ปูนกลาง9เดือนยอดขายปูนลด-ค่าใช้จ่ายลงทุนนอกเพิ่มกดกำไรวูบ16%

ปูนกลาง9เดือนยอดขายปูนลด-ค่าใช้จ่ายลงทุนนอกเพิ่มกดกำไรวูบ16%

“ปูนกลาง” เผย งวด 9 เดือนกำไรลดลง 16% ผลจาก“ยอดขายปูนลดลง-ภาระค่าใช้จ่ายลงทุนต่างประเทศเพิ่ม”

นายศิวะ มหาสันทนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC เปิดเผยผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2559 ปรากฎว่า มียอดขายเพิ่มขึ้น 5%  โดยมียอดขาย 24,793 ล้านบาท แต่ช่วงเดียวกันของปีก่อนมียอดขาย 23,712 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิลดลงจากปีก่อน 16% โดยมีกำไรสุทธิ 3,036 ล้านบาท ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3,621 ล้านบาท 

สาเหตุที่กำไรลดลง เนื่องจากภาระค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนในต่างประเทศ เช่น ค่าที่ปรึกษา ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ทั้งนี้บริษัทได้เข้าซื้อกิจการในประเทศศรีลังกาเมื่อวันที่ 10ส.ค.ที่ผ่านมา (บริษัท สยาม ซิตี้ ซีเมนต์ (ลังกา) จำกัด) ซึ่งการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายสุทธิให้แก่กลุ่มบริษัท5%เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว

ส่วนยอดขายของกลุ่มนั้น แม้ยอดขายสุทธิเพิ่มสูงขึ้นจากการลงทุนในศรีลังกาแต่ยอดขายในประเทศลดลง 3% ในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะราคาปูนซีเมนต์และสินค้าวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวลง อีกทั้งความต้องการของตลาดก่อสร้างที่ชะลอตัวลง

“โดยเฉพาะปริมาณการขายซีเมนต์ในประเทศของกลุ่มลดลง 2% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมบ่งชี้ว่า ปริมาณความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ลดลงร้อยละ 1 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว หรือเทียบเท่ากับ 25.8 ล้านตัน ความต้องการในตลาดที่ลดลงนี้ มีผลมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้การลงทุนและการบริโภคของภาคเอกชนลดลง ขณะเดียวกันยังไม่มีการดำเนินโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง”

ส่วนค่าใช้จ่าย 9 เดือนที่ผ่านมาลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินการลงทุนในกิจการต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายจากการปิดเตาเผา ค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น และต้นทุนทางการเงินที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3 

สำหรับ บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด ซึ่งประกอบด้วยอินทรีคอนกรีตและอินทรีอะกรีเกต มีปริมาณการขายคอนกรีตผสมเสร็จสำหรับ 9 เดือนเพิ่มขึ้น 6% แม้ราคาขายลดลงต่อเนื่อง ซึ่งการเติบโตของตลาดคอนกรีตผสมเสร็จในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งผลให้อินทรีอะกรีเกตมีแนวโน้มการเติบโตในทางบวก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์หินทรายขนาด 20 มิลลิเมตร 

"อินทรีอะกรีเกต มีปริมาณการขายสำหรับ 9 เดือนเพิ่มขึ้น 9% และการมีรายได้เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว"

ด้านยอดขายของอินทรีซุปเปอร์บล๊อกเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาสินค้าที่ขยับตัวสูงขึ้น แม้ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ผลประกอบการของอินทรีซุปเปอร์บล๊อกในไตรมาส 3 ยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับผลประกอบการในไตรมาสก่อน

ขณะที่ผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้สำหรับตกแต่ง (คอนวูด) บริษัท คอนวูด จำกัด มีผลประกอบการน่าพอใจ โดยมีรายได้ 347 ล้านบาท หรือเติบโต 8% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ผลิตภัณฑ์เด่นๆ ทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออกในไตรมาสที่ 3 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ไม้ตกแต่งพื้นคอนวูด และ ผลิตภัณฑ์ไม้ตกแต่งผนังคอนวูด 

"ภาพรวมแนวดน้มอุตสาหกรรมนั้น ความต้องการปูนซีเมนต์ยังคงลดลง และอาจจะแค่ทรงตัวในปีนี้เป็นอย่างดีที่สุด การลดลงของความต้องการในตลาดบวกกับสภาวะที่กำลังการผลิตล้นตลาดส่งผลให้ราคาซีเมนต์ในประเทศปรับตัวลง บริษัทย่อยแห่งใหม่ในประเทศบังคลาเทศและประเทศศรีลังกาได้ช่วยบรรเทาสภาวะอุปทานส่วนเกินของธุรกิจซีเมนต์ และสร้างผลกำไรให้แก่กลุ่มบริษัทอย่างมาก"นายศิวะ กล่าว

ส่วนการเคลื่อนไหวราคา ปูนกลาง ล่าสุด 11.42 น. ราคาซื้อขายที่ 293 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ 1.35% มูลค่าการซื้อขาย 25.34 ล้านบาท