วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน 21 พฤศจิกายน 2559

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน 21 พฤศจิกายน 2559

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังข้อตกลงกลุ่มโอเปคมีความเป็นไปได้มากขึ้น

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากข้อตกลงของผู้ผลิตกลุ่มโอเปคเกี่ยวกับมาตรการลดกำลังการผลิตมาสู่ระดับ 32.5-33.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน มีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุผลมากขึ้น หลังอิหร่านคาดจะได้รับข้อเสนอให้เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบมาสู่ระดับ 3.92 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่าปริมาณการผลิตในเดือนต.ค. 59 ที่อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary sources) ราว 0.23 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่ผู้ผลิตบางรายในกลุ่มโอเปคต้องการให้อิหร่านคงกำลังการผลิตไว้ที่ระดับเดิม

- อย่างไรก็ตาม ตลาดยังมีความกังวลว่าข้อตกลงการปรับลดปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปคอาจมีอุปสรรค หลังอิหร่านและอิรักยังคงคัดค้านแผนการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน ขณะเดียวกันอิหร่านยังคงเดินหน้าเพิ่มการส่งออกขึ้นต่อเนื่อง โดยข้อมูลการส่งออกในเดือนต.ค. 59 พบว่าอิหร่านก้าวขึ้นเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบอันดับ 1 ไปยังอินเดียแทนที่ซาอุดิอาระเบีย

- ค่าเงินดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุด ตั้งแต่ปี 2003 เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในตะกร้าเงิน หลังนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐ แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

- Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 18 พ.ย. จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น 19 แท่น มาอยู่ที่ 471 แท่น และหากผู้ผลิตกลุ่มโอเปคบรรลุข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ อาจส่งผลให้ผู้ผลิต Shale Oil กลับมาผลิตมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ปริมาณการผลิตชะลอตัวลง

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินในสิงคโปร์ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 16 พ.ย. มากกว่าปริมาณการนำเข้า โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากอินโดนีเซีย

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดีเซลยังถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และปริมาณการผลิตในจีนที่ปรับเพิ่มขึ้น 


ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

        ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 43 - 48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

        ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 44 - 49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

- จับตาการประชุมกลุ่มโอเปคในวันที่ 25 พ.ย. นี้ โดยตลาดคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับข้อตกลงของกลุ่มโอเปคที่จะปรับลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 32.5 – 33.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดี ยังคงมีความเสี่ยงที่กลุ่มโอเปคจะไม่สามารถตกลงกันได้ หลังปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปคปรับเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับ 33.64 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์

- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรียมีแนวโน้มปรับลดลง หลังล่าสุดกลุ่ม Niger Delta Avengers โจมตีท่อขนส่งน้ำมันดิบ Bonny Light ที่มีปริมาณการผลิตโดยเฉลี่ยราว 0.21 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2559 ซึ่งนับเป็นการโจมตีครั้งที่สองต่อเนื่องจากต้นเดือน พ.ย. ที่กลุ่มดังกล่าวได้ทำการโจมตีท่อขนส่งน้ำมันดิบ Forcados

- ตลาดมีความกังวลกับภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดในสหรัฐมากขึ้น หลังปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 13.2% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สิ้นสุดวันที่ 11 พ.ย. 2559 ที่ปรับเพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล

                                                                    -----------------------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-797-2999