส้นอื่นๆ และมีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้โครงการที่อยู่อาศัยในโซนราชพฤกษ์ได้รับการตอบรับดี  ส่วนยอดขายโครงการแนวราบในปีนี้ คาดทำได้ 1.3 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท

แนวโน้มตลาดอสังหาฯปี 2560 มองว่าจะเติบโตเล็กน้อย โดยมีปัจจัยหนุนมาจากการลงทุนโครงการต่างๆของภาครัฐที่มีความชัดเจนขึ้น ทำให้มีเม็ดเงินออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ และความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่ยังมีความต้องการอยู่ตลอดเวลา แต่ราคาที่ดินยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ค่าก่อสร้างและราคาวัสดุก่อสร้างที่ลดลง ทำให้ราคาบ้านยังคงทรงตัว ไม่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด