คงมุมมองมี post-election rally /เป้าทดสอบ 1550-1570 จุด

คงมุมมองมี post-election rally /เป้าทดสอบ 1550-1570 จุด

คงมุมมองมี post-election rally /เป้าทดสอบ 1550-1570 จุด

UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ :  คงมุมมองมี post-election rally ไม่เปลี่ยน/ เป้าทดสอบ 1550-1570 จุด

โดนัล ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งและขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ ทั้งนี้ชัยชนะของทรัมป์เป็นสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในความคาดหมายกระแสหลักของตลาด และนักลงทุนกังวลถึงความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะจากนโยบาย “ทำให้สหรัฐฯ ยิ่งใหญ่อีกครั้ง (Make America Great Again)” จะทำให้เกิดการกีดกันทางการค้า ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกหดตัว และทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงราว 3-4% ขณะที่ทองคำปรับขึ้นจาก 1,272 ไป 1,337 เหรียญฯ ก่อนที่นักลงทุนจะเริ่มหายตระหนกและเริ่มกลับมามีมุมมองผ่อนคลายต่อความเสี่ยง ดัชนี VIX Index ปรับลดลงจาก 21.48 สู่ 14.38 จุด

การรับตำแหน่งของทรัมป์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองว่าหุ้นจะฟื้นตัวหลังการเลือกตั้ง (post-election rally) ของเราแต่อย่างใด เรายังคงคาดการชะลอตัวของการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ เป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง ขณะเดียวกันธีมการลงทุนจากการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ (รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล) กลับยิ่งชัดเจนมากขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี ของสหรัฐฯ ปรับขึ้นจาก 1.8583% เป็น 2.0681% หรือขึ้นถึง 11.29% ถึงแม้โอกาสที่เฟดจะปรับเพิ่มดอกเบี้ยธ.ค.ปรับขึ้นจากต่ำกว่า 50% เป็น 82% เป็นปัจจัยลบ แต่ชัยชนะที่ตลาดไม่ได้เผื่อใจเอาไว้ จะทำให้นักลงทุนต้องเร่งปรับพอร์ตการลงทุนในช่วงเวลาที่มีอย่างจำกัด ซึ่งเราคาดประเด็นนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงผลักดัน SET Index ขึ้นทดสอบ 1550-1570 จุด

สำหรับปัจจัยอื่นๆ: ประชุมกนง.วานนี้ คงดอกเบี้ยที่ 1.5% แต่ส่งสัญญาณเศรษกิจฟื้น รวมทั้ง รองนายกฯ สมคิดชี้ลงทุนเมะโปรเจคปี 60 มากเป็นประวัติการณ์ บวกต่อ กลุ่มบริโภคในประเทศ ธนาคาร เช่าซื้อ รับเหมาฯ

แนวรับ/แนวต้าน : 1492-1500/1515-1520, 1550 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

คำแนะนำทางกลยุทธ์ : เพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นเป็น 60% (จาก 30%) ลุ้น Post-election rally พา SET Index ทะลุ 1520 จุด เลือก หุ้นบริโภคในประเทศ (ธนาคารและเช่าซื้อ) หุ้นพลังงานต้นน้ำและปิโตร รวมทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และมีฐานการผลิตหรือเติบโตอิงสหรัฐฯ ยังขอเลี่ยงหุ้นกลุ่มบันเทิงเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดประมาณการ // หุ้น top pick เชิงกลยุทธ์ BLA*, PTT, S11* / เก็งกำไร BJCHI*

ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์

- หุ้นลงทุนในธุรกิจพลังงานเหมืองแร่: BJCHI*, STPI*, SQ*

- หุ้นที่มีธุรกิจ หรือฐานการผลิตในสหรัฐฯ: IVL, EPG, TU

- หุ้นกลุ่มเช่าซื้อและบริโภคเป็นบวก: S11*, TK*, TCAP*, TISCO*, DRT, ROBINS, CPALL

- หุ้นลุ้น SET ทะลุ 1520: ธนาคาร - KBANK SCB/ พลังงาน - PTTGC PTT PTTEP/ Valuation ถูก – HANA* BCP

- หุ้นโภคภัณฑ์: TTA* PSL* STA* TRUBB* KBS* 

- หุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น (เงินเฟ้อ): BLA*, TIP*, EASTW*

- หุ้นที่ได้รับแรงหนุนจากฤดูกาลปลายปี: TU, ROBINS, BCP, AP, BDMS, BH, BCH, DCC

หุ้นแนะนำ

BLA* (60) : คาดหุ้นผ่านจุดต่ำสุดที่เกิดจากการตั้งสำรองผลตอบแทนแล้ว ขณะที่ผลตอบแทนการลงทุนในอนาคตมีแนวโน้มดีขึ้นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวเป็นขาขึ้นชัดเจน

