MORNING CALL ACTION NOTES (17 พ.ย.59)

ดัชนีหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวในกรอบแคบเนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน รวมถึงแรงกดดันจากกระแส Fund Flow ที่ยังคงไหลออกต่อเนื่องตั้งแต่เดือนต.ค. ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,474.64 จุด (-1.82 จุด) Vol. 5.6 หมื่นลบ.โดย Foreign Net –2,079 ลบ. TFEX Net +9,287 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

- ตลาดหุ้น DJ อ่อนตัวลงหลังประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์สนับสนุนให้ FED ปรับตัวขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 13- 14 ธ.ค. รวมถึงแรงขายในกลุ่มธนาคารหลังดีดตัวขึ้นหลายวัน

+/- ราคาน้ำมันทรงตัวล่าสุด 45.9 US/Barrel แม้สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 746,000 บาร์เรล แต่รัสเซียคาดว่ากลุ่มโอเปกจะได้ข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.

- สื่อทีวีดิจิทัลแจ้งผลประกอบการQ3/59 กำไรลดต่อเนื่อง เหตุแข่งขันเพิ่มขึ้น มีผู้ประกอบการรายใหม่ชิงเม็ดเงินโฆษณา เอกชนรายใหญ่ลดโปรโมตสินค้า

- Foreign เป็น Net Sell เดือนพ.ย. 2.2 หมื่นลบ. และตั้งแต่เดือนต.ค. เป็น Net Sell 4 หมื่นลบ.

+/- MSCI ประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออกมีผลบังคับใช้ 30 พ.ย. ได้แก่ MSCI Thailand เพิ่ม BJC, KCE ออก ไม่มี / MSCI Global Small Cap เพิ่ม COM7, MALEE, TKN, TFG ออก ASP, BJCHI, CBG, COL, CGD, DNA, KCE, ROJNA

** 17 พ.ย. ติดตามนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด เข้าแถลงต่อสภาคองเกรส เพื่อแสดงมุมมองเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ

ภาวะตลาดหุ้นไทยถูกแรงกดดันจากความกังวล FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ย และ Fund Flow ที่ไหลออกต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นที่ได้เข้าคำนวณ MSCI รอบใหม่ช่วยพยุงดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัว 1,465 – 1,485 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยบวก 

- TTA PSL ค่าระวางเรือทำ High ในรอบ 1 ปีล่าสุด 1,145 จุด

- STA TRUBB ราคายางพาราขึ้นทำ High ในรอบ 1 ปีล่าสุด 206 Yen/Kg

- IVL ราคาฝ้ายทำ High ในรอบ 2 เดือน ล่าสุด 72.2 USD/Tons

- กลุ่มพลังงาน คาดการประชุมกลุ่มโอเปก 30 พ.ย. จะลดกำลังการผลิตลง

- กลุ่มวางระบบ ICT (INET ILINK ALT SYMC AIT SAMTEL JTS) ลุ้น ครม.สัปดาห์หน้าเดินหน้าโครงการเน็ตหมู่บ้าน วงเงิน 1.5 หมื่นล้าน

- กลุ่มส่งออก ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าล่าสุด 35.4 Bath/USD.

Analyst Meeting

PTT    ราคาปิด 337 บาท   แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 372 บาท

- ความคืบหน้าโครงการก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างท่ารับแห่งที่ 2 เฟส 1 ทำให้สามารถรับก๊าซ LNG เพิ่มได้อีก 2 ตันต่อปีรวมเป็น 7 ตันต่อปีภายในปี 2016 และในปี 2019 มีแผนจะขยายท่ารับก๊าซ LNG อีก 4.5 ตันต่อปีเป็น 11.5 ตันต่อปี

- การนำ PTT Retail (ดำเนินธุรกิจค้าปลีกและร้านกาแฟอเมซอน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และการเปิดโรงแรมในสถานีจำหน่ายน้ำมันกำลังอยู่ระหว่างการศึกษา

หุ้นมีข่าว

- SC (ราคาปิด 3.42 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 4.40 บาท) เลื่อน 4 โครงการไปเปิดต้นปีหน้าหลังจากพิจารณาถึงสถานการณ์ใน Q4/59 โดย 4 โครงการดังกล่าวมูลค่ารวมประมาณ 11,000 ล้านบาทเป็นโครงการแนวราบ 2 โครงการและคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ผู้บริหารจึงปรับเป้ายอดขายปี 59 เหลือ 12,000 ล้านบาท และคาดว่ารายได้จะต่ำกว่าเป้า 15,000 ล้านบาท แต่ด้วยผลการดำเนินงานที่ดีในช่วง 9 เดือนแรก จึงยังมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตกว่าปี 58 ทั้งนี้ใน Q4/59 จะเปิดโครงการบ้านหรูโครงการเดียว "แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9" มูลค่า 1,450 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 40 ล้านบาท ในวันที่ 26-27 พ.ย. นี้ ส่วนความคืบหน้าโครงการ "SC TOWER" อาคารสำนักงานเกรด A บนถนนพหลโยธิน พื้นที่เช่า 12,250 ตารางเมตร ปัจจุบันการก่อสร้างเป็นไปตามแผนงาน คาดจะแล้วเสร็จปลายปี 59 พร้อมเปิดใน Q1/60

- GUNKUL แจ้งว่าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม โรงไฟฟ้าวายุวินด์ฟาร์ม จำนวน 50 MW ของบริษัท พัฒนาพลังงานลม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยนั้น ได้ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วเมื่อวันที่ 16 พ.ย. หลังจากก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าซับพลูวินด์ฟาร์ม 1 และโครงการซับพลูวินด์ฟาร์ม 2 จำนวน 10 เมกะวัตต์แล้ว เมื่อวันที่ 17 มี.ค.59

- BWG ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษายืนตามศาลปกครองกลางให้ยกฟ้องในคดีที่มีผู้ร้องขอปิดกิจการฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐไม่ปิดศูนย์กำจัดกากขยะอุตสาหกรรม จ.สระบุรี (ที่มากรุงเทพธุรกิจ)

- CHOW โครงการโซลาร์ รูฟท็อป กำลังผลิตรวม 6.64 MW เดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์แล้ว และเมื่อรวมกับโครงการที่ขายไฟฟ้าแล้วในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 24.04 MW จะส่งผลให้บริษัทมีโครงการที่จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และรับรู้รายได้แล้ว จำนวน 30.68 Mw

- ประเด็นบวก SR ได้งานใหม่โครงการออกแบบ-ติดตั้งระบบไฟฟ้าคลังน้ำมันนครลำปาง 112 ลบ.


ตลาดหุ้นดาวโจนส์ -54.92 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,868.14 จุด ลดลง 54.92 จุด หรือ -0.29% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,294.58 จุด เพิ่มขึ้น 18.96 จุด หรือ +0.36% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,176.94 จุด ลดลง 3.45 จุด หรือ -0.16% หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการปรับฐานลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวทะยานขึ้นติดต่อกันหลายวัน อันเนื่องมาจากความหวังที่ว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะครอบคลุมถึงการลดกฎข้อบังคับในภาคธนาคาร

ตลาดน้ำมัน NYMEX -0.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 45.57 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากเจ้าหน้าที่รัสเซียคาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปกจะสามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน