เกมรุก-รับ! ก่อน 'อัยการ' ประกาศสั่งฟ้อง 'ธัมมชโย'?

ไม่แน่ใจว่า "พระธัมมชโย" แห่งวัดพระธรรมกาย จะยังคงอยู่ในวัดหรือไม่

ซึ่งไม่มีใครให้คำตอบได้เหมือนกัน แต่หลังจากวันนี้ (23พ.ย.) เมื่อ อัยการคดีพิเศษ สั่งฟ้อง "พระธัมมชโย" และ "นายศุภชัย ศรีศุภอักษร" อดีตประธานสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น กับพวกรวม 3 คน

ฐานความผิดฟอกเงิน ซึ่งนัดผู้ต้องหามาฟังคำสั่ง 30 พ.ย. นี้ หากมาพร้อมยื่นฟ้องศาลอาญาฯทันที

ทว่า ก่อนจะมาถึงวันที่ "อัยการคดีพิเศษ" ประกาศสั่งฟ้องพระธัมมชโยนั้น น่าสนใจไม่น้อย ว่ามีความเคลื่อนไหวอันเป็นนัยสำคัญ

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ลำดับเหตุการณ์ ท่ามกลางกระแสกดดัน "อัยการ" เริ่มขึ้นอย่างหนักหน่วง นับตั้งแต่ โฆษกอัยการสูงสุด ออกมาประกาศเลื่อนสั่งคดี "ธัมมชโย-พวก" ฟอกเงิน เป็นครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 6 ต.ค.59

โดยระบุเหตุผลว่ารับผลสอบเพิ่มไม่ครบ นัดอีกครั้งวันที่ 7 พ.ย. 2559

หลังจากนั้น (7พ.ย.) "บิ๊กต๊อก" พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีอัยการเลื่อนการสั่งฟ้องคดีฟอกเงินและรับของโจรจากการยักยอกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด ว่า ไม่รู้เหตุผลที่อัยการยังไม่สั่งฟ้อง

"ส่วนจะเป็นการถ่วงคดีหรือไม่ตอบไม่ได้ แต่ยอมรับว่าวันนี้ สังคมก็กำลังตั้งคำถามเช่นกันว่า เกิดอาการถ่วงคดีหรือไม่ เรื่องนี้ต้องไปถามที่อัยการและพนักงานสอบสวน แต่ดีเอสไอย้ำว่าสิ่งที่เป็นจุดแตกหักทั้งหมดได้สอบสวนจนครบถ้วนแล้ว"

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ประเด็นที่อัยการสั่งสอบเพิ่มเติมนั้น ดีเอสไอได้สอบสวนแล้วและส่งให้อัยการพิจารณาตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา ยังเหลือประเด็นปลีกย่อยอีกเล็กน้อยที่จะเร่งสอบสวนให้แล้วเสร็จตามที่อัยการสั่งสอบเพิ่ม

ต่อมา (8.พ.ย.) รมว.ยุธิธรรม ให้สัมภาษณ์สื่อ ระบุว่า "อัยการสูงสุด" ต้องเคลียร์คดี "ธัมมชโย" หลังสังคมสงสัยปมเลื่อนและไม่กล้าฟ้อง

ดูเหมือนทีมงานฝ่ายกฎหมาย "ธรรมกาย" ก็คงรู้ว่า ถ้าไปเช่นนี้ จะกลายเป็นกระแสสังคมกดดันได้ ทำให้ต้องเปิดฉากรุก ส่งทนายร้องขอความเป็นธรรม ในชั้นอัยการ อ้างยังไม่ได้ข้อยุติการตั้งข้อหารับของโจรฟอกเงิน จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย (14พ.ย.)

เมื่ออีกฝ่ายธรรมกายรุกอัยการ ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งรุกกลับด้วย (16พ.ย.) ชาวสมาชิกสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น บุกกรมดีเอสไอ จี้จับ "ธัมมชโย" ทวงถามคดีฟอกเงินใครถ่วงคดี ด้านผบ.สำนักคดีฯแจงส่งหลักฐานให้อัยการครบแล้ว

แน่นอนว่า หากประเมิน "การเดินเกม" แต่ละฝ่ายแล้ว ฝ่ายอัยการฯเหมือนจะรับบทหนัก เนื่องจากโดนกระทุ้งถามเป็นระยะ โดยเฉพาะการที่ "พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล" รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ชี้แจงสื่อ (18พ.ย.) ระบุว่าให้เวลา "ธัมมชโย" ประสานมอบตัวก่อน หลังถูกออกหมายจับข้อหาบุกรุกป่า หลังศาลจังหวัดสีคิ้วออกหมายจับ

แม้แต่ "พุทธะอิสระ" ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ค (19พ.ย.) ยันไม่มีมวยล้มในคดี "ธัมมชโย" ถ้าไม่สำร็จยอมถอดจีวรเองเข้าป่าชั่วชีวิต

แต่ที่ย้ำแล้วย้ำอีกก็คือ "บิ๊กต๊อก" รออัยการสั่งคดีก่อนเข้าจับ "ธัมมชโย" (21พ.ย.) และ "ศรีวราห์" เชื่อมั่น80%ว่า "ธัมมชโย" ยังอยู่ในวัด และตำรวจต้องมั่นใจ 100% ถึงบุกจับ ระบุไม่หนักใจหากลูกศิษย์ขวาง

และวานนี้ (22พ.ย.) "รมว.ยุติธรรม" ยังออกมาพูดขีดเส้น30พ.ย. หากอัยการสั่งฟ้องก็ต้องจับ "ธัมมชโย" ทันที ระบุไม่มีเหตุผลให้เลี่ยงอีก กรณีสื่อถามว่า ถ้าวันที่ 30 พ.ย. อัยการสั่งฟ้องพร้อมจะเข้าไปเอาตัวเลยหรือไม่

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่พนักงานสอบสวนจะไม่ดำเนินการตามนั้น มันจบแล้ว คุณตอบสังคมไม่ได้แล้ว เมื่อพนักงานอัยการสั่งฟ้องพนักงานสอบสวนต้องไปเอาตัวมา เป็นเรื่องเดียวที่พนักงานสอบสวนจะต้องทำให้เด็ดขาด

"ถ้าคดีไม่ถูกสั่งฟ้องมันก็ไม่มีเหตุผลอะไร เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าการเข้าไปครั้งแรกมันมีบทเรียนมาแล้วว่ามีปัญหากระทบกระทั่งกัน และไม่คุ้มค่าถ้าเอามาแล้วอัยการไม่สั่งฟ้อง ดังนั้น ต้องรออีกสักนิด อดทน ให้มั่นใจพนักงานสอบสวนเห็นพ้องกับอัยการ"

ขณะที่ "ธรรมกาย" ยังไม่มีความเคลือนไหว ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่างทำกิจกรรมสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ให้ได้วันละ 111,111 จบ เพื่อเป้าหมายรวม 11,111,111 จบ บูชาธรรมคล้ายวันเกิด "ครูไม่เล็ก" 21 ธันวาคม นี้

อย่างไรก็ตาม เมื่ออัยการฯประกาศสั่งฟ้องแล้ว "ปฏิบัติการจับกุม" จะต้องเป็นภาระหนักของ "สตช.-ดีเอสไอ" ที่สังคมจ้องโฟกัสว่า จะบุกวัดพระธรรมกาย วันไหน อย่างไร และ "ธัมมชโย" จะยังอยู่ในวัดจริงหรือไม่ น่าติดตามอย่างยิ่ง!!