ระวังด้วย “สวยซ่อนพิษ”

ระวังด้วย “สวยซ่อนพิษ”

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ มักจะมีการพบ “แมงกะพรุน” ในบริเวณริมชายฝั่งทะเลหลายแห่งของประเทศไทย

โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตราด ซึ่งพบแมงกะพรุนถ้วยเป็นจำนวนมาก ลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็น จนเกิดเป็นการท่องเที่ยว ทว่า แมงกะพรุนที่สวยงามต่างก็มีพิษร้ายที่ใช้ป้องกันตนเอง กรณีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการสัมผัสแมงกะพรุนจึงมีให้เห็นกันบ่อยๆ


เพื่อเป็นการให้ความรู้สำหรับนักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไปในการระแวดระวังพิษร้ายจากแมงกะพรุน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จึงจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “แนวทางการป้องกันและเฝ้าระวังภัยการปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้บาดเจ็บจากแมงกะพรุนพิษ” ไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมี สุทธิลักษณ์ ระวิวรรณ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) เป็นประธาน


อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ภัยคุกคามจากแมงกะพรุนพิษในพื้นที่ต่างๆ นั้น เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งไม่สามารถควบคุมไม่ได้ ฉะนั้นจึงต้องมีมาตรการในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 ทั้งนี้การบริหารจัดการ การกำหนดมาตรการ หรือการดำเนินการด้านประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ ความเข้าใจด้านความปลอดภัย การป้องกัน และเฝ้าระวัง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอ้างอิงฐานข้อมูลองค์ความรู้จากการสำรวจศึกษาวิจัยเกี่ยวกับแมงกะพรุนพิษ ข้อมูลสถิติเวชระเบียนสาธารณสุข เพื่อให้มีแนวทางบริหารจัดการในพื้นที่ ป้องกันภัย มีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อให้มีความปลอดภัยต่อชีวิตสูงสุด


สำหรับการป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากแมงกะพรุน โดยเฉพาะแมงกะพรุนไฟ หรือแมงกะพรุนกล่องที่มีพิษร้ายนั้น แนะนำให้สวมเสื้อผ้ามิดชิดขณะลงทะเลในพื้นที่และช่วงเวลาที่พบว่ามีแมงกะพรุนขึ้นมาชุกชุม เช่นระยะปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ซึ่งเสื้อผ้าที่แนะนำคือเสื้อแขนยาว กางเกงขายาวแบบแนบตัว และไม่ลงน้ำขณะมีคลื่นหรือพายุแรง เพราะกะเปาะพิษของแมงกะพรุนอาจหลุดลอยมาสัมผัสร่างกายจนเกิดอันตรายได้ หรือถ้าพบเห็นแมงกะพรุนแล้วให้อยู่ห่างไว้จะดีที่สุด


แต่...ถ้าระวังแล้วยังโดนพิษ ในแหล่งท่องเที่ยวหลายๆ พื้นที่จะมี “จุดวางน้ำส้มสายชู” ไว้เพื่อการช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งน้ำส้มสายชูนั้นมีฤทธิ์ในการหยุดพิษไม่ให้เข้าร่างกายเพิ่ม โดยต้องเทราดบริเวณที่โดนพิษแบบต่อเนื่องอย่างน้อย 30 วินาที เพื่อระงับการยิงพิษ อย่างไรก็ดี น้ำส้มสายชูไม่ได้ช่วยลดอาการเจ็บปวด เมื่อบรรเทาอาการเบื้องต้นแล้วจึงควรนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลในทันที


สิ่งมีชีวิตบนโลกนี้มีทั้งแง่งามที่ให้คุณ ในขณะเดียวกันก็ซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ และจะใช้ก็ต่อเมื่อมันรู้สึกว่า ไม่ปลอดภัย