"นายณ์"ชะลอลงทุนปีหน้า

"นายณ์"ชะลอลงทุนปีหน้า

นายณ์ เอสเตท หวั่นเศรษฐกิจซึมต่อเนื่องฉุดอสังหาฯ ทรงตัว ชะลอแผนลงทุนปี 60 หันโฟกัสคุณภาพ-ส่งมอบบ้าน สร้างแบรนด์

นายสุธี ลิมปนชัยพรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2560 คาดอยู่ในภาวะ ”ทรงตัว” ต่อเนื่องจากปี 2559 เป็นผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั้งภายในและนอกประเทศ ไม่มีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้น นอกเหนือการลงทุนเมกะโปรเจคของรัฐบาล อีกทั้งต้องจับตานโยบายของนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ จะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกอย่างไรบ้าง

“คงต้องใช้เวลาอีก 1 ปีกว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น ปี 2560 จะเป็นปีที่เหนื่อยต่ออีกปีของภาคธุรกิจ เพราะยังคงมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและตลาดอสังหาฯ โดยตลาดบ้านระดับกลาง-ล่าง ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดระดับบนแม้ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ แต่มีผลต่อความเชื่อมั่นทำให้ชะลอการตัดสินใจซื้อบางส่วน แต่หากเป็นโครงการที่มีความแตกต่างและพิเศษมากๆ ยังขายได้”

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทตัดสินใจไม่ขยายการลงทุนมากนักในปี 2560 เน้นรอดูสถานการณ์ลงทุนตามจังหวะและโอกาสเป็นหลัก โดยตั้งเป้ายอดขายกว่า 2,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ 2,000 ล้านบาท ใกล้เคียงปี 2558

“ในภาวะที่ตลาดไม่เอื้อบริษัทจึงไม่เน้นพัฒนาโครงการใหม่ แต่จะให้ความสำคัญคุณภาพการก่อสร้าง ส่งมอบบ้านและคอนโดมิเเนียมที่ขายไปก่อนหน้านี้ ปัจจุบันมีแบ็กล็อคในมือที่ต้องทยอยพัฒนาและส่งมอบมูลค่าเกือบ 7,000 ล้านบาท ถือว่ามีจำนวนมากเมื่อเทียบกับการก่อตั้งบริษัท 3-4 ปี ทำให้การส่งมอบบ้านและการบริการหลังการขายจึงถือเป็นวาระสำคัญ”

แม้ปีนี้บริษัทไม่เน้นเปิดโครงการใหม่ แต่ยังมีโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานในซอยศรีบุญเรือง ถ.สีลม บนเนื้อที่ 6 ไร่ คาดใช้เวลาออกแบบและยื่นจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (สวล.) ประมาณ 2 ปี เริ่มก่อสร้างปี 2562 ก่อสร้างราว 3 ปีครึ่ง

สำหรับผลการดำเนินงานปี 2559 สร้างยอดขายกว่า 3,000 ล้านบาท จากเป้าหมาย 3,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดรับรู้รายได้ 1,900 ล้านบาท สิ้นปีคาดทำได้ตามเป้าหมาย 2,000 ล้านบาท แม้ว่าไตรมาส 4 จะไม่สามารถทำการตลาดได้ก็ตาม

ล่าสุดบริษัทเปิดตัวบ้านตัวอย่างโครงการ “ธามฮิลล์ วิลเลจ” บน ถ.ผ่านศึก-กุดคล้า เขาใหญ่ บนพื้นที่ 40 ไร่ ซึ่งซื้อที่ดินจาก ปิยะ อินเตอร์เนชั่นแนล ประกอบด้วย รีสอร์ท วิลล่า พื้นที่ใช้สอย 139-296 ตร.ม. จำนวน 36 ยูนิต ราคาขาย 25-30 ล้านบาท และ คอนโด พื้นที่ใช้สอย 58.5-100 ตร.ม. 160 ยูนิต ราคาขาย 5-10 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 2,300 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายในส่วนของวิลล่า 3 ยูนิต และคอนโด 4-5 ยูนิต