ครม.ไฟเขียวแพคเกจช่วยเหลือผู้สูงอายุ

ครม.ไฟเขียวแพคเกจช่วยเหลือผู้สูงอายุ

"กอบศักดิ์" เผย ครม.อนุมัติ 4 แพ็คเกจช่วยผู้สูงอายุ ทั้งหนุนเอกชนจ้างแรงงานสูงอายุ-สร้างที่พัก-สินเชื่อ พร้อมกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ว่า ที่ประชุมครม.อนุมัติมาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุ ประกอบด้วย การจ้างงานผู้สูงอายุ การสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ และการบูรณาการระบบบำเหน็จบำนาญ โดยจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ และกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ

สำหรับมาตรการดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าประเทศไทยได้เข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ คือ มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปไม่ต่ำกว่า 10% ของประชากรทั้งงหมด มาตั้งแต่ปี 2551 และสิ้นปี 2558 ประเทศไทยมีอัตราส่วนผู้สูงอายุคิดเป็น 15% ของประชากรทั้งประเทศและคาดว่าจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ หรือมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปไม่ต่ำกว่า 20% ของประชากรทั้งประเทศในปี 2568 ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวนั้นประกอบด้วย

1.การจ้างงานผู้สูงอายุ เพื่อส่งเสริมให้นายจ้างมีการจ้างงานผู้สูงอายุผ่านการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยให้บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หักรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายประเภทเงินเดือนและค่าจ้างสำหรับการจ้างงานบุคลากรผู้สูงอายุ

2.การสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ โดยสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุบนที่ราชพัสดุ โดยกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง นอกจากนี้ยังสนับสนุนการสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุบนพื้นที่อื่น โดยเคหะแห่งชาติ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ธนาคารออมสิน รับผิดชอบ โดยสนับสนุนสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนโดยให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐสนับสนุนสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนให้แก่ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการพัฒนาโครงสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Pre-finance) ในวงเงินรวมไม่เกิน 4,000 ล้านบาท

3.สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุนำสินทรัพย์ที่ตนมีกรรมสิทธิ์มาเปลี่ยนเป็นรายได้ในการดำรงชีพ ซึ่งมูลค่ามาเปลี่ยนเป็นรายได้ในการดำรงชีพ ซึ่งมูลค่าเงินที่กู้ได้จะขึ้นอยู่กับอายุของผู้กู้ มูลค่าบ้านและอัตราดอกเบี้ย โดยให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐเป็นผู้นำร่องผลิตภัณฑ์โดยผู้กู้จะต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย อายุสัญญามี 2 รูปแบบ คือ อายุสัญญาตามอายุขัยของผู้กู้ และอายุสัญญาที่กำหนดช่วงเวลา โดยให้จัดตั้งบริษัทค้ำประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อค้ำประกันความเสี่ยงของสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ

4.การบูรณาการระบบบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ เพื่อกำหนดให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่จัดทำนโยบายและกำหนดทิศทางในการพัฒนาและกำกับดูแลระบบำเหน็จบำนาญของประเทศให้มีความครอบคลุม และจัดตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ หรือ กบช.เพื่อเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ สำหรับแรงงานในระบบที่มีอายุตั้งแต่ 15-60 ปี ครอบคลุมลูกจ้างเอกชน ลูกจ้างชั่วคราวส่วนราชการ พนักงานราชการ ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยกำหนดให้นายจ้างและลูกจ้างต้องร่วมกันส่งเงินเข้ากองทุนในอัตรา 3% ของค่าจ้าง