CPALL - ซื้อ

CPALL - ซื้อ

Opportunity to buy

ประเด็นการลงทุน

การออกตราสารหนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะทำให้งบดุลแข็งแกร่งขึ้น และจะลดความเสี่ยงการถูกเรียกคืนเงินการบริโภคที่ชะลอตัวในช่วงที่ประชาชนเศร้าโศกอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการไตรมาส 4/59 ซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคาหุ้นในระยะสั้น แต่เรามองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการสะสมหุ้นเข้าพอร์ตมากขึ้น เนื่องจากการโตบโตในระยะกลางและระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง PE ในปี 2560 ที่ 27.3x เท่า เป็นที่น่าสนใจ เนื่องจากต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 27.8x เท่า เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” CPALL โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2560 ที่ 73.5 บาท/หุ้น

การออกตราสารหนี้จะส่งผลให้งบดุลแข็งแกร่ง

CPALL จะออกตราสารหนี้มูลค่าหนึ่งหมื่นล้านบาท (ลงนามวันที่ 24-29 พฤศจิกายน) โดยให้สิทซื้อคืนได้หลังจาก 5 ปี และจ่าย unconditional interest deferral เนื่องจากแผนที่จะขายหุ้นMAKRO บางส่วนจะยังไม่เกิดขึนในอนาคตอันใกล้ การออกตราสารหนี้ครั้งนี้จะทำให้งบดุลแข็งแกร่งเนื่องจากตราสารหนี้คล้ายกับหุ้น คาดสัดส่วนหนี้สินต่อสัดส่วนผู้ถือหุ้นสุทธิจะลดลงอย่างมากจาก 3.8x เท่า ณ สิ้นสุดเดือนกันยายน 2559 มาอยู่ที่ 2.5x เท่า ในปี 2559 และ 2.1x เท่าในปี 2560 ซึ่งต่ำกว่า bond covenants ที่ 3.5x เท่าในปี 2559 และ 2.5x เท่า ในปี 2560อัตราดอกเบี้ยที่สูงสำหรับพันธบัตรนี้( 5% ในปีที่ 1-5, พันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี +3.63% ในปีที่ 6-10, +4.13% ในปีที่ 11-50, และ +5.13% ตั้งแต่ปีที่ 51 เป็นต้นไป) ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยสำหรับพันธบัตรนี้จะไม่ถูกรายงานลงในงบกำไรขาดทุน แต่จะถูกลบจากกำไรสะสมโดยตรง และจะมีผลกระทบต่อการจ่ายปันผลของ CPALL ไม่มาก เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยคิดเป็นเพียง 5% ของอัตราปันผลที่คาดในปี 2560

สิทธิที่จะซื้อพันธบัตรคืนอาจถูกใช้ในปี 2564-2565

เราคาดตราสารหนี้จะถูกซื้อคืนทันทีหลังจากที่ได้รับสิทธิการขายในเดือนธันวาคม 2564 เนื่องจาก้ราคาด CPALL จะสามารถขายหุ้น MAKRO ได้ก่อนช่วงดังกล่าว อ้างอิงจากค่า PE ของ CPALL ในรูปที่1 หน้า4 เราคาดราคาหุ้น MAKRO จะค่อยๆสูงขึ้นมาอยู่ที่ PE 35x เท่า เนื่องจากผลประกอบการและการเติบโตเริ่มฟื้นคืนสู่สภาวะปกติ หากมีการซื้อ-ขาย MAKRO ในช่วงนี้ ราคาหุ้นจะสูงกว่าต้นทุนรวมของ CPALL (ราคาเข้าซื้อกิจการและต้นทุนยกมา) ในเดือนมกราคม ปี 2561 ซึ่งอาจนำไปสู่การขายหุ้น MAKRO การขายหุ้นเหล่านี้จะไม่เพียงแต่ทำให้งบดุล CPALL แข็งแกร่งขึ้น แต่ยังได้กำไรจากการขายหุ้น และผลประกอบการในระยะกลางดีขึ้นอีกด้วย เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยที่ลดลง

ผลประกอบการอ่อนแอในระยะสั้น

ยอดขายไตรมาส 4 อ่อนแอ เนื่องจากยอดขายเครื่องดื่มแอลกฮอร์ลดลงและการบริโภคอ่อนตัวในช่วงที่ประชาชนโศกเศร้าโดยเฉพาะในเวลากลางคืน อย่างรก็ตาม ผู้บริหารกล่าวว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วและยอดขายเริ่มฟื้นตัว เรามองว่ายอดขายที่ลดลงเป็นเพียงชั่วคราว และจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นฐานบริษัท แนวโน้มการเติบโตในระยะยาวยังคงแข็งแกร่งเนื่องจากมีการขยายและพัฒนาสาขาที่มีอยู่