อสังหาฯชู“แนวราบ” เสริมรายได้โค้งสุดท้าย

อสังหาฯชู“แนวราบ” เสริมรายได้โค้งสุดท้าย

โค้งสุดท้ายปี 2559 หลายธุรกิจอาจหมดโอกาสลุ้นการเติบโต ในส่วนของอสังหา หลายค่ายหันมามุ่งขายโครงการแนวราบ เพื่อประคองยอดขาย

อิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมการซื้อขายที่อยู่อาศัยชะลอตัวมาตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะคอนโด ส่วนมาตรการภาครัฐที่ออกมากระตุ้นตลาดในไตรมาส 2 เป็นแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ช่วยให้ยอดการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น แต่ไม่ช่วยยอดขายใหม่มากนัก ส่วนไตรมาส 4 ตลาดค่อนข้างชะลอตัว จากปัจจัยต่างๆ ภายในประเทศ ทำให้คาดว่ายอดขายของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปีนี้ต่ำกว่าเป้าหมาย

ดังนั้นจึงเน้นการประคองธุรกิจ โดยเลื่อนเปิดคอนโดไปปีหน้า เพราะเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคสามารถรอได้ และหันมาเร่งเปิดโครงการแนวราบ บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ แทน

“ตลาดแนวราบลูกค้าจะเป็นกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่จริง ไม่มีการเก็งกำไร แต่การใช้โครงการแนวราบรักษายอดขายให้เท่ากับคอนโด 1 โครงการ อาจจะต้องเปิดมากกว่า 3 โครงการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไม่ใช่ทุกทำเลที่สามารถเปิดขายได้”

 ภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดแนวราบในช่วงไตรมาส 4 นี้ยังไปได้ดี สะท้อนจากการเปิดขายบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ เดอะซิตี้ สุขสวัสดิ์ ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเปิดขายเพื่อทดลองตลาด ซึ่งถึงแม้ในช่วงที่เปิดขายรอบพิเศษประชาชนชาวไทยยังคงอยู่ในภาวะเศร้าโศก แต่ 2 วันที่เปิดขายรอบพิเศษ มียอดขาย 24 หลัง มูลค่ารวมประมาณ 200 ล้านบาท  

ในช่วงสุดท้ายของปี เอพี ได้เปิดขายบ้านเดี่ยว 3 โครงการ มูลค่ารวม 3,900 ล้านบาท ได้แก่ บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย – รามอินทรา 56 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท เดอะ ซิตี้ สุขสวัสดิ์ 70 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท และเดอะ ซิตี้ บางใหญ่ 133 ยูนิต ราคา 4.99-7 ล้านบาท โดยเปิดขายพร้อมกันอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19-20 พ.ย. มียอดขายรวมประมาณ 420 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายเฉพาะแนวราบตั้งแต่วันที่ 1-20 พ.ย. ประมาณ 1,230 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 290 ล้านบาท และทาวน์โฮม 940 ล้านบาท

"จากวันนี้ไปเราคงต้องเฝ้าดูสถานการณ์เป็นระยะ คงตอบไม่ได้ว่าบรรยากาศการซื้อขายจะกลับคืนสู่ภาวะปกติแล้วหรือยัง ส่วนกิจกรรมการตลาดเราก็ยังคงดำเนินการปกติ โดยมีการเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์”

ขณะที่ผู้ประกอบการ 2 รายใหญ่ อย่าง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดขายโครงการแนวราบ 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3,000 ล้านบาท ได้แก่ ช็อปเฮาส์ “สิริ อเวนิว เพชรเกษม 81” อาคารพาณิชย์ ราคาเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ “บุราสิริ ราชพฤกษ์ - 345” บ้านเดี่ยว 339 ยูนิต ราคา 5.29-14 ล้านบาท เปิดขายในวันที่ 26-27 พ.ย.นี้ ส่วนบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หันไปขยายตลาดแนวราบใน จ.นครศรีธรรมราช พัฒนาโครงการ “เบลล่า นครศรีธรรมราช” เนื้อที่ 57 ไร่ 419 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นทำเลที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีประชากรมากที่สุด และมีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภาคใต้ อีกทั้งยังมีการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และการลงทุนจากภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง

เช่นเดียวกับบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ เตรียมเปิดทาวน์โฮม 1 โครงการ รวมทั้งปีบริษัทจะเปิดโครงการแนวราบทั้งสิ้น 10 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 1.02 หมื่นล้านบาท  ส่วนบริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน)เปิดตัวโครงการใหม่่ สัมมากร ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ บนถนนชัยพฤกษ์ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว ราคาเริ่มต้น 6.39ล้านบาท

ทั้งหมดนับเป็นเคลื่อนไหวของบริษัทพัฒนาอสังหาฯในช่วงโค้งสุดท้าย ที่พยายามงัดกลยุทธ์การตลาดทุกรูปแบบ เพื่อประคองยอดขายปีนี้