'พาณิชย์' ชี้ราคาขายข้าวสารยังทรงตัว

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำรวจราคาสินค้าอาหารสด รวมถึงการจำหน่ายเสื้อดำและข้าวสารที่ตลาดสดมีนบุรี พบว่าราคาอาหารส่วนใหญ่ยังคงทรงตัว โดยพริกขี้หนูขีดละ 10 – 12 บาท มะนาว 3 ลูก 10 บาท คะน้า 40 บาทต่อกิโลกรัม กะหล่ำปลี 50 บาทต่อกิโลกรัม ไข่ไก่เบอร์ 2 แผงละ 81 บาท ส่วนราคาไก่สดปรับลดลงประมาณ 10 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากความต้องการมีน้อยลง

ขณะที่ราคาข้าวสารขายปลีกยังคงปกติไม่ได้ลดลง และผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงสนใจซื้อข้าวหอมมะลิไปรับประทาน โดยผู้บริโภคจะเลือกตราสินค้าที่นิยมซื้อประจำ ราคาข้าวหอมมะลิปทุมกิโลกรัมละ 32 บาท ข้าวหอมสุรินทร์กิโลกรัมละ 38 บาท ข้าวหอมมะลิใหม่กิโลกรัมละ 40 บาท ส่วนข้าวขาวเจ้ากิโลกรัมละ 28 – 32 บาท

นอกจากนี้ ทางกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบราคาข้าวและผลผลิตข้าวในพื้นที่ที่ผลผลิตข้าวกำลังจะออก ตลอดจนเชื่อมโยงเครื่องจักร อุปกรณ์การเก็บเกี่ยว เครื่องสีข้าว เครื่องอบแห้ง เพื่อลดความชื้น ตลอดจนเครื่องบรรจุข้าวสารและบรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุเป็นข้าวสารบรรจุถุง ให้กับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มงานให้เกษตรกรโดยเร็ว ขณะเดียวกันรัฐบาลยังมีมาตรการดูแลราคาข้าว จึงเชื่อว่าจะทำให้ราคาข้าวฤดูกาลผลิตปี 2559/2560 จะดีขึ้นอย่างแน่นอน นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังเร่งทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยวันที่ 13-16 พฤศจิกายนได้เชิญคณะผู้แทนทางการค้ากว่า 170 ประเทศทั่วโลกมาเจรจาจับคู่ธุรกิจซื้อขายข้าว รวมทั้งยังมีแผนเดินทางไปโรดโชว์ในกลุ่มประเทศแอฟริกาและตะวันออกกลาง เพื่อให้เกิดการซื้อขายข้าวมากขึ้น ทั้งแบบรัฐต่อรัฐและเอกชนกับเอกชน

ขณะเดียวกันกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพยายามส่งเสริมให้เกษตรกรและลูกหลานชาวนาเข้ามาทำการค้า ขายข้าว และสินค้าเกษตรผ่านออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางการขายและตลาดในการทำธุรกิจ ทำให้ราคาข้าวดีขึ้น การขายข้าวผ่านออนไลน์ไม่ผิดกฎหมายและสามารถทำได้ แต่เกษตรกรจะต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถทำธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ด้วย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เร่งให้ความรู้ในการทำธุรกิจออนไลน์และการเข้ามาทำการค้าในตลาดดอทคอม

ส่วนราคาเสื้อดำขณะนี้เริ่มปรับตัวลดลงต่อเนื่องและมีสินค้าเข้ามาจำหน่ายในตลาดมากขึ้นเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค โดยขณะนี้ราคาเสื้อคอกลมเฉลี่ยตั้งแต่ 30 – 180 บาท เสื้อโปโลสีดำราคาเฉลี่ย 150 – 350 บาท เนื่องจากภาครัฐและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือเชื่อมโยงวัตถุดิบผ้า เพื่อให้มีการผลิตเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคและไม่ให้เสื้อดำขาดตลาด