วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน 18 พฤศจิกายน 2559

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน 18 พฤศจิกายน 2559

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ประกอบกับอุปทานน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับสูง

- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินในตะกร้าหลัก หลังข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น รวมถึงท่าทีของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. 59

- บริษัท Genscape รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง รัฐโอคลาโฮมา ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 15 พ.ย. 59 ปรับเพิ่มขึ้น 303,001 บาร์เรลซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับข้อมูลวานนี้ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ที่รายงานว่าปริมาณน้ำมันดิบสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 5.3 ล้านบาร์เรล

- นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังทั่วโลกยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังตัวเลขกำลังการผลิตน้ำมันดิบจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบ (โอเปค) ในเดือน ต.ค. 59 ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบประวัติการณ์ที่ 33.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 40 ของอุปทานน้ำมันดิบทั่วโลก

+ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงจับตามองถึงความเป็นไปได้ของกลุ่มโอเปคที่เตรียมจะปรับลดกำลังการผลิต ในการประชุมที่กรุงเวียนนา วันที่ 30 พ.ย. 59 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานซาอุดิอาระเบีย และประธานาธิบดีเวเนซุเอลา แสดงความคิดเห็นว่า โอเปคจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตได้

+ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐ ประจำสัปดาห์ที่ 11 พ.ย. 59 ปรับตัวลดลง 19,000 ราย สู่ระดับ 235,000 ราย ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับ 257,000 ราย โดยตัวเลขการว่างงานที่ปรับลดลงเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจสหรัฐ ที่ปรับตัวดีขึ้น

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ จากราคาน้ำมันเบนซิน RBOB ในสหรัฐ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ราคาน้ำมันเบนซินยังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศอินโดนีเซียอีกด้วย

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากอุปทานจากตะวันออกกลางและประเทศอินเดียที่เข้ามาในภูมิภาคมากขึ้น ประกอบกับอุปสงค์จากประเทศอินเดียปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า

           ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 43 - 48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

           ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 44 - 49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง 

- จับตาการประชุมกลุ่มโอเปคในวันที่ 25 พ.ย. นี้ โดยตลาดคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับข้อตกลงของกลุ่มโอเปคที่จะปรับลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 32.5-33.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยงที่กลุ่มโอเปคจะสามารถตกลงกันได้ หลังปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปคปรับเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับ 33.64 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์

- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรียมีแนวโน้มปรับลดลง หลังล่าสุดกลุ่ม Niger Delta Avengers โจมตีท่อขนส่งน้ำมันดิบ Bonny Light ที่มีปริมาณการผลิตโดยเฉลี่ยราว 0.21 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2559 ซึ่งนับเป็นการโจมตีครั้งที่สองต่อเนื่องจากต้นเดือน พ.ย. ที่กลุ่มดังกล่าวได้ทำการโจมตีท่อขนส่งน้ำมันดิบ Forcados

- ตลาดมีความกังวลกับภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดในสหรัฐมากขึ้น หลังปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 13.2% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สิ้นสุดวันที่ 11 พ.ย. 2559 ที่ปรับเพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้และนับเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน

                                                                               -----------------------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-797-2999