PTT (405) : ภาพรวมธุรกิจก๊าซที่คาดว่าจะดีขึ้นในช่วง 2H59 นอกจากนี้เราคาดว่า PTT จะได้ประโยชน์จาก พ.ร.บ. กองทุนน้ำมันใหม่ (คาด สิ้นปี 59 นี้) รวมทั้งหุ้นพลังงานมีแนวโน้มถูก re-rate ขึ้นจากเงินเฟ้อทั่วโลก

S11* (11) : บริษัทปล่อยสินเชื่อจักรยานยนต์ ซึ่งน่าจะได้ประโยชน์จาก ยอดจดทะเบียนจักรยานยนต์ ก.ย.ที่เติบโต 13.4% การบริโภคที่ฟื้น และ NPL ที่ควบคุมได้ ราคาปัจจุบันอยู่ที่เพียง PER 12 เท่า (concensus)

BJCHI* (7) : เก็งกำไรประเด็นสหรัฐฯ หนุนลงทุนเพิ่มในธุรกิจพลังงาน / ตัดขาดทุนที่ 5.85 บาท

(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH/หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน

ปัจจัยภายในประเทศ

+ กนง. เสียงเอกฉันท์คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% รับเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ เกาะติดการท่องเที่ยว หลังรัฐจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญ นักท่องเที่ยวจีนหายไป 2 แสน กลุ่มธุรกิจบริการรายได้ตก เศรษฐกิจโลกเปราะบาง เงินทุนเคลื่อนย้ายผันผวน เตรียมประเมินเป้าจีดีพีใหม่ 21 พศจิกายนนี้ (แนวหน้า)

+ นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนตุลาคมชะลอตัวลงเล็กน้อยตามราคาอาหารสด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ โดยคณะกรรมการประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่กรอบเป้าหมายช้ากว่าที่ประเมินไว้เดิม หรือหลุดจากกรอบเป้าหมายในปีนี้ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับราคาอาหารสดและพัฒนาการของราคาน้ำมันโลกที่ยังมีควาไม่แน่นอนสูง แต่โดยรวมอัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังมีทิศทางทยอยปรับสูงขึ้น (แนวหน้า)

+ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ภายหลังที่กระทรวงเกษตรฯเปิดตัวเดินหน้าสนับสนุนโครงการส่งเสริมเกษตรทฤษฎีใหม่และเกษตรผสมผสาน ขณะนี้มีผู้สมัครเข้ามาเกินเป้าจำนวน 94,994 ราย เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณ 37% จากเป้าหมายที่วางไว้ 70,000 แห่ง ซึ่งกระทรวงจะดำเนินการคัดเลือกและสรุปยอดตามเป้าหมายที่วางไว้ภายใน 20 พฤศจิกายนนี้ แบ่งเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) จำนวน 42,839 ราย ภาคเหนือ 20,514 ราย ภาคกลาง 18,031 ราย และภาคใต้ 13,610 ราย (มติชน)

+ นายดรุณ แสงฉาย รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้ผู้อำนวยการท่าอากาศยานทุกแห่งในสังกัดทั้ง 28 แห่ง เร่งประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันอันตรายจากการปล่อยโคมลอย โคมควัน และการจุดบั้งไฟ โดยให้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาคราชการและภาคเอกชนในจังหวัด รณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบและความเสี่ยงจากการปล่อยโคมลอย โคมควัน และการจุดบั้งไฟ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่ออากาศยาน ชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่น ซึ่งอาจได้รับโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (มติชน)

ปัจจัยต่างประเทศ 

+ 'ทรัมป์' ช็อกโลกชนะ 'คลินตัน' 289 ต่อ 218 เสียง นั่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 ประกาศสัญญาเป็นผู้นำของชาวอเมริกันทุกคน คนไทยผวานโยบาย-ขอกลับประเทศ ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงระนาว หันมาซื้อทองคำแทน 'แทมมี ดักเวิร์ธ' ส.ส.มะกันเชื้อสายไทยคว้าเก้าอี้ ส.ว. (มติชน)

+ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันพุธตามการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นและดอลลาร์หลังจากร่วงลงอย่างหนักในช่วงเช้าจากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 พ.ย.เพิ่มขึ้นเกินคาด 2.4 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นลดลงน้อยกว่าคาด 1.9 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินลดลงเกินคาด 2.8 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นเกินคาด 1.9% สู่ 87.1% (รอยเตอร์)

+ ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นในวันพุธหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งหนุนหุ้นกลุ่มผู้ผลิตเวชภัณฑ์และกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นอย่างมาก โดย ดัชนี DAX ของตลาดหุ้นเยอรมนีปิดพุ่ง 163.69 จุดหรือ 1.56% สู่ 10,646.0, ดัชนี CAC-40 ของตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดบวก 66.59 จุดหรือ 1.49% สู่ 4,543.48, ดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปปิดพุ่ง 21.10 จุดหรือ 1.6% สู่ 1,343.63, ดัชนี STOXX 600 สำหรับหุ้นทั่วยุโรปปิดบวก 4.90 จุดหรือ 1.46% สู่ 339.81 (รอยเตอร์)