บรรยากาศในการซื้อขายยังดี แม้ถูกกดดันจากเงินทุนไหลออก

บรรยากาศในการซื้อขายยังดี แม้ถูกกดดันจากเงินทุนไหลออก

คาดเห็นการผลักดันหุ้นรายตัว ขณะที่ตลาดยังไม่ไปไหน เคลื่อนไหวในกรอบ 1465-1485

UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ :  บรรยากาศในการซื้อขายยังดี แม้ถูกกดดันจากเงินทุนไหลออก

เราคาดการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังคงแกว่งตัวในกรอบ ด้วยแรงกดดันจากเงินทุนไหลออก และการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปีเริ่มลดลงต่ำกว่า 2.30% (จาก 2.37%) รวมทั้งแรงเก็งกำไรเชิงบวกราคาน้ำมันจากท่าทีต่อการลดกำลังการผลิตที่เป็นบวกจากอิหร่านและรัสเซีย ประกอบกับรายงาน GDP 3Q59 เติบโต 3.2% ซึ่งแม้ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 3.4% แต่การส่งออกที่พลิกกลับมาเป็นบวกในรอบ 7 ไตรมาส เชื่อว่าน่าจะสนับสนุนจิตวิทยาการซื้อขายและการผลักดันหุ้นเป็นรายตัว โดยมีกลุ่มพลังงานที่สร้างบรรยากาศเชิงบวกให้ตลาด

กลุ่มอาหารและเกษตร มีความโดดเด่นต่อการเก็งกำไรระยะสั้นจาก 1) เกาหลีอนุมัติการนำเข้าไก่สดไทยในรอบ 12 ปี 2) กระทรวงแรงงานเดินทางไปชี้แจงสหภาพยุโรปเรื่องการแก้ไขปัญหาแรงงานประมงผิดกฎหมาย (IUU) วันที่ 22 พ.ย.นี้ และ 3) ราคายางที่ตลาด TOCOM เช้านี้ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 228 เยน เรามอง หุ้นที่น่าสนใจได้แก่ GFPT CPF TFG TU STA TRUBB // ค้าปลีก - รัฐบาลเตรียมมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพและกระตุ้นการจับจ่ายของประชานชนช่วงสิ้นปี เป็นบวกต่อหุ้นบริโภคในประเทศ โดยเราชอบ ROBINS // ท่องเที่ยว – ราคาหุ้นรับผลกระทบทั่วร์ศูนย์เหรียญแล้วระดับหนึ่ง และเข้าสู่ high season เราชอบ ERW AOT

ปัจจัยติดตามอื่นๆ : ข้อมูลบริษัทจาก Opportunity day: 22 พ.ย. – SELIC, MILL / 23 พ.ย. – TU, KOOL, CPN, CHO, KIAT, BA / 24 พ.ย. – BIZ, AH, TSR, BAFS, TK, PCSGH / 28 พ.ย. – BANPU, LHK, NDR, TMILL, TTA, K / โอเปคหารืออีกครั้งเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 30 พ.ย. / ประชุมเฟดวันที่ 13-14 ธ.ค. (ทราบผลเช้า 15 ธ.ค.) /

คาดการณ์หุ้นเข้า-ออก SET50: (+) GL, THAI, JAS, SPRC, GLOBAL, KKP, PTG, SCCC / (-) BEC, TASCO, TTW, SAWAD, MTLS, BCP, TPIPL, WHA // คาดการณ์หุ้นเข้า-ออก SET100: (+) JAS, SPRC, SUPER, VIBHA, TKN, BIG, THANI, GFPT, SCCC/ (-) TRC, BJCHI, RS, ERW, JWD, SVI, WORK, HANA, IFEC

แนวรับ/แนวต้าน : 1465 /1485 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

คำแนะนำทางกลยุทธ์ : คาดเห็นการผลักดันหุ้นรายตัว ขณะที่ตลาดยังไม่ไปไหน เคลื่อนไหวในกรอบ 1465-1485 กลยุทธ์วันนี้ขอเลือกหุ้นรายตัวที่มีประเด็นเฉพาะ และมีฐานการผลิตหรือเติบโตอิงสหรัฐฯ ยังขอเลี่ยงหุ้นกลุ่มบันเทิงเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดประมาณการ // หุ้น top pick เชิงกลยุทธ์ TU, PTTGC, PTT/ เก็งกำไร DTAC*, STA*

ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์

- กลุ่มอาหาร/เกษตร/ยาง/เรือ: GFPT*, CPF, TFG*, TU, STA*, TRUBB*, TTA*, PSL*, RCL*

- หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก USD แข็งค่า: BH, ERW, IRPC, PTT, TU / ยูโรอ่อน: THAI, TPIPL

- หุ้นที่มีธุรกิจ หรือฐานการผลิตในสหรัฐฯ: IVL, EPG, TU

- หุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น (เงินเฟ้อ): BLA*, TIP*, EASTW*

- หุ้นที่ได้รับแรงหนุนจากฤดูกาลปลายปี: TU, ROBINS, BCP, AP, BDMS, BH, BCH, DCC, DRT

หุ้นแนะนำ

TU (24.50) : กำไรปี 2560 เติบโต 16.6% สูงสุดในกลุ่มอาหาร ได้ปรับประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน และการเติบโตมีโอกาสดีกว่าคาดจากการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมในอนาคต สำหรับดีลล่าสุด Red Lobster ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก คาดบริษัทสามารถพลิกให้ธุรกิจกลับมากำไรได้ในปี 2560

PTTGC (70) : ผลประกอบการรายไตรมาสยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่องจากจุดต่ำสุดไตรมาส 2/59 ขณะที่ earnings momentum ระยะกลางโดดเด่น โดยคาดกำไรปี 2560 เติบโตถึง 29.5%

