"บ๊อช"มั่นใจศก.ไทย-อาเซียน ลุยลงทุนรับ ‘ดีมานด์’

"บ๊อช"มั่นใจศก.ไทย-อาเซียน ลุยลงทุนรับ ‘ดีมานด์’

ภาคธุรกิจยังคงมั่นใจศักยภาพประเทศไทยและอาเซียนที่พร้อมเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง

นอร์แมน โรธท์ ประธานภูมิภาค บ๊อชอิเลคทริคัลไดร์ฟ เอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า บ๊อช สนใจที่จะลงทุนในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนทั้งตลาดเกิดใหม่ และในประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งช่วงที่ผ่านบ๊อชได้ลงทุนสร้างโรงงานผลิตระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีนในนิคอุตสาหกรรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี

โรงงานแห่งนี้นับเป็นโรงงานผลิตระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีนแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน และเป็นแห่งที่ 3 ในเอเชีย จากที่มีในจีน และญี่ปุ่น หากรวมทั่้วโลกมี 7 แห่ง การสร้างโรงงานดังกล่าวเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะประเทศไทย ที่เป็นฐานการผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก

“หากความต้องการใช้ชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทยขยายตัวขึ้น บริษัทก็พร้อมที่จะขยายการลงทุนในไทยต่อเนื่อง”

ขณะเดียวกัน บ๊อช ได้นำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ต่างๆ จากภูมิภาคใกล้เคียงเข้ามาประกอบและทำตลาดในไทย โดยเฉพาะจากจีนที่มีฐานการผลิตกลุ่มอะไหล่ชิ้นส่วนยานยนต์

ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย มีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง ประกอบกับเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน หากตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยเติบโตก็จะทำให้ตลาดของภูมิภาคนี้มีการเติบโตตาม

โรธท์ กล่าวว่า บ๊อชได้ทุ่มงบประมาณกว่า 350 ล้านบาท ศึกษาและวิจัยอย่างต่อเนื่อง สำหรับโรงงานบ๊อช ฉางชา ประเทศจีน โดยมีการใช้เทคโนโลยีในการผลิตแบบอัตโนมัติ รวมถึงห้องวิจัยและพัฒนา โดยมีผู้เชี่ยวชาญกว่า 4,600 คน เพื่อให้เชื่อมั่นว่าอะไหล่ทดแทนที่ผลิตจากโรงงานแห่งนี้ได้มาตรฐานระดับโลก

ล่าสุด ได้ส่งนวัตกรรมใหม่ในกลุ่มใบปัดน้ำแบบไร้โครง (Flat-Blade Wiper) ซึ่งบ๊อชเป็นผู้ผลิตรายแรกที่นำเข้ามาทำตลาด ปัจจุบันกว่า 90% ของผู้ผลิตรถยนต์ยุโรปส่วนใหญ่เลือกใช้ ขณะที่ญี่ปุ่นเริ่มนำไปใช้งานบ้างแล้ว นับเป็นเทรนด์การใช้งานในรถยนต์ญี่ปุ่นมากขึ้น

ปัจจุบัน โรงงานบ๊อช ฉางชา ผลิตใบปัดน้ำฝน 22 ล้านชิ้นต่อปี เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ผลิตได้ 20 ล้านชิ้น คาดว่าจากปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นคาดจะมีการผลิตถึง 25 ล้านชิ้นในปี 2560

สำหรับช่องทางจำหน่ายในไทย และประเทศต่างๆ ในอาเซียน อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย รวมถึงออสเตรเลีย ใช้ช่องทางที่หลากหลายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็ปไซต์ลาซาด้า รวมถึงร้านจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ต่างๆ

ส่วนผลการดำเนินงานของบ๊อชในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมียอดขาย 7.3 แสนล้านบาท เติบโต 17% เทียบปีที่ผ่านมา มีสัดส่วน 27% ของยอดขายบ๊อชทั่วโลกที่ทำได้ 7.06 หมื่นล้านยูโรในปื 2558

สำหรับบ๊อชประเทศไทย ประกอบด้วย 6 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจจัดจำหน่ายและอะไหล่รถยนต์ เครื่องมือไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัย เทคโนโลยีระบบความร้อน เทคโนโลยีขับเคลื่อนและควบคุม และเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ ภายใต้ 2 โรงงานการผลิตที่นิคมอมตะนครซิตี้ จ.ระยอง และนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี โดยบ๊อชประเทศไทยมียอดขายรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาทในปี 2558