PTT (405) : คาดได้รับผลประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการที่โอเปกบรรลุข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมัน ประกอบกับภาพรวมธุรกิจก๊าซที่คาดว่าจะดีขึ้นในช่วง 2H59 นอกจากนี้เราคาดว่า PTT จะได้ประโยชน์จาก พ.ร.บ. กองทุนน้ำมันใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในช่วงสิ้นปี 59 นี้

DTAC (38) : ราคาหุ้นปรับลดลงมากเกินไป ซื้อขายที่เพียง 36% ของ market cap TRUE ในขณะที่มีมูลค่าของลูกค้าหนึ่งราย (EV/Subscriber) ที่ 4,481 บาท ต่ำกว่า TRUE ที่ 13,313 บาท ทั้งที่ยังคงมีลูกค้า 25.7 ล้านราย (TRUE ที่ 22.6 ล้านราย) / ตัดขาดทุนที่ 34.00 บาท

STA (17) : ราคายางเริ่มกลับเป็นขาขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 16.54 บาท
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH/หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)



ตลาดหุ้นสหรัฐปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน

ปัจจัยภายในประเทศ

+ สศช.คาดจีดีพีปีหน้าขยายตัว 3.5% จากส่งออกกลับมาโตได้ 2.4% พลิกบวกในรอบ 3 ปี หลังประเมินเศรษฐกิจโลกดีขึ้น ขณะลงทุนภาครัฐ-รัฐวิสากิจหนุน มีเม็ดกว่าล้านล้านบาทจ่อรอลงทุน ด้าน “สมคิด” พอใจตัวเลขเศรษฐกิจ พร้อมออกมาตรการเพิ่ม หากสัญญาณชะลอ ขณะ ธปท.ชี้เป็นไปตามประมาณการ จับตานโยบายสหรัฐ-ผลกระทบทัวร์ศูนย์เหรียญ (กรุงเทพธุรกิจ)

+ ธุรกิจหลายสาขามั่นใจเศรษฐกิจไทยปีหน้าดีกว่าปีนี้ เหตุความคลุมเครือต่าง ๆ หมดไป ขณะรัฐเดินหน้าลงทุนโครงการขนาดใหญ่ โดยเฉพาะระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกดันการลงทุนรัฐ-เอกชนเพิ่มขึ้น แนะผนึกพันธมิตรเร่งโต เข้าใจธุรกิจถ่องแท้ ไม่ฝืนกระแส มองธุรกิจบนความเป็นจริง เตรียมแผนระยะยาว แทนมองระยะสั้น (กรุงเทพธุรกิจ)

+ กระทรวงเกษตรฯ ชง ครม. เพิ่มวงเงินสินเชื่อ 2หมื่นล้านบาท จูงใจ ชาวนาร่วมโครงการเกษรแปลงใหญ่ ตั้งเป้า 2 พันแปลง เพิ่มเงื่อนไขให้กู้แปลงละ 10 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี "บิ๊กต๊อก" ระบุ 6 พันรายชื่อเอี่ยวคดีจำนำข้าว ใครไม่เห็นด้วยให้ไปต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมไม่ต้องมาสู้กันบนหน้าสื่อ (ไทยโพสต์)

- 'จิตติ'-'แม่ทองสุก' มองแนวโน้มทองปีนี้อาจได้เห็นหลุด 2 หมื่นบาท หลังสหรัฐปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ลุ้นออกมาตรการคิวอีผ่อนคลายการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ดันบาทอ่อนช่วยพยุงราคาทองไม่ตกมาก(มติชน)

- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2559 เป็น 3.2% และมองว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีมีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะโตช้าที่สุดในรอบปี โดยเฉพาะภาคการส่งออกต้องจับตาความเสี่ยงภายนอกจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทั้งในยุโรปและสหรัฐ ทางด้านเอชเอสบีซี ชี้ปีหน้าค่าเงินบาทอ่อนต่อเนื่อง แต่ไม่ถึง 36.7 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เผยดุลชำระเงินแข็งแกร่ง (โพสต์ทูเดย์)

ปัจจัยต่างประเทศ

+ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ทะยานขึ้น และหุ้นเฟซบุ๊คหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 88.76 จุดหรือ 0.47% สู่ 18,956.69, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 16.28 จุดหรือ 0.75% สู่ 2,198.18 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 47.35 จุดหรือ 0.89% สู่ 5,368.86 (รอยเตอร์)

- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 4 % สู่จุดสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ในวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะบรรลุข้อตกลงกันในวันที่ 30 พ.ย.ในการจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมัน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.80 ดอลลาร์ หรือ 4 % มาปิดตลาดที่ 47.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (รอยเตอร์)

+ ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นอังกฤษปิดทรงตัวในวันจันทร์ โดยปรับตัวอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นประเทศอื่นๆในยุโรป หลังจากปอนด์พุ่งขึ้น โดยปอนด์ได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า อังกฤษอาจจะทำข้อตกลงสำหรับระยะเปลี่ยนผ่านในการออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดขยับขึ้น 2.19 จุด หรือ 0.03 % สู่ 6,777.96 (รอยเตอร์)

+ ดัชนีนิกเกอิที่ตลาดหุ้นโตเกียวปิดเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันในวันจันทร์ หลังจากการอ่อนค่าลงอีกของเยนหนุนความเชื่อมั่นโดยรวม ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองบวกขึ้นตามราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดบวก 138.61 จุด หรือ 0.77% ที่ 18,106.02 ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. และดัชนีพุ่งขึ้นในรอบ 4 วันที่ผ่านมา (รอยเตอร์)